ThaiPublica > ประเด็นสืบสวน > สำนักพุทธฯ ปฏิเสธเปิดบัญชีวัด-เบิกจ่ายงบฯ ปฏิสังขรณ์ อ้างกระทบรูปคดี

สำนักพุทธฯ ปฏิเสธเปิดบัญชีวัด-เบิกจ่ายงบฯ ปฏิสังขรณ์ อ้างกระทบรูปคดี

29 สิงหาคม 2017


พ.ต.ท. พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ซ้าย)

ตามที่สำนักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้าได้ใช้สิทธิตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ยื่นคำร้องต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ครั้งแรก เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2560 ขอคัดสำเนา “บัญชีรายรับ-รายจ่ายของวัด” ตามมติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 18/2558 เพื่อนำมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน ต่อมาเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2560 ให้ผู้สื่อข่าวไปยื่นคำร้องต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ครั้งที่ 2 ขอคัดสำเนารายงานการใช้จ่ายงบอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์วัดและพัฒนา ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2557 ถึงปัจจุบัน

เวลาผ่านไป 3 เดือน ยังไม่ได้รับคำตอบจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จึงทำหนังสือร้องเรียนคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ (สขร.) ทำเนียบรัฐบาล ต่อมาเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2560 พ.ต.ท. พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทำหนังสือแจ้งไทยพับลิก้าให้ผู้สื่อข่าวไปขอข้อมูลดังกล่าวจากวัดโดยตรง หากขอข้อมูลวัดผ่านสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ ตามกระบวนการต้องทำเรื่องเสนอคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของ พศ. พิจารณา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไขระเบียบและแต่งตั้งคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของ พศ.

ล่าสุด พ.ต.ท. พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ทำหนังสือถึงไทยพับลิก้า ลงวันที่ 9 สิงหาคม 2560 แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร พศ. ครั้งที่ 1/2560 ได้พิจารณาคำร้องขอใช้บริการข้อมูลข่าวสารของไทยพับลิก้า โดยที่ประชุมคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร พศ. มีมติดังนี้

1. พศ. สามารถเปิดเผยข้อมูลภาพรวมจำนวนวัดที่มีการรายงานบัญชีรายรับ-รายจ่าย ในช่วงปี 2550-2559 ให้แก่สำนักข่าวออนไลน์ไทบพับลิก้าได้ แต่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลบัญชีรายรับ-รายจ่าย, ข้อมูลศาสนสมบัติของวัด และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับวัด ตามมติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 18/2558 ให้กับผู้สื่อข่าวได้ เนื่องจากมติที่ 407/2558 เป็นข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับวัด ซึ่งมีฐานะเป็นนิติบุคคล ตามมาตรา 31 แห่ง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.คณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ประกอบกับการส่งรายงาน บัญชีรายรับ-รายจ่ายของวัดเป็นไปตามมติของมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 18/2558 เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2558 ซึ่งไม่ได้รับความยินยอมจากวัดให้นำไปเผยแพร่ต่อผู้อื่น ตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 หมวด 2 ข้อมูลข่าวสารที่ไม่ต้องเปิดเผย มาตรา 15 ระบุว่า “ข้อมูลข่าวสารของราชการที่มีลักษณะตามกฎหมายของหน่วยงานของรัฐ ประโยชน์สาธารณะ และประโยชน์ของเอกชนที่เกี่ยวข้องประกอบกัน…และ มาตรา 15 (6) ระบุว่า ข้อมูลข่าวสารของราชการที่มีกฎหมายคุ้มครองไม่ให้เปิดเผย หรือ ข้อมูลข่าวสารที่มีผู้ให้มาโดยไม่ประสงค์ให้ราชการนำไปเปิดเผยต่อผู้อื่น”

2. พศ. ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลการจัดสรรเงินอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์วัดและการพัฒนาวัด ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2557 ถึงปัจจุบัน แยกเป็นรายวัด ตามที่สำนักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้ายื่นคำร้องขอได้ เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวอยู่ในระหว่างการดำเนินการสืบสวนสอบสวนของคณะกรรมการซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ การเปิดเผยอาจทำให้การดำเนินการสืบสวนสอบสวนไม่สำเร็จตามวัตถุประสงค์ หรือไม่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรมได้

ตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ที่เกี่ยวกับ “ข้อมูลข่าวสารที่ไม่ต้องเปิดเผย” มาตรา 15 ระบุว่า “ข้อมูลข่าวสารของราชการที่มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอาจมีคำสั่งมิให้เปิดเผยก็ได้ โดยคำนึงถึงการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของหน่วยงานของรัฐ ประโยชน์สาธารณะ และประโยชน์ของเอกชนที่เกี่ยวข้องประกอบกัน และมาตรา 15 (2) ระบุว่า การเปิดเผยจะทำให้การบังคับใช้กฎหมายเสื่อมประสิทธิภาพ หรือไม่อาจสำเร็จตามวัตถุประสงค์ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับการฟ้องคดี การป้องกัน การปราบปราม การทดสอบ การตรวจสอบ หรือ การรู้แหล่งที่มาของข้อมูลข่าวสารหรือไม่ก็ตาม…”

อนึ่ง จากข้อมูลภาพรวมจำนวนวัดที่มีการรายงานบัญชีรายรับ-รายจ่ายต่อสำนักงานศาสนสมบัติ พศ. นำส่งคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เพื่อจัดทำตัวชี้วัดและประเมินผลงาน (ณ วันที่ 9 มิถุนายน 2560) พบว่า ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้จัดส่งบัญชีรายรับ-รายจ่ายของวัดทั่วประเทศให้ ก.พ.ร. ประเมินผลสูงกว่าเป้าหมายมาอย่างต่อเนื่องเป็นลำดับ ยกเว้นปี 2559 กำหนดเป้าหมายให้วัดจัดส่งบัญชีรายรับ-รายจ่ายเพื่อเข้าสู่ระบบระเมินผลของ ก.พ.ร. 39,876 วัด ผลการดำเนินงานปรากฏว่ามีวัดส่งบัญชีรายรับ-รายจ่าย 38,917 แห่ง ต่ำกว่าเป้าหมาย 97.6%