เช้าวันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม 2561 มีการเผยแพร่แถลงการณ์ร่วมที่ออกในนามของกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์, สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ และสโมสรฟุตบอลโอเอช ลูเวิน ยืนยันว่านายวิชัย ศรีวัฒนประภา เป็นหนึ่งในผู้ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาพร้อมกับอีก 4 คนที่อยู่ในเฮลิคอปเตอร์ซึ่งทั้งห้าคนไม่มีใครรอดชีวิต
กรณีการเกิดอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวของนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทคิงพาวเวอร์ เจ้าของสโมสรฟุตบอล เลสเตอร์ซิตี้ และสโมสรฟุตบอลโอเอช ลูเวินตกเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา นอกสนามคิงส์พาวเวอร์สเตเดียมในอังกฤษ ได้มีการรายงานข่าวจากสื่อต่างประเทศมาต่อเนื่อง
สื่อต่างประเทศได้แสดงความเสียใจและความอาลัยต่อการจากไปของนายวิชัย ศรีวัฒนประภา โดยบางสำนักข่าวได้รายงานข่าวด้วยการปูพื้นด้วยสีดำเพื่อแสดงถึงความอาลัย เช่น The Guardian และThe Independent ขณะที่หลายสำนักข่าวรายงานข่าวยกย่อง นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ในฐานะที่นำสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ไปสู่ความรุ่งเรือง
ความสูญเสียของสโมสรและเมืองเลสเตอร์
แฟนสโมสรจำนวนมากและทีมงานด้านการรักษาความปลอดภัยของสโมสรได้พากันรวมตัวด้วยความเศร้าโศกเสียใจและแสดงความอาลัยต่อการจากไปของนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ที่สนามคิงพาวเวอร์เสตเดียมแม้ไม่มีการจัดการแข่งขัน และแสดงความเสียใจต่อครอบครัวศรีวัฒนประภาด้วยการวางดอกไม้ พวงหรีด ผ้าพันคอ ที่มีสัญลักษณ์สโมสร ภาพถ่ายพระพิฆเนศ กลอง เสื้อทีเชิร์ต และสิ่งของอื่นๆที่แสดงถึงชัยชนะของสโมสรในการแข่งขันพรีเมียร์ลีกปี 2016
ขณะที่แฟนสโมสรบางรายเขียนข้อความแสดงความเสียใจและความอาลัยอย่างสุดซึ้ง เช่น “คุณเป็นที่ทำให้ความฝันของผมเป็นจริง” ซึ่งอ้างอิงถึงการความแชมป์พรีเมียร์ลีกของสโมสรในปี 2016 ทั้งๆที่มีโอกาสน้อยมาก “เราหัวใจสลาย แต่จะระลึกถึงตลอดไป”
เอียน ดังค์ เป็นแฟนสโมสรมา 40 ปีซึ่งได้มาร่วมไว้อาลัยที่สนามกล่าวว่า “มีเจ้าของสโมสรฟุตบอลหลายรายที่เข้ามาเพื่อต้องการทำเงิน แต่ก็มีอีกหลายคนที่มีความตั้งใจจริง ใส่ใจและทุ่มเทให้กับทีมเลสเตอร์ และชุมชน เขาเป็นคนที่เรารักอย่างมาก นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกอย่างแท้จริงว่าเรามีเจ้าของสโมสรที่รักเราตอบ”
“ผมไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน แต่ผมต้องทำอะไรสักอย่าง ฟุตบอลคือชีวิตของผม เมืองเลสเตอร์เป็นชีวิตของผมมายาวนานและมีสิ่งที่คุณทำได้นอกเหนือจากการแสดงถึงความเคารพหรือไม่ ภรรยาผมมาด้วย เธอเศร้าใจมาก เราแค่ต้องการบอกว่าเรารับรู้ถึงการจากไป”
เทเรซา เชียเรอ แฟนสโมสรอีกราย ชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่ครอบครัวศรีวัฒนประภาทำให้กับเมืองเลสเตอร์และสโมสร โดยครอบครัวศรีวัฒนประภาซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจดิวตี้ฟรีได้บริจาคเงิน 2 ล้านปอนด์ให้กับโรงพยาบาลเด็กของเมือง
