ThaiPublica > เกาะกระแส > นายกฯ แจงหากไม่ใช้ ม.44 ประเทศไม่เดินหน้า ออกใหม่อีก 3 ฉบับ – ผ่านร่าง พ.ร.บ.ล้มละลาย เปิดช่องตามบี้ทรัพย์สินในตปท.

นายกฯ แจงหากไม่ใช้ ม.44 ประเทศไม่เดินหน้า ออกใหม่อีก 3 ฉบับ – ผ่านร่าง พ.ร.บ.ล้มละลาย เปิดช่องตามบี้ทรัพย์สินในตปท.

27 ธันวาคม 2016


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2559 ที่ทำเนียบรัฐบาล มีการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยมี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน วันนี้ สไตล์การแถลงของ พล.อ. ประยุทธ์ยังเหมือนที่ผ่านมา (อ่านคำถามจากไลน์) ภายหลังการแถลงข่าว พล.อ. ประยุทธ์ ได้มอบเสื้อโปโลสีดำเป็นของขวัญปีใหม่ให้สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ลายธงชาติไทย มีตัวเลข 4.0 ที่แขนเสื้อด้านขวา และที่แขนเสื้อด้านซ้ายมีปักว่า Stronger together

แจงประเด็นออก ม.44 ล่าสุด 3 ฉบับ

เมื่อถามถึงกรณีที่ใช้คำสั่งมาตรา 44 หรือ ม. 44 จำนวนมาก พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า ม. 44 ใช้เพื่อประโยชน์ทั้งนั้น ไม่ได้เอาไว้กลั่นแกล้งใคร ถ้าไม่ใช้ก็แก้ไขอะไรไม่ได้ เดินหน้าประเทศไม่ได้

พร้อมกับชี้แจงการออกคำสั่งมาตรา 44 ทั้ง 3 ฉบับ ทีละประเด็น ดังนี้

1. กำหนดมาตรฐานของคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนยาหลายรายการที่ยังค้างคา โดยให้ อย. สามารถเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษจากผู้ประกอบการเพิ่มเติมได้เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญภายนอกมาช่วยในกระบวนการพิจารณาผลิตภัณฑ์และออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ประกอบการต่างๆ ได้รวดเร็วขึ้น เพื่อประโยชน์ในการผลิตยาสมุนไพรให้มี อย. รับรอง คนไทยจะได้ซื้อยาราคาถูกลง เพื่อการค้าและส่งออก โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกำกับดูแล

พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิมเติมว่า ที่ผ่านมาผู้ประกอบการประสบปัญหาความล่าช้าในการได้รับใบอนุญาตจาก อย. เนื่องจากการดำเนินการของ อย. ต้องกระทำโดยเจ้าหน้าที่ของ อย. เท่านั้น ไม่สามารถว่าจ้างหรือถ่ายโอนให้บุคลากรจากหน่วยงานอื่นรับผิดชอบงานในส่วนนี้ได้ ทำให้ปัจุบันมียอดผู้ขอใบอนุญาตค้างอยู่ในระบบกว่า 8,300 ราย ต้องใช้เวลาดำเนินการถึง 3 ปีจึงจะสามารถออกใบอนุญาตได้ครบถ้วน

2. ส่วนเชื่อมต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีบางใหญ่-เตาปูน ช่วง 1 กิโลเมตร ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับรถไฟสายสีน้ำเงิน ให้สามารถใช้ได้ในช่วงปลายปี 2560 ให้รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพ (รฟม.) ว่าจ้างบริษัทใดก็ได้เพื่อดำเนินการเดินรถในช่วง 1 สถานี คือ ระหว่างสถานีเตาปูนกับสถานีบางซื่อ โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนคณะกรรมการร่วมลงทุนภาครัฐและเอกชน (PPP) ส่วนต่อจากนั้นจะมีการประมูลหรือดำเนินการอย่างไร จะมีการพูดคุยกันอีกครั้ง หากไม่ใช้ ม.44 จะดำเนินการอะไรไม่ได้เลย เพราะติดข้อกฎหมาย เรื่องนี้รัฐบาลไม่มีส่วนได้เสีย แต่ทำเพื่อประชาชนที่เดือดร้อน

