ในรอบเดือนที่ผ่านมา คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดคดีเกี่ยวกับความผิดในการจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้บริหาร รองผู้บริหาร สมาชิกสภา ที่ปรึกษา และเลขานุการผู้บริหารในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และได้ส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง และห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี รวมทั้งขอให้ลงโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวม 11 จังหวัด จำนวน 16 ราย ดังนี้
1. จังหวัดกาญจนบุรี: จำนวน 2 ราย คือ
1) นายสรอรรศม์ (สรอรรถ) พันธ์เปรม รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกตะบอง อำเภอท่ามะกา จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบภายในเวลากำหนด กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
2) นางชาติญา เมืองเก่า รองนายกเทศมนตรีตำบลลาดหญ้า อำเภอเมืองกาญจนบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบภายในเวลากำหนด กรณีเข้ารับตำแหน่ง
2. จังหวัดชลบุรี: จำนวน 3 ราย คือ
1) นายพรชัย เชื้อชูชาติ สมาชิกสภาเทศบาลนครแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบ กรณีเข้ารับตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่ง
2) นายประโยชน์ ยิ่งยง ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีตำบลบ่อทอง อำเภอบ่อทอง จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบ กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
3) นายวารินทร์ อินพุ่ม ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีตำบลคลองตำหรุ อำเภอเมืองชลบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบ กรณีพ้นจากตำแหน่ง
3. จังหวัดชัยนาท: จำนวน 1 ราย คือ นางสาวชญานันทน์ อิทธิภิวัฒน์กุล รองนายกเทศมนตรีตำบลหางน้ำสาคร อำเภอมโนรมย์ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบ กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
4. จังหวัดนครสวรรค์: จำนวน 1 ราย คือนายกัญจน์นที ศรีทับทิม เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำทรง อำเภอพยุหะคีรี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบ กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
5. จังหวัดพิจิตร: จำนวน 1 ราย คือนายวิลัย ตรีตุนา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสากเหล็ก อำเภอสากเหล็ก จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบ กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
6. จังหวัดเพชรบูรณ์: จำนวน 1 ราย คือนายจรูญเกียรติ จิรธนวรมงคล รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลชนแดน อำเภอชนแดน จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบ กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
7. จังหวัดกาฬสินธุ์: จำนวน 1 ราย คือนายสุรัตน์ แผ้วนพสุข นายกเทศมนตรีตำบลคำม่วง อำเภอคำม่วง จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบภายในเวลากำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
8. จังหวัดนครราชสีมา: จำนวน 1 ราย คือนายไสว ลวกไธสง เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบลทับสวาย อำเภอห้วยแถลง จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบ กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
9. จังหวัดสกลนคร: จำนวน 2 ราย คือ
1) นายธานี วงศ์อักษร รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคอนสวรรค์ อำเภอวานรนิวาส จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบ กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
2) นายเกษม ไชยสาคร เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกศิลา อำเภอเจริญศิลป์ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบ กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
10. จังหวัดพัทลุง: จำนวน 2 ราย คือ
1) นายนัฐวุธ วงษ์บุญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลป่าบอน อำเภอป่าบอน จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบ กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
2) นายประทีป อ่อนดำ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านนา อำเภอศรีนครินทร์ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบภายในเวลากำหนด กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
11. จังหวัดระนอง: จำนวน 1 ราย คือนายประจวบ จันทร์ลำภู นายกองค์การบริหารส่วนตำบลละอุ่นเหนือ อำเภอละอุ่น จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบ กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี