ThaiPublica > เกาะกระแส > “ธนินท์ เจียรวนนท์” มองโลกมองไทย “สร้างคน สร้างเมือง สร้างงาน สร้างรายได้” ชี้เมืองไทยเต็มไปด้วยโอกาส ถ้าทำนโยบายเกษตรให้ถูกต้อง

“ธนินท์ เจียรวนนท์” มองโลกมองไทย “สร้างคน สร้างเมือง สร้างงาน สร้างรายได้” ชี้เมืองไทยเต็มไปด้วยโอกาส ถ้าทำนโยบายเกษตรให้ถูกต้อง

6 มกราคม 2018


พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ซ้าย) และคุณธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์(ขวา)

เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2561 ที่ผ่านมานายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) มาร่วมพิธีมอบกรรมสิทธิ์บ้านพร้อมที่ดินให้กับข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อยในโครงการเกษตรสันติราษฎร์ ณ หมู่บ้านเกษตรสันติราษฎร์ ตำบลนาวังหิน อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี พร้อมกับให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน

อนึ่ง”โครงการหมู่บ้านเกษตรสันติราษฎร์” เป็นโครงการที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ธนาคารทหารไทย และสถานีตำรวจภูธร เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี ได้ร่วมกันดำเนินโครงการการนี้ บนพื้นที่ 230 ไร่ ตำบลนาวังหิน อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ขึ้นเมื่อปี 2549 เพื่อส่งเสริมชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวตำรวจ มีรายได้เสริมจากการเกษตร มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยมีตำรวจชั้นผู้น้อยจากสถานีตำรวจภูธรเข้าร่วมโครงการ 31 นาย ในโอกาสครบรอบ 10 ปี โครงการหมู่บ้านเกษตรสันติราษฎร์ มีพิธีมอบกรรมสิทธิ์ที่ดินทั้งในส่วนที่เป็นบ้านพักอาศัยและในส่วนที่เป็นที่ดินให้เช่าเพื่อธุรกิจเกษตรให้แก่ตำรวจทั้งหมดที่เป็นสมาชิกโครงการฯ

“สินค้าเกษตร” สำคัญยิ่งกว่าน้ำมัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองเศรษฐกิจไทยปีนี้น่าจะมีโอกาสเติบโตกว่า 4% หรือไม่ นายธนินท์กล่าวว่า “ผมมีความเชื่อมั่นรัฐบาลชุดนี้ในเรื่องเศรษฐกิจ ไม่ต่ำกว่าหรือมีโอกาสเกิน เพราะวันนี้เศรษฐกิจของอาเซียนที่อยู่รอบๆ ประเทศไทย เวียดนาม เขมร ลาว มาเลเซีย และพม่าก็กำลังเจริญเติบโตมากขึ้น”

“รวมแล้วในอาเซียน 600 กว่าล้านคน ซึ่งทั่วโลกก็ยอมรับว่าใน 600 กว่าล้านคน เศรษฐกิจกำลังเติบโต แล้วผมก็เชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาก็กำลังเจริญเติบโต เราจะมีโอกาสขายสินค้าไปอเมริกามากขึ้น”

“แล้วผมมองเกษตร ไม่รู้ว่าพวกคุณเข้าใจเกษตรหรือเปล่า เกษตรที่งอกจากแผ่นดินไทย บนดิน ผมเรียกว่า “น้ำมันบนดิน” สินค้าเกษตรน่าจะมีความสำคัญยิ่งกว่าน้ำมัน เพราะสินค้าเกษตรเลี้ยงชีวิตมนุษย์ แต่น้ำมันเลี้ยงชีวิตเครื่องจักร แล้วใครสำคัญกว่ากัน นี่เป็นทรัพย์สมบัติของชาติ ยิ่งกว่าน้ำมัน”

แล้วประเทศที่มีน้ำมัน แล้วราคาน้ำมันตก ผมคิดว่าประเทศเหล่านี้จะเริ่มยากจนลง เขาก็หาทุกวิถีทาง โอเปกทำยังไงให้น้ำมันขึ้นราคา เขาต้องจับมือกันใหม่แน่นอน พอจับมือกันใหม่ขึ้นราคาน้ำมัน ถึงวันหนึ่งน้ำมันจะขาดตลาด

“มันลงหนักๆ อย่างนี้ มันก็ต้องขึ้นหนัก ขึ้นสูง ยาง (ยางพารา) จะกลับมาอีกครั้งหนึ่ง แต่พื้นที่ที่ปลูกยางไม่เหมาะสม น่าจะปลูกอย่างอื่นแทน อย่างเช่น ปลูกทุเรียน หรือปลูกมะพร้าวก็ได้ พวกท่านรู้มั้ยว่ามะพร้าว เราต้องไปสั่งจากต่างประเทศ นี่มันเหลือเชื่อ ความจริงประเทศไทยปลูกมะพร้าวได้ทุกแห่ง แต่ไม่ปลูกเพราะอะไร เพราะมันสูงตั้ง 4 ชั้น คนรุ่นหนุ่มสาวใครจะปีนขึ้นไปเก็บมะพร้าว 4 ชั้น ไม่มีแล้ว แม้กระทั้งคนงานคนไทยก็จะไม่ทำแล้ว ต้องไปเอาพม่า เขมร ลาว มาแทน ฉะนั้นขึ้นไปที่สูงๆ แล้วเสี่ยง คนไทยไม่เอาแน่”

แต่คนไทยเราเก่งมีความสามารถ อยู่ที่นโยบายที่จะให้ความรู้พวกหนุ่มสาว พวกที่จะเติบโตในยุค 4.0 ซึ่งก็ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ไม่รู้ เราดูได้เลยว่าในอนาคตต่อไป โลกขาดแคลนคนชนิดไหน ก็ต้องตั้งหลักสูตรสอนตั้งแต่วันนี้ที่โลกต้องการ

ถ้าเมืองไทยใช้ไม่หมด เราก็ส่งเสริมคนไทยไปทำงาน ไม่ใช่ไปขายแรงงานนะ แต่ขายความรู้ไปทั่วโลกได้ แล้วคนไทยเรานิสัยดี ไปประเทศไหนทำงานคนก็ชอบ แต่ไม่ใช่ไปเป็นคนงาน วันนี้ต้องไปมีความรู้ ไปได้เงินเดือนสูง

อย่างปัญญาภิวัฒน์ (สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์) ทำไมสำเร็จ เพราะก่อนที่จะสอนหลักสูตรอะไร ต้องดูก่อนว่าผลิตออกมาแล้ว ตลาดต้องการคนชนิดไหน แบบไหน เราก็ออกหลักสูตรสอน ยังไม่ทันเข้ามาเรียน คนจองหมดแล้ว เพราเราสร้างคนที่เหมาะกับสังคมวันนี้ ไม่ใช่นึกจะผลิตนิสิตออกมาเยอะๆ โดยไม่ได้คำนึงว่า ผลิตออกมามีใครจ้างมั้ย ถ้าไม่มีใครจ้าง เราก็อย่าไปผลิต

เมืองไทยยังเต็มไปด้วยโอกาส ถ้าทำนโยบายเกษตรให้ถูกต้อง

ดังนั้นผมยังมองเมืองไทยเต็มไปด้วยโอกาส เพียงแต่อยู่ที่ “นโยบาย” วันนี้นโยบายเศรษฐกิจกับระดับโลกเราใช้ได้แล้ว กรุงเทพฯคึกคัก แต่ต่างจังหวัดยัง เพราะสินค้าเกษตรตกต่ำ

“อันนี้ก็ไม่ใช่แก้ไม่ได้ ผมเชื่อมั่นว่ารัฐบาลยุคนี้ ให้รองนายกฯ สมคิด (จาตุศรีพิทักษ์) ขึ้นมาดูแลทั้งเกษตร ทั้งอุตสาหกรรม ทั้งพาณิชย์ ก็จะครบวงจร จะเอื้อกัน ผมมีความหวังมาก เพราะผมเป็นคนที่ชอบมองโลกในแง่ดี แล้วคิดว่าคงจะไม่ผิดพลาด

ขณะที่อเมริกา ประธานาธิบดีอเมริกา คนอื่นมองยังไงไม่รู้ แต่ในเรื่องเศรษฐกิจ ผมยกย่องเขา อย่างเช่น เขาลดภาษีเงินได้ของบริษัท ลดภาษีเงินได้บุคคล และมีฝ่ายค้านที่บอกว่าทำอย่างนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ เอื้อให้กับคนร่ำรวย”

แต่รู้มั้ยว่าจริงๆ แล้วคนร่ำรวยนับได้เลย ไม่กี่คน เขาอาจจะมีรายได้มากกว่าคนจนพันเท่า แต่มีกี่คนล่ะครับ แล้วบริษัทอเมริกาส่วนใหญ่เจ้าของเดิมแทบจะหายไปแล้ว เหลือแต่กองทุนกับเอกชนที่ซื้อหุ้น

แล้วบริษัทเหล่านี้ใครได้ประโยชน์ ก็ผู้ถือหุ้นรายเล็กรายย่อยได้ประโยชน์ เขาก็ได้เงิน ก็ไปจับจ่าย การสร้างงานก็จะเกิดขึ้น ธุรกิจบริการก็จะเกิดขึ้น แต่ต้องระวังเงินดอลลาร์อเมริกาจะแข็ง

นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี)

“แต่ของเราวันนี้ เงินบาทแข็งเกินไปแล้ว ทำให้การส่งออกลำบาก แต่ผมคิดสั้นๆ อาจจะผิดก็ได้ บาทเราควรจะอ่อนกว่านี้ แต่เมื่อมันแข็งเกินไป เราก็เอาเงินบาทซื้อยูเอส (ดอลลาร์สหรัฐ) เลย แล้วรับรองว่ายูเอสต้องแข็งขึ้น พอเงินบาทไปซื้อยูเอส บาทเราก็อ่อนลง การส่งออกก็ดีขึ้น แล้วสุดท้ายบาทเราอ่อนลงไปอีกแน่นอน เพราะอเมริกาเศรษฐกิจมันต้องดีขึ้น เงินจะไหลเข้าอเมริกา เพราะยูเอสมันแข็งขึ้น”

แล้วตอนนั้นเอาเงินบาทสูง ไปซื้อยูเอสต่ำ ถึงตอนนั้นเราก็เอายูเอสสูงขายกลับมาซื้อบาทคืน ได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง อาจจะผิดก็ได้นะ เพียงแต่ในความเห็นของผม กับประสบการณ์ของผม ผมว่าอย่างนี้

ดังนั้นผมมองว่าเศรษฐกิจรัฐบาลชุดนี้ถึง 4% แน่นอน แล้วจะมากกว่านี้ ถ้าทำนโยบายเกษตรให้ถูกต้อง เพราะสินค้าเกษตรเป็นทรัพย์สมบัติของชาติ ถ้าทรัพย์สมบัติของชาติถูกลง ราคาถูกลง ทรัพย์สมบัติก็หดตัว พวกคุณลองไปคิดว่าใช่หรือเปล่า มันยิ่งกว่าน้ำมันอีก แต่คนมองข้าม

“แต่ถ้าทรัพย์สมบัติเราสูงขึ้น คนก็บอกว่าแล้วคนที่รายได้น้อยทำยังไง เราก็เอาเงินที่ทรัพย์สมบัติเราสูงขึ้น ไปขึ้นเงินเดือนขั้นต่ำข้าราชการ สื่อมวลชนก็ต้องขึ้น เพราะทุกอย่างมันมีรายได้มากขึ้น”

แล้วในโลกนี้ ประเทศที่ร่ำรวยแล้ว ยิ่งร่ำรวยยิ่งปกป้องราคาสินค้าเกษตร อย่างซีพีไปขายกุ้งถูกที่อเมริกา เขาน่าจะชมเชยว่าคุณมาทำให้คนอเมริกากินกุ้งถูก แต่กลับไม่ชมเชยนะ จัดการเราแลย ขึ้นภาษีเลย แล้วถ้ายังขายถูกอีก ก็ห้ามเข้าด้วย ถามว่าเพราะอะไร เพราะคุณมาทำลายชาวประมงเขา มาขายถูกเนี่ย เขาไม่ได้ห่วงว่าประชาชนซื้อแพงนะ เขาห่วงว่าคนเลี้ยงกุ้งกับชาวประมงขาดทุนอยู่ไม่ได้

แต่ประเทศที่กำลังพัฒนาห่วงอย่างเดียว กลัวคนยากจน ซื้อของแพง ต้องกดราคาให้ต่ำ ก็ทำให้ทรัพย์สมบัติของชาติต่ำลง ก็หมดตัวสิ ดังนั้นสินค้าเกษตรบนดินใช้ไม่หมด แล้วก็เลี้ยงชีวิตมนุษย์ อย่าเชื่อผม แต่ลองไปศึกษา คนที่เขาจนที่สุด เขายังปกป้องราคาสินค้าเกษตรให้สูง

แต่พวกคุณอย่าไปเข้าใจผิดนะ ถ้าสินค้าเกษตรสูง ผมเสียเปรียบนะ คนนึกว่าผมพูดเห็นแก่ผม ไม่ใช่ ผมเห็นแก่ส่วนรวม ถ้าส่วนรวมอยู่ไม่ได้ ถ้าส่วนรวมยากจน สินค้าผมจะขายให้ใคร ขอถามสิ

ถ้าคนยากจน ผมผลิตไก่ยังไงก็ไม่มีใครซื้อ เพราไม่มีเงินซื้อ พวกคุณอาจจะไม่ค่อยเชื่อก็ได้ นึกว่าผมพูดอย่างหนึ่ง ทำอย่างหนึ่ง

แต่ถ้าส่วนรวมดี ผมดีไปด้วยนะ ผมซื้อของแพงมาผลิต แต่ผมผลิตแล้ว ผมขายแพงได้ เพราะคนมีเงิน เกษตรกรมีเงิน ร่ำรวยขึ้น เพราะเกษตรกรเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศเรา ถ้าคนส่วนใหญ่ยากจนไม่มีกำลังซื้อ แล้วผมจะไปขายของให้ใคร ขายให้คนร่ำรวยก็ไม่มาก จำนวนคนไม่มาก

ฉะนั้นถ้าคนยากจนรวยขึ้น ผมดีขึ้นด้วย เพราะคนยากจนมีรายได้มากขึ้น มีกำลังซื้อมากขึ้น แต่ผมก็สะเทือน ผมต้องซื้อของแพง แต่ก็ไม่กลัว ดีกว่าผมซื้อของถูกแล้วผมขายไม่ได้เลย ผมซื้อของแพง ผมขายได้ กำไรน้อยหน่อย แต่ขายได้ ดีกว่าผมขายไม่ได้เลย เพราะคนยากจนส่วนใหญ่ไม่มีกำลังซื้อ

ส่งเสริมปลูกทุเรียน มะพร้าว กล้วยหอม

เมื่อถามว่าที่รัฐบาลมีนโยบายว่าจะแก้ปัญหาให้คนจนหมดไปจากประเทศ คิดว่าเป็นอย่างไร? นายธนินท์กล่าวว่า “พูดตรงๆ นะ จิตใจท่าน (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา) อยากจะให้คนจนรวยขึ้น”

แล้วคนจนที่สุดคือเกษตรกร วันนี้มีมากขึ้นอีก เพราะยางก็ไม่มีราคา ปาล์มก็ไม่มีราคา เหลือข้าวโพดมีราคา เพราะโรงงานอาหารสัตว์ต้องซื้อแพง แล้วนอกนั้นข้าวก็ถูก ถูกทุกอย่าง เหลือทุเรียน มะพร้าวอ่อน กะทิมะพร้าว ขายคนจีน

แล้ววันนี้ฝรั่งมาเที่ยวเมืองไทย หนักเข้าก็รู้จักแกงไก่ แกงอะไรต่ออะไร ใช้กะทิทั้งนั้น แล้วขนมไทยยังมีโอกาสขายไปทั่วโลก เรายังนอนหลับอยู่ ผมกำลังจะพัฒนาเรื่องนี้ แล้วมีอย่างที่ไหน ประเทศไทยต้องไปซื้อมะพร้าวจากอินเดีย จากอินโดนีเซีย ทั้งที่ดินฟ้าอากาศเราปลูกได้ดี ทุเรียนอร่อยมาก ทำไมไม่ส่งเสริมปลูกทุเรียน ปลูกมะพร้าว