พล.ท. สรรเสริญ กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากปัจจุบันยังไม่สามารถว่าจ้างผู้เดินรถได้ ถึงแม้ที่ผ่านมาจะออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 77/2559 เพื่อเจรจากับบริษัทเดิมซึ่งเดินรถอยู่แล้ว แต่ไม่สามารถดำเนินการให้สำเร็จได้ ทั้งนี้คาดว่าไม่เกินกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2560 จะสมารถลงนามว่าจ้างได้ และไม่เกินเดินสิงหาคม 2560 จะสามารถเปิดให้บริการได้ ซึ่งเบื้องต้นจะทำการเจรจากับบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้า จำกัด (BEM) ผู้รับสัมปทานเดิมก่อน

3. ตั้งคณะกรรมเตรียมการปฏิรูป ที่ต้องการให้ชัดเจนในปี 2560 เพื่อรวมเรื่องที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ซึ่งเสนอเข้ามากว่าร้อยเรื่อง เพื่อให้รู้ว่าเรื่องใดดำเนินการไปแล้ว และเรื่องใดที่ยังไม่ดำเนินการ ทั้งนี้ คณะกรรมเตรียมการปฏิรูป จะนำงานของ คสช., รัฐบาล และกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) รวมเป็น 5 สาย รวม 19 คน มาปฏิรูปให้เกิดความชัดเจนด้วย เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ โดยจะเริ่มทำหน้าที่ตั้งแต่เดือนมกราคม 2560 เป็นต้นไป ส่วนการทำงานของรองนายกรัฐมนตรี ที่มีการปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อยนั้น ไม่ได้ลดงานของรองนายกฯ แต่อย่างใด เพียงแต่ไม่ต้องการให้งานซับซ้อนกัน และไม่รบกวนเวลาซึ่งกันและกัน

พล.ท. สรรเสริญ กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะกรรมการ จะทำหน้าที่เหมือนตะแกรง ร่อนเรื่องต่างๆ ที่ส่งเข้ามาที่มีทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ เรื่องที่มีความเร่งด่วน เรื่องที่รอได้ เรื่องที่ตรงกับแนวคิดของรัฐบาล เรื่องที่ไม่ตรงกับแนวคิดของรัฐบาล ว่าอะไรที่ทำได้หรือทำไม่ได้ เรื่องไหนเร่งด่วน จัดลำดับความเร่งด่วนที่จะทำ อะไรที่ยังต้องเผชิญความขัดแย้งจำนวนมากก็จัดเป็นลำดับถัดๆ ไป ทั้งหมดนี้คือหน้าที่ของคณะกรรมการเตรียมการปฏิรูปประเทศ

แฮกเกอร์เปิดข้อมูลรัฐ  – ให้ “ปรีชา” ชี้แจงเอง เรื่องของน้องชาย

พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวถึง กรณีการจับกุมกลุ่มแฮกเกอร์ที่โจมตีเว็บไซต์หน่วยงานราชการ ว่า จะดำเนินการสืบสวนคดีต่อไป เป็นใครก็จับคนนั้น ใครเกี่ยวข้องก็จับหมด จะไปให้ท้ายเขาว่าเก่งทำไม การเอาข้อมูลของรัฐมาเปิดเผยมันถูกต้องหรือไม่

“ถามว่าจะขยายผลต่อไปหรือไม่ ถึงใครก็ถึงคนนั้นแหละ ก็จับไปเรื่อย เพราะผิดกฎหมาย อย่าถามว่าจะมีการทำอะไรต่อหรือไม่ ถ้าต่อต้านแล้วจะต้องทำต่อไหม ถ้าผิดกฎหมายก็จับหมด จับได้เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น เกี่ยวข้องกับใครก็จับ การปล่อยข้อมูลของรัฐมันถูกหรือไม่” พล.อ. ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ. ประยุทธ์ ชี้แจงประเด็นที่ นายวีระ สมความคิด โพสต์เฟซบุ๊กว่า พล.อ. ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม มีบ้านหรูอยู่ที่ จ.พิษณุโลก และไม่ได้แจ้งในบัญชีแสดงทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า “เป็นเรื่องของน้องชายผม ให้เขาชี้แจงเองด้วยเรื่องของกฎหมาย”