“เบื้องหลังของบางอย่างไม่มีเพียงแค่ชื่อเท่านั้น แต่ยังมีใบหน้าและบุคลิก เหมือนกับที่กล่าวกันว่า เสมือนเป็นคนในครอบครัวอย่างแท้จริง พวกเขาทำหลายอย่างมาก เขาใจดีและมีแต่ให้ พวกเขาไม่ต้องการอะไรเป็นสิ่งตอบแทน เป็นเรื่องที่เศร้ามาก พวกเขาให้เวลาสำหรับทุกคนและทุกอย่าง สำหรับเมืองเลสเตอร์” เทเรซากล่าวและเพิ่มเติมว่า “ลูกชายของฉันทำงานที่นี่ระยะหนึ่ง เป็นแฟนสโมสรมานาน ทุกวันนี้เขาเป็นโค้ชฟุตบอล พวกเขาให้โอกาสคนและช่วยสนับสนุนคนที่มีความฝัน”
ทั้งหมดแสดงนี้ให้เห็นว่าเป็นการสูญเสียความเศร้าใจของเมืองเลสเตอร์ไม่เฉพาะของสโมสรเท่านั้น บาทหลวงจากโบสถ์ในย่านนั้นหลังจากเสร็จสิ้นภาระกิจในช่วงเช้าได้ลงมารวมตัวอยู่กับแฟนสโมสร พร้อมปลอบโยนผู้คนที่เศร้าโศกเสียใจ
ผู้ที่มาร่วมแสดงความอาลัยไม่มีเฉพาะแฟนสโมสรเลสเตอร์ซิตี้เท่านั้น แต่แฟนสโมสรอื่นๆต่างพากันมาแสดงความอาลัยกับการจากไปของนายวิชัย ศรีวัฒนประภาด้วย ทั้ง วูลฟ์แฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์, แอสตัน วิลลา, โคเวนทรี ซิตี้, ลิเวิอร์พูล, สโมสรแมนเชสเตอร์ทั้ง 2 แห่ง และแม้แต่อินเตอร์ มิลานยังส่งเสื้อเชิร์ตและผ้าพันคอมาแสดงความอาลัยด้วย
เอียน ดังค์กล่าวว่า “ฟุตบอลดึงทุกคนมารวมกัน เรามีคู่แข่ง เราร้องเพลงใส่อีกฝ่าย แต่ท้ายที่สุดเราทุกคนรักฟุตบอล” นอกจากนี้ดังค์ยังได้เขียนข้อความแสดงความอาลัยว่า “ เราได้รับความรักจากคุณและรับความเจ็บปวดของคุณ” ซึ่งเป็นความรู้สึกของเขาในเช้าวันอาทิตย์เมื่อตื่นขึ้นมา
สำนักCNN รายงานข่าวเรื่อง”Football world mourns Vichai Srivaddhanaprabha, owner who made Leicester fairytale possible” ว่า ในนัดการแข่งขันวันจันทร์ระหว่างแมนเชสเตอร์ซิตี้ และสเปอร์ ผู้เล่นของทั้งสองสโมสรต่างคาดปลอกแขนสีดำเพื่อแสดงถึงความเคารพต่อผู้วายชนม์ รวมทั้งยืนไว้อาลัยด้วยความสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาที เช่นเดียวกันสโมสรอาร์เซนอลที่แสดงความเสียใจมายังสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ พร้อมกับทวีตข้อความว่าจะคาดปลอกแขนสีดำในนัดแข่งกับคริสตัลพาเลซ
CNN รายงานว่า สายธารแห่งความรักพากันหลั่งไหลไปสู่ผู้ที่พลิกชะตาทีมจิ้งจอก หรือ The Fox กลายเป็นเทพนิยาย เมื่อคว้าแชมป์พรีเมียร์ในฤดูกาล 2015-2016 ดังจะเห็นการแสดงความเสียใจและความอาลัยที่สนามแข่งและในโลกออนไลน์ จากแฟนสโมสรและนักเตะที่มีชื่อเสียงเพื่อแสดงความเคารพและให้เกียรติแก่ผู้จากไป
ประธานบริหารพรีเมียร์ลีก ริชาร์ด สคูดามอร์ ออกแถลงการณ์ว่า พรีเมียร์ลีกเศร้าสลดกับรายงานข่าวการจากไป “ขอแสดงความเสียใจและส่งใจมายังครอบครัวศรีวัฒนประภา รวมทั้งญาติ มิตรของผู้สูญเสียในอุบัติเหตุอันน่าเศร้า”
“คุณวิชัยเป็นสุภาพบุรุษที่ทำให้เกมการแข่งขันมีความสง่างามด้วยความสุภาพและความมีเสน่ห์ของเขา และเราจะระลึกถึงเขาอย่างมาก สิ่งที่เขาทำให้กับเลสเตอร์ ทั้งสโมสรฟุตบอลและเมือง จะได้รับการจดจำตลอดไป”
ขณะที่เจ้าของสโมสรลิเวอร์พูลชาวอเมริกัน จอห์น ดับเบิ้ลยู เฮนรี่, ทอม เวิร์นเนอร์ และไมค์ กอร์ดอน ได้ออกแถลงการณ์เช่นกันว่า “เรามีความชื่นชมต่อคุณวิชัย ครอบครัวและเพื่อนร่วมงานของคุณวิชัยเป็นอย่างมากในระดับที่คุณจะนึกถึง ทั้งด้านความเป็นมืออาชีพและโดยส่วนตัว”
“คุณวิชัยเป็นผู้ปกครองที่สุดยอดของสโมสรที่เขาซื้อมาและดูเป็นอย่างดี การได้รับชัยชนะในพรีเมียร์ลีกจากโอกาสที่แทบจะไม่มี เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของวงการฟุตบอล และแน่นอนว่าเป็นผลงานที่โดดเด่น”
“นอกจากนี้คุณวิชัยได้นำพาสโมสรในวิถีที่เราทุกคนซึ่งมีสถานะพิเศษต้องการที่จะทำ ความสำเร็จในสนามแข่งผสมผสานกับการจัดการที่ดีเยี่ยม
บรรดานักเตะของทั้งสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้และสโมสรอื่นต่างพากันแสดงความเสียใจและความอาลัยต่อจากไปของนายวิชัย ศรีวัฒนประภา โดยโมฮัมเหม็ด ซาลาห์ กองหน้าของลิเวอร์พูลทวีตข้อความว่า “เป็นวันที่น่าเศร้าของวงการฟุตบอล”ขอส่งใจและสวดภาวนาให้กับครอบครัวและมิตรของผู้จากไปอย่างน่าเศร้าใจ”
ผู้รักษาประตูของสโมสรเลสเตอร์ซิตี้แคสเปอร์ ชไมเคิล เขียนข้อความถึงครอบครัวศรีวัฒนประภาแสดงความเศร้าใจว่า “ผมไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ผมเห็นเมื่อคนนี้ ยากมากที่จะหาคำพูดใดมาบอกว่า คุณมีความหมายกับสโมสรนี้และเมืองเลสเตอร์นี้แค่ไหน”
“ผมไม่เคยเจอใครที่เหมือนคุณมาก่อน ที่ทำงานหนักมาก ทุ่มเท เอาจริงเอาจังและมุ่งมั่น ใจดีและใจกว้างอย่างสุดๆ”
เจมี วาร์ดี้ กองหน้าของสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ซึ่งมีส่วนในการฝ่าฟันอุปสรรคและคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ขนานนามนายวิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าของสโมสรว่า “เป็นหัวใจและจิตวิญญาณของเมืองเลสเตอร์”
ทางด้านกองหลังอย่าง แดนนี ซิมป์สันได้แสดงความเคารพต่อนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ซึ่งเป็นเจ้าของสโมสรมา 8 ปีว่า “ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่คุณทำให้ผม ผู้เล่น แฟนคลับ สโมสรและเมืองเลสเตอร์ทั้งเมือง”
“คุณทำให้ความฝันของผม และคนอื่นๆเป็นจริง ผมเสียใจและงงงันต่อสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เราจะทำให้ดีที่สุดเพื่อให้สโมสรเติบโต ขอให้คุณไปสู่สุคติครับ” เจ้านาย
ขณะที่กองหน้า เจมส์ แมดดิสัน แสดงให้เห็นว่าการสูญเสียบอส มีผลกระทบต่อเขาอย่างมากโดยกล่าวว่า “เสียใจและใจสลายจากข่าวที่ไม่มีผู้รอดชีวิตจากเฮลิคอปเตอร์ตกเมื่อวานนี้ ชีวิตบางครั้งไม่ยุติธรรม สุภาพบุรุษที่เต็มไปด้วยความคิดมหัศจรรย์ ผู้ซึ่งมีชีวิตและหายใจเป็นสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ ขอให้ไปสู่สุคติครับ บอส”
แฟนสโมสรต่างกันเขียนข้อความไว้อาลัยในออนไลน์ โดยมูฮัมหมิด ปาธาน ทวีตว่า “เศร้าใจมากเมื่อรับข่าวการจากไปของผู้ที่มีแต่ให้กับเมืองนี้ เป็นความทรงจำตลอดไปและการบริจาคเงินเพื่อการกุศลครั้งใหญ่”
ขณะที่ ไรอัน เรดแมน แฟนสโมสรอีกราย ทวีตว่า “โชคดีที่ได้เห็นผลบวกจากที่เขาทำให้กับเมืองเลสเตอร์”
จอร์แดน เบลลามี แฟนสโมสรเชฟฟิลด์เวนส์เดย์ กล่าวว่า “สำหรับแฟนฟุตบอลทุกคนแล้ว เลสเตอร์ เป็นเทพนิยายที่ดีที่สุดที่เคยมีมา” และหวังว่าจะเป็นตัวอย่างที่สร้างแรงบันดาลใจให้สโมสรอื่น
สเวน โกรัน เอริคส์สันชี้”วิชัย ใจกว้างมาก”