ถ้าผมมองนะ เต็มไปด้วยโอกาส อย่างนนทบุรี ทุเรียนลูกละเป็นหมื่น แล้วไม่ต้องเป็นหมื่นหรอก ลูกละพันกว่าบาท คนปลูกก็รวยแล้ว วันนี้กิโลละ 30 บาท, 60บาท แต่ถ้าอร่อย ขายไปจีนกิโลละ 1,000-2,000 สบายเลย เราต้องมาปลูกมะพร้าว ปลูกทุเรียน ปลูกกล้วยหอม กำไรดีกว่าปลูกข้าวทั้งนั้นเลยครับ

ส่วนข้าวต้องปลูกข้าวหอมมะลิ ปลูกข้าวเหนียวขายไปทั่วโลก ข้าวหอมมะลิไม่มีใครสู้เรา แต่ที่ปลูกข้าวถูกๆ เปลี่ยนเป็นปลูกผลไม้ ปลูกมะพร้าว ปลูกกล้วยหอม ทำไมต้องไปปลูกข้าว น้ำก็ใช้เยอะ ราคาก็ถูก

“ผมมีความเชื่อมั่นว่า สินค้าเกษตรโดยเฉพาะประเทศไทย ดินฟ้าอากาศอย่างนี้ อะไรที่เมืองไทยปลูกได้ จะหอมอร่อยกว่าคนอื่นในอาเซียน”

นายธนินท์ เจียรวนนท์

ยุค 4.0 “ผมบริการคุณ คุณบริการผม”

กระนั้นก็ตาม ต่อไปในอนาคตจะเกิดธุรกิจบริการจำนวนมากขึ้น ไม่ต้องมีผลิตภัณฑ์ก็ได้ เช่น เปิดร้านเสริมสวย ไม่ต้องมีผลิตภัณฑ์ ก็ได้เงินเล้ว แต่เมืองต้องใหญ่ เมืองเล็กเกินไปก็อยู่ไม่ได้

วันนี้ผมกำลังศึกษาเรื่องนี้ เมืองใหญ่ขนาดไหน ร้านค้าถึงจะอยู่ได้ ร้านกาแฟอยู่ได้ ร้านตัดผมอยู่ได้ ถ้าอย่างนั้นมันไม่เกิดหรอกครับ ที่กำลังศึกษาอยู่ อย่างน้อยคร่าวๆ 3 แสนคน ผมก็ศึกษาจากเชียงใหม่ จากโคราช ใจกลางเมืองจริงๆ โคราชก็ประมาณ 3-4 แสนคน แล้วรอบๆ ก็มาใช้บริการใน 3-4 แสนคนนี้

ผมคิดว่าต่อไป เมืองไทยกระจายไม่ได้ กระจายแล้ว รัฐบาลก็ขาดทุน คนก็อยู่ไม่ได้ เพราะอะไร มันต้องมีรถขับ ต้องมีรถทุกคน แล้วรัฐบาลสร้างถนนไปไกล แต่คนอยู่อาศัยน้อย แล้วยังมีประปาอีก ต้องไฟฟ้าอีก แล้วการค้าไม่เกิดอีก ถ้าจะเกิด อย่างอเมริกาต้องขับรถไปวอลมาร์ท

แต่ไปดูฮ่องกง เต็มไปด้วยการค้า แต่แออัดไปหน่อย แต่ลงมาเต็มไปด้วยร้านค้าทุกชนิด ผมบริการคุณ คุณบริการผม จีดีพีเกิดแล้วนะ อย่าไปนึกว่าผมต้องไปสร้างอะไร แล้วมาขายอะไร

ต่อไปยุค 4.0 การสร้างจีดีพี เกิดขึ้นด้วยการที่ “ผมบริการคุณ คุณบริการผม” ผมนั่งแท็กซี่ คนขับแท็กซี่มีรายได้ ไปร้านค้ากินข้าว ร้านค้ามีรายได้ เงินจะหมุนเวียน จีดีพีก็จะเกิด