รอ พ.ร.บ. เหมืองแร่ออกก่อน – ฟ้องไปก็เสียเวลา

พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณี บมจ. อัครา รีซอร์สเซส จะฟ้องรัฐบาล ภายหลังมีมติเห็นชอบให้ยุติการอนุญาตอาชญาบัติพิเศษสำรวจแร่ทองคำ, ประทานบัตรทำเหมืองแร่ทองคำ และคำขอต่ออายุประทานบัตรทั่วประเทศ ว่า รัฐบาลเพียงชะลอบริษัทดำเนินการ เพื่อให้เกิดความชัดเจน ตอนนี้ รอให้พระราชบัญญัติเหมืองแร่ออกมาก่อน เพื่อให้มีคณะกรรมการพิจารณา ซึ่งก็เร็วๆ นี้แล้ว ตนมองว่าการฟ้องร้องทำให้เสียเวลา ยืนยันว่าให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

รอเวลาเหมาะสม หมายครบ คดี “ธัมมชโย” จบแน่

พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการจับกุมพระธัมมชโย เจ้าอวาสวัดพระธรรมกาย ว่า ไม่ว่าจะเข้าจับกุมหลังหรือก่อนปีใหม่ ถามว่าประเทศได้อะไร ซึ่งขณะนี้ตำรวจและกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เตรียมการแล้ว เมื่อได้หมายค้น หมายจับ ก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที ขอให้ทุกคนมีความสุขช่วงปีใหม่ดีกว่า

“เข้าไปแล้วจะได้อะไร หรือไม่ได้อะไร จะดีหรือเสีย หรือจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ทุกคนคาดการณ์ออกกันอยู่แล้วว่าเขาต้องการอะไร แล้วเราจะเดินไปตามทางที่เขาวางขุดล่อไว้หรืออย่างไร เป็นเรื่องของรัฐบาลที่ต้องควบคุมสถานการณ์นี้ให้ได้ ทุกคนจะต้องอยู่ในความสงบเรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นพระ คน ต่างก็มีหน้าที่กันอยู่แล้ว กระทรวงยุติธรรมก็มีหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย ก็ได้ทำหน้าที่กันไปแล้ว คดีความต่างๆ ก็อยู่ระหว่างการนำสู่กระบวนการพิจารณา ฟ้องร้องดำเนินคดีไปทั้งหมดแล้วหลายร้อยคดี ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการบังคับใช้กฎหมาย ได้เวลาที่เหมาะสมก็ค่อยดำเนินการ ก็ไม่ได้สั่งว่าจะต้องเป็นเมื่อไร ทุกคนก็รู้อยู่แล้ว สื่อต้องการจะให้เกิดขึ้นเร็วๆ หรือไม่ ใครอยากไปเวลาเขาดำเนินการให้บอกมา เดี๋ยวจะจัดให้ไปด้วย ไปเป็นแนวหน้าด้วยกัน” พล.อ. ประยุทธ์ กล่าว

นายกฯ ย้ำ คิดถึงแต่ประชาชน ไม่ห่วงเรื่องการเมือง

เมื่อถามว่า ช่วงนี้เป็นห่วงอะไรในเรื่องการเมืองบ้าง พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า การเมืองปี 2560 เป็นอย่างไรก็รู้กันอยู่ ผมเป็นห่วงประชาชนมากกว่า เพราะประชาชนเป็นศูนย์กลาง จะทำอะไรก็คิดถึงแต่ประชาชน ตนคำนึงเสมอว่า บ้านเมืองต้องการความสงบ

“สถานการณ์การเมืองในปี 2560 นั้น ส่วนตัวไม่ได้ห่วงเรื่องการเมืองหรือนักการเมือง เพราะเป็นสิ่งที่ทุกคนเห็นกันอยู่แล้ว แต่อยากให้ห่วงประเทศและประชาชนมากกว่า เพราะทุกคนต้องการให้ประเทศนั้นมีความสงบสุข ส่วนปีใหม่ก็ขอความร่วมมืออย่างสร้างความวุ่นวาย ใครที่คิดจะทำอะไรที่ไม่เกิดความสงบ หรือวุ่นวาย อะไรต่างๆ ขอให้เลิกเสียเถอะ เพราะบ้านเมืองกำลังต้องการความสงบ” พล.อ. ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า วันหยุดปีใหม่ มีแค่ 4 วันพอแล้ว คือวันที่ 31 ธันวาคม 2559 และ 1-3 มกราคม 2560