สเวน-เยอราน เอริกซอน หรือ สเวน โกรัน เอริคส์สัน ผู้จัดการสโมสรเลสเตอร์ซิตี้คนแรกที่ นายวิชัย ศรีวัฒนประภาจ้างมาทำหน่าที่หลังการซื้อสโมสรเสร็จสิ้นได้ให้สัมภาษณ์วิทยุบีบีซีเช้าวันอาทิตย์ขณะที่ยังไม่รายละเอียดของเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตก จากรายงานข่าวของ Dailymail ว่า “เป็นข่าวที่น่าตกใจมาก ผมรู้จักทุกคนในครอบครัวและคุณวิชัย”
“สิ่งที่คุณวิชัยทำให้กับเลสเตอร์เป็นสิ่งที่เหลือเชื่อมาก ทำให้สโมสรจากดิวิชั่น 2 ขึ้นมาที่คว้าชัยที่ดิวิชั่น 1 และเป็นสโมสรใหญ่ในพรีเมียร์ลีกของทุกวันนี้ เป็นสิ่งที่วิเศษสุด”
“คุณวิชัยมาที่สนามเสมอกับครอบครัว ผมคิดว่าเขาชมการแข่งขันทุกนัดในระหว่างที่ผมเป็นผู้จัดการและเขาเป็นส่วนหนึ่งในสโมสรเช่นเดียวกันสมาชิกคนอื่นในครอบครัว พวกเขาไปที่การฝึกซ้อม ไปคุยกับผู้จัดการ คุยกับครอบครัว สำหรับสโมสรแล้วพวกเขาสุดยอด”
สเวน โกรัน เอริคส์สัน ระงับความรู้สึกเป็นระยะในช่วงการให้สัมภาษณ์ เปิดเผยอีกว่า วิชัยปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะผลักดันสโมสรให้เป็นสโมสรใหญ่อันดับต้นๆ
“เมื่อผมมาทำหน้าที่คุมสโมสร คุณวิชัยบอกว่า เขาต้องการดันสโมสรให้เป็นสโมสรใหญ่ของพรีเมียร์ลีก และทุกคนก็รับรู้ความต้องการนี้ไม่ได้เป็นความลับอะไร”
“คุณวิชัยไล่ผมออก ซึ่งผมคิดว่าเขาทำถูกแล้ว เพราะผมซื้อตัวนักเตะผิดพลาด ซึ่งก็ยุติธรรมแล้วที่เขาทำแบบนั้นและผลลัพธ์ก็คือสโมสรไปไกลมาก”
สเวน โกรัน เอริคส์สัน กล่าวถึงว่า วิชัย ศรีวัฒนประภาเจ้าของสโมสรว่า เป็น คนที่ใจกว้างมากมากและประเมินว่าการสูญเสียวิชัยจะมีผลต่อสโมสร
สเวน โกรัน เอริคส์สัน เป็นผู้จัดการคนแรกของสโมสรที่นายวิชัย ศรีวัฒนประภาว่าจ้างมาทำหน้าที่หลังการซื้อสโมสรจากมิลาน แมนดาริค ใน 8 ปี ด้วยมูลค่า 39 ล้านปอนด์ เพราะเห็นว่า สเวน โกรัน เอริคส์สันมีความสามารถผ่านการคุมทีมทั้งระดับสโมสรและระดับนานาขาติมาแล้ว
นายวิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าของสโมสรกลายเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆสโมสรและนักเตะชั้นนำของทีมหลังจากที่สโมสรรุ่งเรืองสุดๆ จากการคว้าแชมป์พรีเมียร์ในฤดูกาล 2015-2016 ชนิดที่วงการไม่คาดคิดมาก่อน
แฟนสโมสรจะได้ดื่มเบียร์ฟรีในโอกาสสำคัญๆของสโมสร และครอบครัวศรีวัฒนประภายังใจป้ำด้วยการซื้อรถยนต์บีเอ็มดับเบิ้ลยู รุ่น BMWi8s สีรอยัลบลูราคาคันละ 105,000 ปอนด์แจกให้กับนักเตะทุกคน
“ถ้าคุณได้รู้จักเขา เหมือนกับที่ผมรู้จักเขา เช่นเดียวกับทั้งทีม และสต๊าฟ คุณจะรู้ว่าเขาเป็นคนที่ใจกว้างมาก ทั้งกับ นักเตะ สต๊าฟที่ทำงานให้เขา”
“นอกเหนือจากนี้ในด้านแฟนสโมสรและเมืองเลสเตอร์ จากที่ผมรู้จักเขา เขาใจกว้างสุดสุด ไม่ใช่เพียงแค่จ่ายเงินเดือนและการให้สิ่งของอื่นๆ เมื่อไปช้อปปิ้งในลอนดอน เขาก็จ่ายเงินให้กับการซื้อแจ็กเก๊ต และอื่นๆ นับว่าใจกว้างมาก มาก เป็นผู้ชายที่ใจกว้างมาก”
ชาวเมืองเลสเตอร์ยกย่อง”มนุษย์ผู้ยิ่งใหญ่”
สื่อต่างประเทศยังได้รายงานถึงความสำเร็จของ นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ที่ผลักดันให้สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ก้าวสู่แชมป์พรีเมียร์ลีกได้ โดย CNN รายงานความเห็นของชาวเมืองเลสเตอร์ที่ยกย่องว่า เป็นมนุษย์ผู้ยิ่งใหญ่ ขณะที่ The Guardian ระบุว่า นายวิชัย ศรีวัฒนประภา เป็นคนที่ทำให้สโมสรเลสเตอร์ซิตี้ฝันในฝันที่เหลือเชื่อ
สำนักข่าว CNN รายงานในข่าว Vichai Srivaddhanaprabha: Leicester mourns ‘a great human being’ ว่า หลังจากทราบข่าวว่า เฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวของเจ้าของสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ตกเมื่อคืนวันเสาร์ ที่ 27 ตุลาคม และไม่มีผู้รอดชีวิตนั้น บรรดาแฟนสโมสรต่างพากันเสียใจและมาร่วมแสดความอาลัยที่คิงพาวเวอร์สเตเดียม บางคนไม่สามารถหยุดร้องไห้ได้ บางคนไม่มีคำพูดจะบรรยายถึงความเศร้าสลด
ทุกคนต่างพากันยืนในความสงบระลึกถึงเศรษฐีไทยที่มีความหมายในทุกสิ่งสำหรับสโมสรฟุตบอล ที่ตั้งในเมืองรอบนอกย่านมิดแลนด์ตะวันออก
เบอร์นี เว็บสเตอร์ แฟนสโมสรวัย 67 ปีกล่าวถึงผู้ที่ให้เงินทุนกับสโมสรกีฬาที่ไม่น่าจะคว้าชัยชนะได้ในชีวิตนี้ว่า “ผู้ชายคนนี้รักสโมสร คุณพูดได้เลยว่าเขารักสโมสร” “และเขาต้องรักผู้คนแน่นอน”
ครอบครัวศรีวัฒนประภาซื้อสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ปี 2010 ขณะนั้นสโมสรยังอยู่ในดิวิชั่น 2 แต่ 4 ปีต่อมาสโมสรกลับมาอยู่ในชั้นพรีเมียร์ลีก และอีก 2 ปีหลังจากนั้นสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการก่อตั้งสโมสร ก้าวข้ามและฝ่าฟันความน่าจะเป็นที่ต่ำสุดในอัตรา 5,000-1 และครอบครัวศรีวัฒนประภาไม่จำกัดความสำเร็จไว้ด้านกีฬาเพียงแห่งเดียว แต่ได้บริจาคเงิน 2.5 ล้านปอนด์ให้โรงพยาบาลเด็กของเมืองอีกด้วย
แฟนสโมสรที่มาแสดงความอาลัยที่คิงพาวเวอร์สเตเดียมต่างพากันพูดถึงการบริจาคเงินเพื่อการกุศลนี้ว่าเป็นสิ่งดีที่เห็นได้ชัดเจน
“สิ่งที่เขาทำ ไม่ได้เฉพาะสโมสรแต่ทำเพื่อเมืองด้วย เงินที่เขาให้โรงพยาบาล….เป็นคนที่น่ายกย่องมาก” เว็บสเตอร์กล่าว
กิจกรรมเพื่อการกุศลยังเห็นได้ชัดจากการวางดอกไม้ ธง หรือสิ่งอื่นที่แสดงความเคารพ ยังมาพร้อมกับข้อความว่า ขอบคุณ และบางข้อความระบุว่า “ขอบคุณอย่างสูงสำหรับทุกอย่างที่คุณได้ทำให้พวกเราทุกคนที่สโมสรเลสเตอร์ซิตี้ เราจะระลึกถึงคุณตลอดไป”
อาเจย์ ปัญโชลิ วัย 36 ปี เป็นหนึ่งในแฟนสโมสรที่มาร่วมแสดงความยินดีในชัยชนะของสโมสรในเดือนพฤษภาคม 2016 ได้กลับมาที่สนามอีกครั้งเพื่อแสดงความอาลัยต่อการจากไปของนายวิชัย ศรีวัฒนประภา
“วันนี้ไม่เกี่ยวกับฟุตบอลเลยแม้แต่น้อย ในฐานะบุคคล เขาเกือบจะเป็นชาวเมืองเลสเตอร์กิตติมศักดิ์เสียแล้ว เขาทำให้การกุศลอย่างมากให้กับท้องถิ่น”
“คุณต้องมองไปที่มนุษย์คนหนึ่ง นอกเหนือจากฟุตบอล นับว่าเป็นความสูญเสียของเลสเตอร์ ในฐานะที่เป็นเมืองเป็นสถานที่มากกว่าการสูญเสียของสโมสรฟุตบอลอย่างเดียว”
อาเจย์กับ อิเลห์ ผู้เป็นพ่อได้เข้าชมการแข่งขันในคืนวันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม ได้เล่าว่า หลังจบการแข่งขันทั้งคู่ได้ขับรถออกจากสนามพร้อมฟังวิทยุมาตลอดทาง แต่เมื่อถึงบ้านวิทยุรายงานว่าเฮลิคอปเตอร์ตก ซึ่งเป็นข่าวที่น่าเศร้ามาก
“ผมเห็นคนจำนวนมากซึ่งไม่ใช่แฟนสโมสร แต่เป็นชาวเมืองเลสเตอร์ ที่มา พวกเขาอยู่ที่นี่และรักเมืองเลสเตอร์และรักในสิ่งที่เจ้าของสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ทำให้กับพวกเขา” อิเลห์กล่าว