ลูกจ้างจะน้อยลง ทุกคนอยากเป็นเถ้าแก่น้อย

ต่อไปคนงานก็จะเหลือ 1% เกษตรกรจะเหลือ 1% แล้วพนักงานในออฟฟิศจะน้อยลงทุกวัน ทุกคนอยากจะเป็นเถ้าแก่น้อย ทุกคนจะเป็นเถ้าแก่บริการ ผมไปเปิดร้านข้าวแกง คุณไปเปิดร้านเสริมสวย คุณไปเปิดร้านเสื้อผ้า ไปส่งของตามบ้าน ธุรกิจจะเกิดใหม่ในยุค 4.0 มันจะเป็นอย่างนี้ มันจะไปเร็ว

เด็กอเมริกาสมัยก่อนถามว่าพวกอัจฉริยะเก่งๆ จะไปไหน ไปธนาคาร ไปบริษัทจีอี ไปบริษัทใหญ่ๆ แต่วันนี้พวกเก่งๆ เขาบอกว่าเขาจะไปสตาร์ทอัพ ไปเป็นเถ้าแก่น้อย โลกมันเปลี่ยนแล้วนะ ฉะนั้นซีพีก็ต้องเปลี่ยนให้ทัน ต้องตามให้ทัน

“อีอีซี” ต้องเกิดและดึงเอาคนเก่งในโลกมาช่วยสร้างคนไทยให้เก่งขึ้น

กับคำถามว่า ก่อนจะมีการเลือกตั้งปลายปี 2561 อยากให้รัฐบาลชุดนี้ทำเรื่องอะไร และมีมุมมองต่อเรื่องโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซีอย่างไร? นายธนินท์กล่าวว่า “อีอีซี ถ้าเกิด จะทำให้เศรษฐกิจเมืองไทยไม่ใช่ 4% เผลอๆ 7-8% ขึ้นไป แต่ต้องให้เกิดนะ แล้วกฎหมายต้องเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ดึงเอาคนเก่งในโลกนี้มาใช้”

เพราะวันนี้เราสร้างคนไม่ทันแล้ว เราต้องเอาคนเก่งมาช่วยสร้างคนไทย ดึงให้คนไทยเก่งขึ้น รัชกาลที่ 5 ยังรู้จักใช้อังกฤษมาสร้างทหาร ใช้เยอรมันมาสร้างกฎหมายให้ไทย

วันนี้เมืองไทยเราเนื้อหอม ต่างชาติมาอยู่เมืองไทยสักปีสองปี ไม่อยากกลับประเทศเขา ผมก็ยังงเหมือนกัน ทำไมเขาติดใจเมืองไทย รวมทั้งผมเวลาไปประเทศไหน ก็อยากจะกลับมาอยู่เมืองไทย

อีอีซีทำให้สำเร็จ ก็ใหญ่กว่าสิงคโปร์แล้วนะ อีอีซี 3 จังหวัด แล้วริมทะเลทั้งนั้น มีอุตสาหกรรมที่ป๋าเปรม (พลเอก เปรม ติณสูลานนท์) ทำไว้ในยุคป๋าเปรม ก็ต่อยอดไปอีก เอายุค 4.0 ธุรกิจ 4.0 มาใส่ ออกกฎหมายให้สอดคล้องกับ 4.0 สำคัญอยู่ที่กฎหมาย รัฐบาลต้องกล้าหาญ

แล้วเรื่องเช่าที่ดิน คนก็บอกว่าขายที่ดิน ขายชาติ เช่า 99 ปีจะเป็นอะไรไป เขามาลงทุนแล้วขนกลับบ้านเขาได้มั้ย ไม่ได้หรอก มันไม่ได้เสียหายอะไร คุณเอาเงินมาลงในบ้านผม คุณเอาเงินมาใส่ที่บ้านผม แล้วคุณก็ขนกลับไม่ได้ แล้วมาสร้างงาน สร้างโอกาสให้เมืองไทย จะเป็นไรไป