“รัฐบาลประกาศให้วันหยุดราชการในช่วงปีใหม่หยุดตั้งแต่ 31 ธันวาคม 2559 – 3 มกราคม 2560 รวม 4 วัน ซึ่งไม่รู้ใครไปบอกว่าหยุดตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2559”

อวยพรปีใหม่ อยากให้สังคมไทยสงบ -แนะ ปชช. ควรดูแลตัวเอง อย่าฝากความหวังกับจนท.รัฐ

พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวปิดท้ายด้วยการอวยพรปีใหม่  ว่า “อยากทำให้ประชาชนมีความสุข นี่คือสิ่งที่เป็นสังคมไทย ปราศจากความขัดแย้ง หรือถ้าขัดแย้งก็แก้ไขที่ต้นทาง ยุติให้ได้โดยเร็ว ไม่ใช่ขยายความขัดแย้งไปเรื่อยๆ ซึ่งมันไม่ใช่สังคมไทย

ปีใหม่ขอให้พี่น้องประชาชนคนไทย ไม่ว่าจะวัยใด กลุ่มใด ที่เป็นคนไทยทั้งหมด ขอให้ได้รับพรจากอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายและบุญบารมีอันแผ่ไพศาลแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ได้ทรงปกป้องรักษาคุ้มครองให้ประชาชนคนไทย และผู้ที่พำนักในประเทศไทยทุกคนมีความสุขความเจริญ ก้าวหน้าทั้งราชการและส่วนตัว รวมความถึงบรรดานักข่าวที่รักทุกคนด้วย น่ารักทุกคน ช่วงเดือนที่ผ่านมารู้สึกน่ารักทุกคน แสดงว่าเรารักกันจริง เข้าใจกัน ไม่เช่นนั้นเราจะเดินหน้าไปปี 60 ไม่ได้ เมื่อไป 60 ไม่ได้ ก็ไป 61 ไม่ได้ ก็จะติดทั้งหมดแล้วจะกลับมาที่เก่า ผมขอแค่นี้ ไม่ได้มุ่งปรารถนาอย่างอื่นเลย ขอให้มีความสุข ปีใหม่ขับรถระมัดระวัง สุราไม่ดื่มได้ก็ดี ถือเป็นปีแห่งมหามงคลแล้วกัน ฉะนั้น ขอให้ทุกคนรักษาตัวให้ดี ให้มีชีวิตอยู่ร่วมกันในปีใหม่ และปีต่อๆ ไปตลอดชีพ อย่าไปฝากความหวังไว้กับเจ้าหน้าที่ จราจร ทหาร ตามจุดพักรถ เพราะตัวเองเท่านั้นที่จะดูแลชีวิตของตัวเอง และลูกหลานให้ปลอดภัยในการขับรถ ขอบคุณ แล้วเจอกัน”

มติ ครม. อื่นๆ ที่น่าสนใจ มีดังนี้

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี(ขวาสุด) พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (กลาง) นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (ซ้ายสุด) ที่มาภาพ : www.thaigov.go.th
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ขวาสุด) พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (กลาง) นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (ซ้ายสุด) ที่มาภาพ: www.thaigov.go.th

เห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.ล้มละลาย เปิดช่องตามบี้ทรัพย์สินในตปท.

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ) กล่าวว่าที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบในหลักการ ร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขหลักการของกระบวนการฟื้นฟูกิจกการของลูกหนี้ รัฐวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ให้รองรับกับพระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจ และข้อกำหนดการล้มละลายระหว่างประเทศ ตามกรามของคณะกรรมการสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายการค้าระหว่างประเทศ

นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงมติเจ้าหนี้ในการฟื้นฟูจากเดิมเห็นชอบ 3 ใน 4 เหลือ 2 ใน 3, เพิ่มเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ในการเข้าถึงข้อมูลลูกหนี้สถาบันการเงิน ที่สถาบันการเงินต้องร่วมมือในการสืบหาทรัพย์, เพิ่มหมวดการล้มละลายเกี่ยวกับต่างประเทศ สอดรับกฎหมายการค้าระหว่างประเทศของสหประชาชาติ และการเพิ่มคุณสมบัติเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ให้มีความรู้ความสามารถดีขึ้นผ่านการฝึกอบรมที่เหมาะสม ผลตอบแทนที่เหมาะสม