ขณะที่อาเจย์กล่าวว่า วันนี้เขาไม่ได้ใส่เสื้อสโมสรสีน้ำเงินมา เพราะไม่ได้มาในฐานะแฟนสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ แต่มาในฐานะคนทั่วไปที่ช้อคกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนอีกคนหนึ่ง ผมตั้งใจที่จะไม่ใส่สีน้ำเงิน เพราะไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการสะท้อน ผมมาที่นีเพื่อให้เกียรติและแสดงความเคารพต่อมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง”
สำนักข่าวCNN รายงานประวัตินายวิชัย ศรีวัฒนประภาเพิ่มเติมว่า เดิมชื่อ วิชัย รักศรีอักษร ต่อมาเปลี่ยนนามสกุลเป็น ศรีวัฒนประภา มีความหมายว่า แสงแห่งความรุ่งเรือง ในปี 2013 ได้ก่อตั้งร้านค้าดิวตี้ฟรีในปี 1989 และกลายเป็นร้านค้าดิวตี้ฟรีที่ใหญ่ที่สุดในไทย
นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ติดอันดับที่ 388 ของการจัดเศรษฐีโลกโดยนิตยสารฟอร์บส์ ด้วยมูลค่าความมั่งคั่ง 4.9 พันล้านดอลลาร์
นายวิชัย ศรีวัฒนประภา เป็นนักกีฬาตัวยง นอกจากเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้แล้ว ยังก่อตั้งสมาคมโปโลแห่งประเทศไทยในปี 1998 และเป็นเจ้าของ VR โปโลคลับที่ไทย และยังเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลโอเอช ลูเวิน ในเบลเยี่ยม ซึ่งมี ไนเจล เพียร์สัน อดีตผู้จัดการเลสเตอร์เป็นโค้ช
หนุนให้ฝันในสิ่งที่เหลือเชื่อและทำฝันให้เป็นจริง
The Guardian รายงานในข่าว Vichai Srivaddhanaprabha: the quiet man behind a sporting fairytale ว่า นายวิชัย ศรีวัฒนประภา เป็นผู้ที่ทำให้สโมสรเลสเตอ์ซิตี้ฝันในสิ่งที่เหลือเชื่อ แต่ก็ทำให้ฝันเป็นจริงได้ โดยให้ข้อมูลเพิ่มว่า นายวิชัย ศรีวัฒนประภา สร้างตัวจากธุรกิจเครื่องหนังมาเป็นผู้เล่นโปโลเคียงคู่สมาชิกในราชวงศ์และเป็นฮีโร่ของย่านมิดแลน์ของอังกฤษ นอกจากนี้ เบียร์และพาย รวมทั้งพระผู้ใหญ่ทำให้ นายวิชัย ศรีวัฒนประภา เป็นที่ชื่นชอบของแฟนสโมสรเลสเตอร์ซิตี้
นายวิชัย ศรีวัฒนประภา นักธุรกิจไทยได้สร้างความสัพพันธ์ใกล้ชิดกับนักเตะของสโมสร โดยเมื่อสโมสรคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ นายวิชัย ศรีวัฒนประภาได้เขียนข้อความหนึ่งว่า “จิตวิญญานของเราคงอยู่เพราะความรักที่เรามีให้แก่กันและกัน”
ในวันที่สโมสรเลสเตอร์ซิตี้ถูกขายให้กับกลุ่มนักลงทุนไทยเมื่อราว 8 ปีก่อน มิลาน แมนดาริค เจ้าของสโมสรคนก่อนซึ่งทำหน้าที่ประธานในชวงแรกกล่าวว่า “วันนี้เป็นวันดีของเลสเตอร์ซิตี้ เจ้าของสโมสรเราเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากและมีความใฝ่ฝันต่ออนาคต พวกเขามีกำลังใจและความตั้งมั่นและจะนำไปสู่ความสำเร็จของเลสเตอร์ซิตี้”
ใน 8 ปีต่อมานายวิชัย ศรีวัฒนประภาได้ทำให้คำพูดนี้เป็นจริง และสิ่งที่เขาทิ้งไว้จะคงอยู่ในจิตใจและความทรงจำของพนักงาน นักเตะและแฟนสโมสรทุกคน ที่ยังคงเจ็บปวดกับความสูญเสีย
The Guardian รายงานว่า นายวิชัย ศรีวัฒนประภาไม่ค่อยพูดออกสื่อมากนัก แต่การกระทำของเขาได้แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เขาทำมากมาย
รายงานข่าวให้ข้อมูลว่า นายวิชัย ศรีวัฒนประภา เป็นคนถ่อมตัว ปล่อยให้การบริหารสโมสรให้กับ ผู้บริหารคนอื่น เช่น ซูซาน วีแลน ซีอีโอ รวมไปถึง จอน รุดกิน ผู้บริหารด้านฟุตบอล ทั้งสองคนได้รับความไว้วางใจจากนายวิชัย ศรีวัฒนประภา และจะหารือเขาและอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา บุตรชายในเรื่องใหญ่ๆ
