ThaiPublica > เกาะกระแส > ก.ล.ต.แจงกรณี “เปรมชัย กรรณสูต” เป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวคุณสมบัติผู้บริหารบจ. พิจารณาที่ “ซื่อสัตย์สุจริต”

ก.ล.ต.แจงกรณี “เปรมชัย กรรณสูต” เป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวคุณสมบัติผู้บริหารบจ. พิจารณาที่ “ซื่อสัตย์สุจริต”

6 กุมภาพันธ์ 2018


นายเปรมชัย กรรณสูต (นั่ง)ประธานบริหารและกรรมการ บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน)ที่มาภาพ : https://www.facebook.com/Khonanurak/photos/

หลังจากที่มีปรากฎข่าวนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) ถูกควบคุมตัวในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร พร้อมคณะอีก 4 คน โดยรายงานจากเฟซบุ๊กคนอนุรักษ์ระบุว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 13.00 น. ที่บริเวณป่าห้วยปะชิ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ท้องที่ตำบลชะแล อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ทับซ้อนป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาน้ำโจน ค่าพิกัดภูมิศาสตร์ (GPS) ในระบบ WGS84 คือ 47 P 485821 E 1678956 N
พบ

    1. นายเปรมชัย กรรณสูต อยู่ซอยศูนย์วิจัย 3 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
    2. นายยงค์ โดดเครือ อายุ 65 ปี อยู่ตำบลคุ้งพยอม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี
    3. นางนที เรียมแสน อายุ 43 ปี อยู่ตำบลทุ่งสว่าง อำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา
    4.นายธานี ทุมมาศ อายุ 56 ปี อยู่ตำบลช่องสะเดา อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

โดยมีอุปกรณ์ในการกระทำผิด

    1. อาวุธปืนยาว (ปืนไรเฟิล) ยี่ห้อ STEYR-MANNLICHER-M หมายเลขตัวปืน 201820 ทะเบียนอาวุธปืน กท.2850473
    2. อาวุธปืนยาวลูกซองแฝดเบอร์ 20 ยี่ห้อ AYA-AGUIRRE & ARANZABAL – MADE IN SPAIN หมายเลขตัวปืน 378 และปรากฎเลขทะเบียนอาวุธปืน ก.ท.4552202
    3.อาวุธปืนยาวขนาด .22 ยี่ห้อ CZ 452 ZKM SCOUT CZ-USA, Kansas City , US หมายเลขตัวปืน 778590

ต่อมาในช่วงเช้าของวันที่ 5 ก.พ.2561 คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ได้กลับไปตรวจสอบบริเวณแค้มป์พักแรมซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุซ้ำ ตรวจพบสิ่งของและซากสัตว์ป่าเพิ่มเติม ดังนี้

1. จุดที่ 1 อยู่ห่างจากจุดที่ตั้งแค้มป์พักแรมไปทางทิศเหนือ ประมาณ 5 เมตร พบหนังเสือดำลักษณะเป็นผืนทั้งตัว โดยถูกชำแหละเนื้อออกไปแล้ว และผืนหนังเสือดำถูกถนอมซากด้วยการทาด้วยเกลือเพื่อมิให้เน่าเสีย วัดขนาดความยาวจากหัวถึงสะโพก 83 เซนติเมตร ความยาวจากหัวถึงหาง 148 เซนติเมตร รวมทั้งพบกะโหลกเสือดำ 1 หัว ชิ้นส่วนทั้งหมดถูกบรรจุอยู่ในถุงดำและมัดปากถุงด้วยเชือก ซุกซ่อนไว้ใต้พุ่มไม้

2. จุดที่ 2 อยู่ห่างจากแค้มป์พักแรมไปทางทิศเหนือประมาณ 5 เมตร พบกระเป๋าสะพายข้างสีแดงดำ ถูกซุกซ่อนโดยใช้เศษหญ้าแห้งปิดคลุม เมื่อเปิดดูภายในกระเป๋าพบสิ่งของดังนี้

  • กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 ขนาด 2 แรงครึ่ง จำนวน 13 นัด
  • กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 ขนาด 1 แรง จำนวน 5 นัด
  • เข็มขัดคาดเอวแบบมีช่องเก็บกระสุนปืนลูกซอง จำนวน 1 เส้น
  • กระสุนอาวุธปืนขนาด .22 จำนวน 50 นัด แยกเป็นกระสุนหัวระเบิด จำนวน 11 นัด และกระสุนหัวตะกั่ว จำนวน 39 นัด ทั้งหมดบรรจุอยู่ในกล่องกระสุน 1 กล่อง
  • นกหวีดแบบใช้เป่าล่อนก จำนวน 1 อัน
  • กระสุนอาวุธปืนไรเฟิล ยี่ห้อ WINCHESTER 30-06 SPRG จำนวน 3 นัด ซึ่งเป็นกระสุนแบบเดียวกันกับที่ตรวจพบในอาวุธปืนยาว (ปืนไรเฟิล) ยี่ห้อ STEYR-MANNLICHER-M หมายเลขตัวปืน 201820 ทะเบียนอาวุธปืน กท.2850473 ข้างต้น
  • น้ำมันล้างปืน 1 ขวด
  • ไฟฉายสปอร์ตไลต์ยี่ห้อ Metro จำนวน 1 กระบอก
  • ช้อนส้อมแบบพับได้ 1 คู่
  • มีดพับ 1 เล่ม
  • 3. จุดที่ 3 พบซากเสือดำ 1 ตัว ถูกชำแหละแล้ว รวมน้ำหนักซาก น้ำหนักกะโหลกและเครื่องในได้ 10.6 กิโลกรัม โดยไม่รวมหนังเสือ โดยบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกซุกซ่อนโดยใช้เศษหญ้าปิดคลุม

    มีข้อกล่าวหาดังนี้
    1. ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 36 และมาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
    2. ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 16 และมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
    3. ฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 19 และมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
    4. ฐานนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามข้อ 1 (1) ของกฎกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2538) ออกตามความตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
    5. ฐานรวมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507
    6. สำหรับความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินการแจ้งความกล่าวโทษตามฐานความผิดต่อไป

    จากกรณีดังกล่าวเนื่องจากบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)จึงได้ออกเอกสารข่าวในหัวข้อ “ความเห็นต่อกรณีข่าวผู้บริหาร บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์”ถึงสื่อมวลชนผ่านอีเมล์ โดยเอกสารข่าวมีข้อความดังนี้ “นายปริย เตชะมวลไววิทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและส่งเสริมความรู้ผู้ลงทุน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า “จากข้อมูลที่ปรากฏในข่าว กรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องส่วนตัว ที่ยังต้องมีกระบวนการในการพิจารณาตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง สำหรับการเป็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนนั้น ตามกฎหมายหลักทรัพย์ฯ คุณสมบัติของผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน จะพิจารณาในเรื่องการบริหารงาน ความซื่อสัตย์สุจริต และความเป็นมืออาชีพในการดำเนินกิจการของบริษัทจดทะเบียนเป็นหลัก ซึ่งในเบื้องต้น ยังไม่พบว่ามีส่วนใดเกี่ยวข้องกับการบริหารงานของบริษัทจดทะเบียน”