ครม.ยิ่งลักษณ์ เข้ารับทราบข้อกล่าวหา คดีจ่ายเงินเยียวยาม็อบไม่ชอบจาก ป.ป.ช. แค่ 10 ราย “ยิ่งลักษณ์-เฉลิม-กิตติรัตน์” ไม่มา ส่งหนังสือแจ้งทางไปรษณีย์แทน – ยกคำร้องคัดค้านอนุไต่สวนของ “อนุดิษฐ์”

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2558 นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ชี้แจงความคืบหน้าคดีจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง พ.ศ. 2548-2553 โดยไม่มีกฎหมายรองรับ ว่า
ตามที่คณะอนุกรรมการไต่สวนได้พิจารณาและมีมติเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2558 ให้แจ้งข้อกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคณะรัฐมนตรี รวม 34 ราย กรณีจ่ายเงินเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง พ.ศ.2548-2553 โดยไม่มีอำนาจ เนื่องจากไม่มีกฎหมายรองรับ ซึ่งฝ่ายเลขานุการได้กำหนดให้ผู้ถูกกล่าวหาดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 9, 23, 25 , 29 และวันที่ 30 มิถุนายน 2558 นั้น ปรากฏว่า
มีผู้ถูกกล่าวหาที่ “มาทราบข้อกล่าวหาหรือได้ส่งตัวแทนมารับบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว” มีจำนวน 10 ราย ดังนี้
- น.อ. อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) มารับเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2558
- นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มารับเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2558
- นายธีระ วงศ์สมุทร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มารับเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2558
- นางนลินี ทวีสิน อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มารับเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2558
- พล.อ. ยุทธศักดิ์ ศศิประภา อดีตรองนายกรัฐมนตรี มารับเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2558
- นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มารับเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2558
- นางสุกุมล คุณปลื้ม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม มารับเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2558
- นายวิทยา บูรณศิริ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มารับเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2558
- ม.ร.ว. พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มารับเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2558
- นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง มารับเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2558
มีผู้ถูกกล่าวหา จำนวน 1 ราย คือ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย “ไม่สามารถส่งหนังสือขอให้มารับทราบข้อกล่าวหาได้” จึงต้องดำเนินการส่งบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับต่อไป
มีผู้ถูกกล่าวหาที่มีหนังสือขอเลื่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหา และที่ประชุมได้พิจารณาให้เลื่อน โดยกำหนดให้ผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้ง ในวันที่ 30 มิถุนายน 2558 แต่ปรากฏว่า “ไม่มารับทราบข้อกล่าวหา จึงต้องส่งบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาไปให้ทางไปรษณีย์” จำนวน 8 ราย ได้แก่
- น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
- นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี
- ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกรัฐมนตรี
- นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
- นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
- นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
- นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
- นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
มีผู้ถูกกล่าวหาที่มีหนังสือ “ขอเลื่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหา และที่ประชุมได้พิจารณาให้เลื่อน” โดยกำหนดให้ผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้ง ในวันที่ 14 กรกฎาคม 2558 เวลา 14.00 น. จำนวน 13 ราย ได้แก่
- นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
- พล.ต.ท. ชัจจ์ กุลดิลก อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
- นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
- นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- นายชูชาติ หาญสวัสดิ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
- นายฐานิสร์ เทียนทอง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
- พล.ต.อ. ประชา พรหมนอก อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
- นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
- นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์
- นายศักดา คงเพชร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
- นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข
- นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
- นายสันติ พร้อมพัฒน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ทั้งนี้ หากผู้ถูกกล่าวหาดังกล่าวข้างต้นไม่มารับทราบข้อกล่าวหาตามกำหนด จะต้องดำเนินการส่งบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับต่อไป
ผู้ถูกกล่าวหา จำนวน 2 ราย คือ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ พล.อ.อ. สุกำพล สุวรรณทัต อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีกำหนดให้มารับทราบข้อกล่าวหาในที่ 30 มิถุนายน 2558 ปรากฏว่า นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ได้มายื่นหนังสือลงวันที่ 30 มิถุนายน 2558 อ้างว่าคำสั่งคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่ 442/2556 ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2556 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยไม่ได้เข้าพบคณะอนุกรรมการไต่สวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาแต่อย่างใด เห็นว่า นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ณ์ชัยกุล เพียงมายื่นหนังสืออ้างว่าคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไม่ชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น แต่ไม่ได้มาพบคณะอนุกรรมการไต่สวนเพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหา จึงถือว่าผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองไม่มารับทราบข้อกล่าวหา และได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการดำเนินการส่งบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหา ทั้งสองรับทราบทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับต่อไป
เลขาธิการ ป.ป.ช.กล่าวอีกว่า ส่วนการยื่นคัดค้านคณะอนุกรรมการไต่สวน ตามที่ น.อ. อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ผู้ถูกกล่าวหา ได้มีหนังสือลงวันที่ 29 มิถุนายนมิถุนายน 2558 ขอคัดค้านและเปลี่ยนหรือถอนตัวคณะอนุกรรมการไต่สวน โดยอ้างเหตุว่า น.อ. อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีอาญา คณะอนุกรรมการไต่สวนเป็นจำเลย และ น.อ. อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เป็นผู้หนึ่ง ในคณะรัฐมนตรีที่ถูกกล่าวหาจากการไต่สวนของคณะอนุกรรมการทั้ง 11 คน อนุกรรมการทั้งสิบเอ็ดคนดังกล่าว จึงตกเป็นผู้มีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ถูกกล่าวหา ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 46 (3) และตามระเบียบคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของคณะอนุกรรมการไต่สวน พ.ศ.2547 ข้อ 11 (3) ซึ่งห้ามมิให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการที่มีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ถูกกล่าวหา กล่าวคือ อนุกรรมการนั้นถูกฟ้องดำเนินคดีอาญา มาทำหน้าที่เป็นคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีของ น.อ. อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ได้อีก ซึ่งจะทำให้การไต่สวนข้อเท็จจริงไม่ได้ความจริงและความยุติธรรม นั้น
“คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว เห็นว่ากรณีดังกล่าวไม่เข้าเหตุแห่งการคัดค้านตามมาตรา 46 (3) แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 จึงมีมติให้ยกคำคัดค้านดังกล่าว และมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาให้ น.อ. อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ผู้คัดค้านทราบต่อไป” นายสรรเสริญกล่าว