ThaiPublica > เกาะกระแส > ป.ป.ช. ทยอยขึ้นบัญชีดำเอกชน ส.ค. นี้ หลังพบ 7.1 หมื่นสัญญาไม่ปฏิบัติตามกฏหมาย

ป.ป.ช. ทยอยขึ้นบัญชีดำเอกชน ส.ค. นี้ หลังพบ 7.1 หมื่นสัญญาไม่ปฏิบัติตามกฏหมาย

30 กรกฎาคม 2015


580729วิโรจน์
นายวิโรจน์ ฆ้องวงศ์ อนุกรรมการกำกับดูแลจัดซื้อจัดจ้างในภาครัฐชอง ป.ป.ช. ที่มาภาพ : www.parliament.go.th

นายวิโรจน์ ฆ้องวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำ จ.สกลนคร ในฐานะอนุกรรมการกำกับดูแลจัดซื้อจัดจ้างในภาครัฐของ ป.ป.ช. กล่าวถึงผลการประชุมคณะอนุกรรมการฯ ที่มีนายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธาน เพื่อพิจารณาขึ้นบัญชีดำหรือ “แบล็กลิสต์” บริษัทเอกชน ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 103/7 วรรคสอง ที่ให้คู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐในโครงการที่มีมูลค่าเกินกว่า 2 ล้านบาทขึ้นไป ต้องยื่นบัญชีแสดงรายรับรายจ่ายในโครงการต่อกรมสรรพากร ซึ่งมีบริษัทที่เข้าข่ายจะถูกขึ้นแบล็กลิสต์กว่า 1 พันบริษัท ว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ ได้มีมติให้ส่งหนังสือแจ้งไปยังบริษัทเหล่านั้น เพื่อเปิดโอกาสได้ชี้แจงเหตุผลของการไม่ยื่นบัญชีแสดงรายรับรายจ่ายตามกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 103/7 วรรคสอง กลับมายัง ป.ป.ช. ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับบริษัทดังกล่าว

หากชี้แจงกลับมา คณะอนุกรรมการฯ ก็จะนำมาพิจารณาว่ามีความสมเหตุสมผลหรือไม่ แต่หากบริษัทใดไม่ชี้แจงกลับมาก็จะถูกขึ้นแบล็กลิสต์ทันที โดยการขึ้นแบล็กลิสต์จะไม่ทำครั้งเดียวทุกบริษัท แต่จะทยอยขึ้นทีละบริษัท คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในเดือนสิงหาคม 2558

“สำหรับจำนวนบริษัทที่เข้าข่ายไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ป.ป.ช. ขณะนี้ยังมีตัวเลขไม่แน่ชัด เพราะระบบขึ้นเพียงว่ามีคู่สัญญาที่ไม่ยื่นบัญชีรายรับร่ายจ่าย รวม 71,386 สัญญา แต่ไม่ได้แยกว่าเป็นบริษัทใดบ้าง ที่ประชุมจึงมีมติให้เจ้าหน้าที่ของ ป.ป.ช. กลับไปแยกเป็นรายบริษัทให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า แต่คาดกันว่าน่าจะอยู่ที่หลักพันบริษัท เพราะแต่ละบริษัทจะเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐเฉลี่ย 50-60 สัญญา นอกจากนี้ ยังต้องแยกสัญญาที่ไม่สามารถขึ้นแบล็กลิสต์ออกไปด้วย เช่น มหาวิทยาลัยบางแห่ง เพราะเป็นหน่วยงานของรัฐ ไม่ใช่บริษัทเอกชน” นายวิโรจน์กล่าว

เมื่อถามว่าการขึ้นแบล็กลิสต์แต่ตัวบริษัท แต่ไม่ขึ้นแบล็กลิสต์เจ้าของบริษัท สุดท้ายก็ไปเปิดบริษัทใหม่มาทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐได้อยู่ดี ป.ป.ช. จะแก้ปัญหาอย่างไร นายวิโรจน์กล่าวว่า นี่เป็นช่วงเริ่มต้นของการใช้มาตรการนี้ คงยังไม่เข้มงวดมากขนาดนั้น ที่สำคัญการเปิดบริษัทใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย คิดว่ากรรมการบริษัทแต่ละแห่งน่าจะอยากทำให้ถูกกฎหมาย ป.ป.ช. มากกว่า แต่ในอนาคตก็อาจจะต้องมีการแก้ไขระเบียบของ ป.ป.ช. ในเรื่องนี้ ให้ขึ้นแบล็กลิสต์รวมไปถึงกรรมการบริหารบริษัทด้วย เพราะระเบียบของ ป.ป.ช. ปัจจุบัน ให้ขึ้นแบล็กลิสต์ได้เฉพาะตัวบริษัทเท่านั้น яндекс