
วันที่ 20 สิงหาคม 2558 สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด (สหกรณ์ครูขอนแก่น) นำร่องลงนามการเป็นสมาชิกบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) สืบเนื่องจากคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิตได้ออกประกาศให้สหกรณ์และชุมนุมสหกรณ์สามารถสมัครเป็นสมาชิกเครดิตบูโรได้ ทางเครดิตบูโรจึงได้ทำหนังสือเรียนไปยังกลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์ ที่มีขีดความสามารถสูงกว่า 150 ราย ที่มีจำนวนสมาชิกตั้งแต่ 5,000 รายขึ้นไป เพื่อเรียนเชิญเป็นสมาชิกเครดิตบูโร ซึ่งมีสหกรณ์สอบถามยังเครดิตบูโรกว่า 130 ราย และยื่นใบสมัครเป็นสมาชิกเครดิตบูโรจำนวน 6 ราย โดยสหกรณ์ครูขอนแก่นถือว่าเป็นสหกรณ์ออมทรัพย์ต้นแบบรายแรกที่ลงนามเป็นสมาชิกเครดิตบูโร ซึ่งผ่านขั้นตอนในการเตรียมความพร้อมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและด้านการปฏิบัติงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ผู้บริหารของทั้ง 2 หน่วยงาน ได้แก่ นายเอกราช ช่างเหลา ผู้จัดการ สหกรณ์ครูขอนแก่น และนายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ เครดิตบูโร ร่วมลงนามในสัญญาให้บริการสหกรณ์ออมทรัพย์ โดย นายเอกราช ช่างเหลา ผู้จัดการ สหกรณ์ครูขอนแก่น กล่าวถึงการลงนามในครั้งนี้ว่า “สหกรณ์เล็งเห็นความสำคัญและความจำเป็นในการเป็นสมาชิกเครดิตบูโร เนื่องจากสหกรณ์จะได้มีข้อมูลด้านเครดิตบูโรไว้ใช้ประโยชน์ที่จะช่วยลดความเสี่ยงให้น้อยลง สหกรณ์จะมีข้อมูลครบถ้วนว่าสถานะทางการเงินของผู้ที่มายื่นขอกู้เป็นอย่างไร มีความเสี่ยงมากน้อยหรือมีภาระการจ่ายชำระหนี้ที่สมดุลกับแผนการจ่ายเงินเพียงใด ซึ่งจะทำให้สมาชิกสหกรณ์เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น เพราะการมีประวัติชำระหนี้ที่ดีในเครดิตบูโร จะช่วยให้มีโอกาสได้รับอนุมัติสินเชื่อมากกว่าผู้ที่ไม่เคยมีประวัติมาก่อน”
ด้านนายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ เครดิตบูโร กล่าวว่า “การที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นเข้าเป็นสมาชิกเครดิตบูโร เพื่อเป็นต้นแบบการให้แก่สหกรณ์ออมทรัพย์อื่นๆตามนโยบายของภาครัฐ ซึ่งการเข้าเป็นสมาชิกเครดิตบูโรในครั้งนี้จะเป็นการจุดประกายของการยกระดับการบริหารความเสี่ยงของสหกรณ์ออมทรัพย์ให้มีความเข้มแข็ง มีความมั่นคงและเป็นมาตรฐานเทียบได้กับสถาบันการเงินชั้นในระบบการเงินไทย ตลอดจนจะเป็นการส่งสัญญาณของการปฏิรูปสหกรณ์บนพื้นฐานของความสมัครใจเป็นสำคัญ”
อนึ่งจากรายงานของสถาบันอนาคตไทยศึกษาได้เคยระบุว่า สหกรณ์ออมทรัพย์โตเร็วมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในระยะเวลาเพียง 5 ปี จาก พ.ศ. 2551-2555 มียอดเงินให้สินเชื่อเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า สินทรัพย์โตขึ้น 76% มีสมาชิกทั่วประเทศร่วม 2.8 ล้านคน มีเงินรับฝากจากสมาชิกเกือบ 4.5 แสนล้านบาท และมีส่วนของทุนเรือนหุ้นที่มาจากการซื้อหุ้นของสมาชิกอีก 6 แสนล้านบาท รวมแล้วมีสินทรัพย์ร่วม 1.5 ล้านล้านบาท คิดเป็น 13% ของสินทรัพย์รวมในระบบธนาคารพาณิชย์ เทียบขนาดได้เท่ากับธนาคารออมสิน (ดูรายละเอียดเพิ่มเติม)