บางโอกาสนายวิชัย ศรีวัฒนประภา จะถูกร้องขอให้ตัดสินบางเรื่อง ซึ่งสะท้อนว่าสโมสรให้ความสำคัญกับนายวิชัย ศรีวัฒนประภาอย่างมาก ยกตัวอย่าง เช่น การทำสัญญาใหม่กับเจมี วาร์ดี้ วิชัยได้เรียกวาร์ดี้เข้าพบเพื่อเจรจาในห้องส่วนตัวที่สนาม ซึ่งก่อนหน้านี้วาร์ดี้ไม่ยอมตกลงอะไรเลยทำให้การเจรจากับสโมรถึงทางตัน แต่ในที่สุดวาร์ดี้ยอมรับในฐานะทางการเงินของสโมสรและรับฟังว่า วิชัยคิดอย่างไรกับเขา วาร์ดี้จึงออกจากห้องและยินดีที่จะเซ็นสัญญาใหม่
นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ยังมีบุคลิกที่จับใจคนอื่น และความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับนักเตะหลายคน วาร์ดี้ยังเชิญ วิชัยไปร่วมงานแต่งงานของเขา ทำให้วิชัยสำหรับนักเตะแล้วเป็นมากกว่าเจ้าของ วิชัยยังนำนักเตะออกไปสังสรรค์อย่างมีระดับราคาแพงยามค่ำคืนเป็นบางครั้งบางคราว และความใจกว้างของเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนในบริษัทของวิชัยพูดถึง และสำนึกอยู่เสมอ
การกระทำของนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ทั้งการบริจาคเงิน การมอบตั๋วฤดูกาลฟรีจำนวน 60 ใบให้กับแฟนสโมสรในโอกาสที่เขามีอายุครอบ 60 ปีในเดือนเมษายน 2561 ที่ผ่านมา รวมไปถึงการมอบรถยนต์ BMW ให้กับนักเตะเมื่อคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก เป็นการกระทำที่ไม่คิดจะเปิดเผย เขาชอบที่จะไม่อยู่ในสายตาจับจ้องของสาธารณะชนและรักษาความเป็นส่วนตัว
แม้แต่ในช่วงที่ชัยชนะแบบเทพนิยายของสโมสรเปิดเผยขึ้นทุกคนต้องการที่จะรู้เรื่องสโมรมากขึ้น แต่วิชัยก็เก็บตัวเงียบ แต่เบื้องหลังคือ ความรักอันลึกซึ้งที่มีต่อสโมสรและความไม่ย่อท้อต่อการขับเคลื่อนสโมสรไปข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นการโอนนักเตะที่มีมูลค่าสูงหรือการลงทุนถึง 100 ล้านปอนด์เพื่อสร้างสนามใหม่ที่มีคุณภาพสูง
การให้สัมภาษณ์สื่อจึงตกเป็นหน้าที่ของอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ยกเว้นการแถลงข่าวใหญ่เดือนพฤษภาคม 2014 ที่สโมสรคว้าแชมป์ ซึ่งวิชัย ศรีวัฒนประภาได้พูดกับผู้สื่อข่าวในกรุงเทพว่า เขาต้องการที่จะดันสโมสรให้ขึ้นไปที่ระดับท้อป 5 ของพรีเมียร์ลีกให้ได้ภายใน 3 ปี และพร้อมที่จะทุ่มเงินจำนวน 180 ล้านปอนด์เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย แต่ภายใน 2 ปีหลังจากการให้สัมภาษณ์ครั้งนั้น สโมสรเลสเตอร์ซิตี้ก็คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาได้
การฉลองชัยชนะจัดขึ้นทุกแห่งหน แต่วิชัยและครอบครัวฉลองแบบเงีบยภายในครอบครัว 5 วันหลังจากนั้น เมื่อสโมสรได้รับมอบถ้วยรางวัล
เป็นคนที่เข้าใจแฟนสโมสร
The Guardian รายงานอีกว่า นายวิชัย ศรีวัฒนประภา เป็นเจ้าของสโมสรที่ต่างจากคนอื่น เพราะเขาเข้าใจแฟนสโมร
นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ทำให้สโมสรมีความยั่งยืนทางการเงิน เพราะตระหนักถึงความสำคัญของอารมณ์และความรู้สึกของสโมสร อีกทั้งการสร้างความสัมพันธ์ด้วยตัวของเขาเองทำให้วิชัยแตกต่างจากเจ้าของสโมสรอื่นเป็นคนต่างชาติ ดังจะเห็นได้จากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก แฟนสโมสรต่างพากันเศร้าโศกเสียใจพร้อมกับแสดงความซาบซึ้งในสิ่งที่วิชัยได้ทำให้สโมสร