“การปรับปรุงกฎหมายดังกล่าวจะช่วยเอื้อให้รัฐบาลหรือเจ้าหนี้สามารถติดตามทรัพย์ที่อยู่ในต่างประเทศได้เป็นครั้งแรก และทำให้ไทยเข้าสู่มาตรฐานสากลในกฎหมายล้มละลายระหว่างประเทศ และเป็นอีกหนึ่งในกฎหมายสำคัญที่ธนาคารโลกจะชี้ว่าประเทศมีความสะดวกในการประกอบธุรกิจหรือไม่ ดังนั้น เราจึงหวังว่ากฎหมายนี้จะช่วยดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ และทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการทำธุรกิจมากขึ้น โดยคาดว่าร่าง พ.ร.บ.ล้มละลายฉบับนี้ของไทยจะสามารถมีผลบังคับใช้ภายในเดือนมิถุนายน 2560”

สำหรับการจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business – EoDB) ประจำปี 2561 ทางธนาคารโลกจะทำการจัดส่งแบบสอบถามไปยังประเทศต่างๆ และสิ้นสุดการเก็บข้อมูลในวันที่ 1 มิถุนายน 2560 เพื่อให้ทันกับการจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจในปี 2561 ของธนาคารโลก ทั้งนี้ ปัจจุบันมีทั้งหมด 41 ประเทศที่มีกฎหมายภายในที่ยึดหลักตามกฎหมายแม่แบบว่าด้วยการล้มละลายข้ามชาติ ซึ่งในเอเชียมีใช้แล้ว 3 ประเทศ คือ ญี่ปุ่น เกาหลี และฟิลิปปินส์ ซึ่งไทยมั่นใจจะนำหน้าสิงคโปร์ที่กำลังศึกษากฎหมายนี้อยู่เช่นกัน

ตั้งกรมขนส่งทางราง รองรับการพัฒนาทางราง

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบในหลักการร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่..) พ.ศ. …. (การจัดตั้งกรมการขนส่งทางราง) และร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ. …. โดยมีสาระสำคัญให้จัดตั้งกรมการขนส่งทางราง ภายใต้สังกัดกระทรวงคมนาคม ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานส่วนกลางในการเสนอนโยบาย และกำหนดยุทธศาสตร์ วางแผนโครงข่าย บริหารงานด้านการขนส่งทางรางของประเทศ กำหนดและกำกับดูแลมาตรฐานระเบียบทางด้านความปลอดภัย การซ่อมบำรุงทาง และด้านการประกอบการรวมทั้งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรางของประเทศ

นอกจากนี้ ได้กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายการขนส่งทางราง มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีหน้าที่ในการกำหนดนโยบายด้านการขนส่งทางราง และให้มีคณะกรรมการกำกับดูแลการประกอบกิจการขนส่งทางราง มีปลัดกระทรวงคมนาคมหรือรองปลัดกระทรวงคมนาคมที่ได้รับมอบหมายเป็นประธานกรรมการ มีหน้าที่ในการกำกับดูแล ออกประกาศ คำสั่ง หรือเงื่อนไขการดำเนินกิจการขนส่งทางราง รวมทั้งกำหนดโครงสร้าง อัตราค่าโดยสาร ค่าระวาง และค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ ได้กำหนดอัตรากำลังไว้จำนวน 203 อัตรา ให้ตัดโอนอัตรากำลังของสำนักงานโครงการพัฒนาระบบราง สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร มากำหนดไว้ในกรมขนส่งทางรางจำนวน 20 อัตรา และสรรสหาบุคลากรเพื่อขอบรรจุเพิ่มอีกจำนวน 183 อัตรา โดยประมาณกรอบค่าใช้จ่ายล่วงหน้าในการจัดตั้งกรมขนส่งทางราง ปี 2560 ไว้จำนวน 208 ล้านบาท

ขยายเวลาตรวจคุณสมบัติผู้มีรายได้น้อย ถึงสิ้น ม.ค. 2560

นายณัฐพรกล่าวว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบการขอขยายเวลาการตรวจสอบคุณสมบัติและการโอนเงินตามมาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อยในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ โดยขยายเวลาให้สิ้นสุดการตรวจสอบคุณสมบัติฯ ในวันที่ 16 มกราคา 2569 จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 15 ธันวาคม 2559 และขยายระยะเวลาการโอนเงินให้สิ้นสุดในวันที่ 31 มากราคม 2560 จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 30 ธันวาคม 2559