ถ้าเราบอกว่า 30 ต่อ 30 เขาก็คิดราคาเรา 30 ปี ทำไมเราไม่เอา 99 ปี คิดเต็มเลย เขาก็ถือว่าเขาซื้อขาดแล้วล่ะ 99 ปี เขาก็พอใจ เราก็พอใจ เงินก็ไม่ได้ไปไหน ทรัพย์สมบัติทุกอย่างก็ลงอยู่ในเมืองไทย ขนตึกกลับบ้านได้มั้ย ไม่มีทาง อย่างฮ่องกง 99 ปี วันนี้ก็คืนมาให้เมืองจีน ขายที่ไหน แต่คนก็ไม่เข้าใจ ทำให้เงินรัฐบาลหายไปเยอะ

นอกจากนี้คือเรื่องแก้ปัญหาเกษตร สินค้าเกษตร อะไรที่มันเกินก็ปลูกน้อยลง ปลูกอย่างอื่น อะไรที่ขาดก็ปลูกอันนั้น อย่างมะพร้าวเราขาด ทุเรียนเราขาด แล้วที่ที่ปลูกยางพาราแล้วรายได้น้อย ปลูกทุเรียนดีกว่า กำไรดีกว่ายาง

ส่วนที่ปลูกยาง อย่างเช่นทางภาคอีสาน ที่ยังมีกำไรผ่อนส่งรถปิคอัพได้ เพราะเขากรีดเอง เขาไม่ได้จ้างคนมากรีด แล้วเราไปสอนเรื่องใส่ปุ๋ยให้ถูกต้อง แล้วก็ไม่ต้องผ่านคนกลาง แต่ซีพีจะถูกด่าอีก ใครด่ารู้มั้ย คนกลางนั่นแหละด่าผม เพราะเขาจะหมดอาชีพ แต่ผมต้องช่วยเกษตรกรส่วนใหญ่ ไม่ใช่ไปช่วยคนกลาง ขายตรงกับผมเลย แล้วผมจะสร้างโรงงานยางแท่ง

นายธนินท์ เจียรวนนท์

พวกคุณเคยไปดูหรือยังที่ภูเรือ จังหวัดเลย ผมมีผู้เชี่ยวชาญไปสอนกรีดยางยังไง รักษายางยังไง แล้วก็เป็นที่ดินของเกษตรกร ครอบครัวกรีดยางเอง วันนี้ยังอยู่ได้ 1. ไม่ต้องขนส่งไกล 2. ไม่ได้ผ่านคนกลาง 3. สอนเขากรีดยางให้ถูกต้อง สอนเขาใส่ปุ๋ยให้ถูกต้อง ผมจะพาพวกคุณไปดูว่าที่ผมพูด ถ้าทำอย่างนี้ได้ ปลูกยางวันนี้ก็ยังมีกำไร

แต่บางแห่งฝนตกชุกไป ไม่มีแรงงานกรีด พอฝนตกชุก น้ำยางจะน้อย เวลาฝนตกก็ไปกรีดไม่ได้ ก็ปลูกอย่างอื่นซะเลย อย่างมะพร้าวปลูกได้ทุกแห่ง ส่วนทุเรียนที่ปากช่องเชื่อมั้ย ปลูกทุเรียนอร่อย ไม่แพ้จังหวัดจันทบุรีกับตราด ทางอีสานก็ปลูกได้

แต่พูดตรงๆ ว่าเรายังไม่เก่ง ผมกำลังเรียนรู้จากคนเก่ง ปลูกทุเรียนไม่ใช่ง่ายๆ ไม่เหมือนเลี้ยงหมูเลี้ยงไก่ ต้องจับจุดให้ได้ มันมีวิชาทั้งนั้น แต่ต้องเริ่มด้วย 1. พันธุ์อร่อยและดก 2. คือการจัดการ มีเทคโนโลยีในการจัดการ และ 3. เรื่องการตลาด

นี่คือมุมมองเจ้าสัวธนินท์ จะสร้างคน สร้างเมือง สร้างงาน สร้างรายได้อย่างไรให้ “น้ำมันบนดิน” ก้าวสู่เศรษฐกิจยุค 4.0