ด้วยเหตุนี้แฟนสโมสรจึงพากันมาแสดงความอาลัยที่สนามซึ่งกลุ่มธุรกิจดิวตี้ฟรีของวิชัยสนับสนุนทางการเงิน และให้เกียรติต่อการเป็นผู้นำสโมสร ที่เป็นมีความกรุณา ทำการกุศลให้กับเมืองเลสเตอร์ แตกต่างการชาวต่างชาติรายอื่นที่เข้ามาเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลนับตั้งแต่กระแสการซื้อสโมสรของต่างชาติที่เริ่มขึ้นหลังจากนักธุรกิจรัสเซีย โรมัน อับราโมวิช ซื้อสโมสรเชลซีปี 2003
นายวิชัย ศรีวัฒนประภาได้ใช้เงิน 100 ล้านปอนด์ที่เตรียมไว้ในปี 2014 เพื่อโปรโมทสโมสร จากนั้นได้นำสโมสรคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกปี 2016 นอกจากนี้วิชัยยังเข้าชมการแข่งขันของสโมสรสม่ำเสมอ
ขณะที่เจ้าของสโมสรรายอื่นที่เป็นต่างชาติมุ่งส่งกำไรกลับ ไม่ให้ความสำคัญกับคุณค่าสโมสรที่สืบทอดกันมารวมทั้งไม่ให้ความสำคัญกับความผูกพันของแฟนสโมสร แต่วิชัยกลับนำความสำเร็จมาสู่สโมสร และเหนืออื่นใดมาสู่เมืองเลสเตอร์ และยังแสดงให้เห็นว่า เขาตระหนักดีถึงความรู้สึกของสโมสรและความสำคัญของการเป็นพลเมือง จึงเป็นที่ยอมรับและสำนึกในสิ่งที่เขาทำ
นอกเหนือจากเงินบริจาคให้กับโรงพยาบาลเด็กแล้ว วิชัยได้บริจาคเงิน 1 ล้านปอนด์ให้แผนกแพทย์ศาสตร์กับมหาวิทยาลัยในเมืองเลสเตอร์ บริจาค 100,000 ปอนด์ให้โบสถ์ ปี 2015 บริจาค 23,000 ปอนด์ให้กับแฟนสโมสรที่ระดมทุนเพื่อทำการวิจัยเกี่ยว MECP2 ซินโดรมที่ลูกของเขามียีนที่ผิดปกติ
สโมสรเลสเตอร์ซิตี้เป็นตัวแทนของการปฏิวัติฟุตบอลอังกฤษ จากการเริ่มต้นในปี 1884 มาสู่มือของเศรษฐีต่างชาติ ปี 1997 ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ระดมเงินได้ 10 ล้านปอนด์ แต่ไม่มากพอที่จะทำให้สโมสรแข่งขันได้ในยุคที่ค่าตัวนักเตะเพิ่มขึ้น สโมสรมีการเปลี่ยนมือหลายครั้งจนกระทั่งวิชัยเข้ามาซื้อปี 2010
รายงานข่าวล่าสุดจากBBC เปิดเผยว่า ครอบครัวศรีวัฒนประภา ประกอบด้วยนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนาประภาพร้อมกับมารดา นางเอมอร ศรีวัฒนประภา และพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุพร้อมกับทีมนักเตะของสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ เพื่อวางพวงหรีดดอกไม้เคารพและไว้อาลัยต่อผู้จากไป
นายอัยยวัฒน์ยืนไว้อาลัยโดยมีนักเตะของทีมได้แก่ เจมี วาร์ดี้และแคสเปอร์ ชไมเคิลอยู่คียงข้าง
ก่อนหน้านี้รายงานข่าวกีฬา BBC รายงานว่าเจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ ได้โพสต์แถลงการณ์ผ่านทวิตเตอร์แสดงความอาลัยต่อการเสียชีวิตของนายวิชัย ศรีวัฒนประภาว่า “ขอส่งใจมายังครอบครัวศรีวัฒนาประภาและมิตรของวิชัย ศรีวัฒนประภา และผู้ที่ประสบอุบัติเหตุอันแสนเศร้าที่สนามฟุตบอลสโมสรเลสเตอร์ซิตี้
“ข้าพเจ้าโชคดีที่ได้รู้จักคุณวิชัยมาหลายปี เขาเป็นนักธุรกิจที่มีคุณค่าอย่างมาก เป็นคนที่ทุ่มเทให้กับครอบครัวและเป็นคนที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมเพื่อการกุศลหลายด้าน”
“คุณวิชัยมีส่วนสำคัญต่อฟุตบอล ไม่เพียงแค่ทำให้เลสเตอร์คว้าชัยในฤดูกาล 2016 เท่านั้น แต่ยังสะกดความคาดคิดของโลกด้วย”
“คุณวิชัยจะอยู่ในความทรงจำของแฟนกีฬาทั้งหมดและทุกคนที่โชคดีที่ได้รู้จักเขา”
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