เนื่องจากพบว่ามีผู้มีคุณสมบัติไม่ถูกต้องจำนวนมากอาศัยในพื้นที่ห่างไกล ผู้ลงทะเบียนกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่เป็นเกษตรกรต้องมีการตรวจสอบหลายประการ รวมทั้งมีผู้มีสิทธิ์อีกจำนวนมากที่ยังไม่เปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารที่มีหน้าที่ดำเนินการโอนเงินให้ผู้มีรายได้น้อย ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย และ ธ.ก.ส. ไม่สามารถดำเนินการได้ทันตามกำหนด

“มีผู้ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยทั้งหมด 8.3 ล้านราย ปัจจุบันมีผู้มีรายได้น้อยที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ และได้รับการโอนเงินแล้วจำนวน 6.1 ล้านราย คิดเป็น 87.5% วงเงิน 14,107 ล้านบาท แบ่งเป็นผู้มีรายได้น้อยที่ไม่ใช่เกษตรกรจำนวน 4.1 ล้านราย วงเงินประมาณ 9,924 ล้านบาท และผู้มีรายได้น้อยที่เป็นเกษตรกรจำนวน 1.9 ล้านคน วงเงินประมาณ 4,182 ล้านบาท” นายณัฐพร กล่าว

จีน หนุนไทย-ลาว-เมียนมา ทุ่ม 655 ล้าน US เปิดทางเดินเรือแม่น้ำโขง

นายกอบศักดิ์กล่าวว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบแผนพัฒนาการเดินเรือระหว่างประเทศในแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง พ.ศ. 2558-2568 และการดำเนินงานเบื้องต้นโครงการปรับปรุงร่องน้ำทางเดินเรือในแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง เพื่อเชื่อมโยงเส้นทางขนส่งทางน้ำที่สำคัญจากประเทศจีนตอนใต้มายังประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลดีต่อการค้าระหว่างประเทศในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือของไทย

โดยการพัฒนาในระยะแรกจะมีแผน 6 ปี ในการพัฒนาเส้นทาง 631 กิโลเมตร ระหว่างชายแดนจีน-เมียนมา  ถึงเมืองหลวงพระบาง  สปป.ลาว เพื่อรองรับเรือ 500 ตัน (DWT) มีการพัฒนาท่าเรือสินค้า 3 แห่ง และท่าเรือโดยสารอีก 3 แห่ง ส่วนระยะที่ 2 มีแผน 4 ปี จะเป็นการพัฒนาเส้นทางในประเทศจีนอีก 259 กิโลเมตร จากซือเหมาถึงชายแดนจีน-เมียนมา เพื่อรองรับเรือ 500 ตัน (DWT) และสร้างสะพาน Yunjinghong ขึ้นใหม่ พัฒนาท่าเรือสำหรับเรือ 500 ตัน (DWT) ท่าเรือสำหรับเรือ 300 ตัน (DWT) และท่าเรือโดยสารอีก 9 แห่ง รวมงบประมาณการลงทุนประมาณ 655 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยรัฐบาลจีนเป็นผู้สนับสนุนเงินทุนผ่านกองทุน China-ASEAN Maritime Cooperation Fund

ทั้งนี้ มีร่องน้ำจำนวน 10 แห่งที่ต้องทำการปรับปรุง สำรวจเส้นทาง และปักปันเขตแดน แบ่งเป็น 1 แห่งในพื้นที่จีน-เมียนมา 9 แห่งในพื้นที่เมียนมา-สปป.ลาว และ 1 แห่งในพรมแดนระหว่างไทย-สปป.ลาว คือ บริเวณแก่งคอนผีหลวง ที่ต้องตกลงปักปันเขตแดนกับ สปป.ลาว

อนุมัติเงินกู้ ขสมก. 2 พันล้าน – รฟท. 1.29 หมื่นล้าน

มีรายงานเพิ่มเติมว่า ที่ประชุม ครม. ได้อนุมัติเงินกู้เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เป็นจำนวน 2,161 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายค่าน้ำมัน ค่าเหมาซ่อม และค่าเบี้ยปรับค้างชำระ ซึ่งเป็นรายจ่ายที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2553-2559 จากมาตรการลดค่าครองชีพประชาชน (รถเมล์ฟรี) จำนวน 800 คัน และการบริการสาธารณะ (PSO) จำนวน 779 คัน โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้

