ThaiPublica > เกาะกระแส > อาณาจักร “คิง เพาเวอร์”หลังทุ่ม 14,000 ล้าน ซื้อ “โครงการมหานคร” ต่อยอดธุรกิจ “ดิวตี้ฟรีในเมือง”

อาณาจักร “คิง เพาเวอร์”หลังทุ่ม 14,000 ล้าน ซื้อ “โครงการมหานคร” ต่อยอดธุรกิจ “ดิวตี้ฟรีในเมือง”

16 เมษายน 2018


ที่มาภาพ : http://www.pacedev.com/properties/mahanakhon/th

หลังจาก“วิชัย ศรีวัฒนประภา” เจ้าพ่อธุรกิจดิวตี้ฟรี ขยายธุรกิจคิงเพาเวอร์ ไปสู่ธุรกิจสายการบิน เข้าซื้อหุ้นไทยแอร์เอเชีย โดยดีลนี้ปิดลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน 2559 นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ และครอบครัว ตกลงขายหุ้นบริษัทเอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV (เป็นบริษัทที่ถือหุ้นไทยแอร์เอเชียในสัดส่วน 55%) จำนวน 1,892 ล้านหุ้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 39% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ให้กับนายวิชัยในราคาหุ้นละ 4.20 บาท รวมมูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 7,945 ล้านบาท

ต่อมาวันที่ 27 ธันวาคม 2560 เวลา 17.05 น. บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “AAV” ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เรื่องการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นรายใหญ่และกรรมการบริษัท ภายหลังที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น รับทราบการลงนามในสัญญาซื้อ-ขายหุ้นของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2560 ระหว่างนายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ในฐานะผู้ซื้อ กับนายวิชัย ศรีวัฒนประภา,นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา,น.ส.วรมาศ ศรีวัฒนประภา,นายอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา และน.ส.อรุณรุ่ง ศรีวัฒนประภา ในฐานะผู้ขาย หุ้นสามัญของบริษัทฯจำนวน 1,761 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 36.3% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ในราคาหุ้นละ 4.70 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 8,279 ล้านบาท

ล่าสุดบริษัท คิง เพาเวอร์ มหานคร จำกัด ซึ้อโครงการมหานครมูลค่า 14,000 ล้านบาท จากบริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “เพซ ดีเวลลอปเมนท์” โดยเพซ ดีเวลลอปเมนท์ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2561 ว่าที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ ครั้งที่ 10/2561 เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2561 มีมติอนุมัติขายทรัพย์สิน “โครงการมหานคร” มูลค่าไม่เกิน 14,000 ล้านบาท ให้บริษัท คิง เพาเวอร์ มหานคร จำกัด ที่มีนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เป็นกรรมการ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยการขายทรัพย์สินของ “เพซ ดีเวลลอปเมนท์” ครั้งนี้มี 2 รายการ คือ

1. การขายทรัพย์สินของบริษัท เพซ โปรเจ็ค วัน จำกัด (PP1) และบริษัท เพซ โปรเจ็ค ทรี จำกัด (PP3) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ “เพซ ดีเวลลอปเมนท์” ถือหุ้นผ่านบริษัท เพซ เรียลเอสเตท จำกัด (PRE) โดยรายการทรัพย์สินที่ PP1 และ PP3 ขายให้ “คิง เพาเวอร์ มหานคร” ทั้งหมดนั้น ประกอบด้วย ที่ดิน, โรงแรมบางกอกเอดิชั่น, อาคารจุดชมวิว อ็อบเซอร์เวชั่น เด็ค, อาคารรีเทลคิวบ์, ประติมากรรม, ภาพวาด, ใบอนุญาตและสัญญาต่างๆ รวมมูลค่าไม่เกิน 12,617 ล้านบาท

2. การขายที่ดิน ซึ่งถือกรรมสิทธิ์ร่วมระหว่าง PP1, บริษัท เพซ โปรเจ็ค ทู จำกัด (PP2), PP3 และ PRE ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ “เพซ ดีเวลลอปเมนท์” รวมมูลค่าไม่เกิน 183 ล้านบาท

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ ยังมีมติอนุมัติ ให้บริษัท เพซฯ เข้าซื้อหุ้นที่อพอลโล เอเชีย สปริ้นท์ คอมปานี ลิมิเต็ด (อพอลโล) และโกลด์แมน แซคส์ อินเวสเมนท์ส โฮลดิ้งส์ (เอเชีย) ลิมิเต็ด (โกลด์แมน) ที่ถืออยู่ใน PP1 และ PP3 ในสัดส่วน 49% และ 48.72% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทตามลำดับ รวมเป็นเงินไม่เกิน 320 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือไม่เกิน 10,000 ล้านบาท ทำให้ “เพซ ดีเวลลอปเมนท์” และ PRE ถือหุ้นทั้งหมดใน 2 บริษัทดังกล่าว ส่งผลทำให้ข้อผูกมัดตามเอกสารสัญญาต่างๆ ที่บริษัทมีต่ออพอลโลและโกลด์แมน เป็นอันสิ้นสุดลง

การตัดสินใจซื้อโครงการมหานคร พร้อมโรงแรมบางกอกเอดิชั่น และจุดชมวิวที่สูดที่สุดในประเทศไทยครั้งนี้ นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า เป็นการขยายศักยภาพ และต่อยอดธุรกิจ โดยกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มีแผนจะเปิดร้านค้าปลอดอากรในเมืองเพิ่มอีกแห่งในอาคารแห่งนี้ด้วย

อย่างไรก็ตาม “ไทยพับลิก้า” รวบรวมข้อมูล “คิงเพาเวอร์” ตั้งแต่ปี 2532 จนถึงปัจจุบัน ดูกราฟฟิกประกอบ