นอกจากนี้ ครม. ได้มีมติเห็นชอบการขออนุมัติกู้เงินเพื่อใช้ดำเนินงานและเงินกู้ระยะสั้นของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ประจำปีงบประมาณ 2560 โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน ในเงินกู้เพื่อบรรเทาการขาดสภาพคล่องในปีงบประมาณ 2560 วงเงิน 1.21 หมื่นล้าน ซึ่งขยายเพิ่มจากเดิมที่เคยอนุมัติไปในวงเงิน 9,460 ล้านบาท เนื่องจากยังขาดเงินสดหมดเวียน และเงินกู้ระยะสั้นเพื่อต่ออายุสัญญาเงินกู้ วงเงิน 800 ล้านบาท กับธนาคารกรุงไทย จำกัด มหาชน ออกไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2560 – 29 มีนาคม 2561 จากเดิมจะสิ้นสุดในวันที่ 29 มีนาคม 2560

ขยายเวลาให้สิทธิประโยชน์ภาษี SMEs ยาวถึงปี 61

มีรายงานเพิ่มเติมว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบให้การขอขยายเวลาการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อสนับสนุนกิจการเงินร่วมลงทุนและส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ผ่านพระราชกฤษฎีกา (พรฎ.) 2 ฉบับ

แบ่งเป็นการขยายเวลาการยกเว้นภาษีสำหรับการจดแจ้งการเป็นกิจการเงินร่วมลงทุนและทรัสต์ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ออกไปอีก 2 ปี (1 มกราคม 2560 – 31 ธันวาคม 2561) โดยกำหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นระยะเวลา 10 รอบระยะเวลาบัญชี แก่บริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ประกอบกิจการที่รัฐต้องการสนับสนุน หรือประกอบกิจการที่รัฐต้องการสนับสนุน 10 ประเภท และประกอบกิจการอื่นด้วย และจดแจ้งการเป็นกิจการร่วมลงทุนต่อสำนักงาน ก.ล.ต.  และต้องเป็นทรัสต์ที่ตั้งขึ้นเพื่อประกอบกิจการเงินร่วมลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุนภายในวันที่ 1 มกราคม 2560 – 31 ธันวาคม 2561

และขยายเวลาการยกเว้นภาษีสำหรับการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เป็นผู้ประกอบการ SMEs รายใหม่ ซึ่งสิ้นสุดเวลาในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ให้ขยายออกไปอีก 1 ปี (1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2560) กำหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นระยะเวลา 5 รอบระยะเวลาบัญชี โดยต้องเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จดทะเบียนจัดตั้งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2560 โดยมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการในรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 30 ล้านบาท

จัดจุดลดอุบัติเหตุบนถนน 443 จุด – เปิดโครงการส่งเสริมลดอุบัติเหตุอีก

พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ได้กล่าวในที่ประชุม ครม. ถึงการสนับสนุนของกระทรวงกลาโหมในการดูแลประชาชนในช่วงหยุดยาวต่อเนื่อง 4 วัน (31 ธ.ค. 2559 – 3 ม.ค. 2560) ว่า กระทรวงกลาโหมได้บูรณาการด้านความมั่นคงและการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน โดยร่วมมือจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงมหาดไทย คสช. ตำรวจ และทหาร ช่วยกันป้องกันและลดอุบัติเหตุในท้องถนน ทั้งนี้ ให้หน่วยงานที่มีที่ตั้งติดกับถนนสายหลักไม่ว่าจะเป็นทหารและตำรวจตั้งจุดอำนวยความสะดวกและบริการทางการจราจรให้กับประชาชนตามเส้นทางหลวงสายต่างๆ จำนวน 443 จุด

นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมยังทำโครงการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการลดอุบัติเหตุภายใต้ชื่อ “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” ให้ประชาชนทราบข้อมูลต่างๆ

ทั้งยังได้เปิดพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ของหน่วยงานทหาร เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าเยี่ยมชมในช่วงเทศกาลปีใหม่โดยไม่เสียค่าบริการ ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดจุดจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรและสินค้าประมง ตลอดจนสินค้าแปรรูปต่างๆ จำนวน 95 จุด สำหรับให้ประชาชนที่เดินทางไปท่องเที่ยวช่วงปีใหม่