ประชาชนยังรวมพลังต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับสุดซอย
ภาพหลุด บอย ปกรณ์ กับสาวปริศนาที่เกาหลี
ใบเตย ปล่อยโฮ หนูไม่ใช่คนในภาพจจับมือสวีททักษิณในต่างแดน
อีกโศกนาฏกรรมจากความประมาท เรือโดยสารเกาะล้าน-พัทยา ล่ม!!
ดิ้นไม่หลุด จัสติน บีเบอร์ ถูกสาวปล่อยคลิป
อ่านรายละเอียด
ประเด็นที่ถูกพูดถึงมากสุดในโซเชียลมีเดียในรอบสัปดาห์ 3-9 พฤศจิกายน 2556
เรื่องแรก จาก “ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับสุดซอย” ที่ในสัปดาห์นี้ดูจะร้อนแรง ทั้งในเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม หรือทวิตเตอร์ ที่หลายคนต่างขึ้นข้อความภาพสัญลักษณ์การคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เป็นรูปโปรไฟล์ และในชีวิตจริงที่ประชาชนต่างลุกขึ้นรวมพลังคดค้าน พ.ร.บ. ดังกล่าวตามสถานที่ชุมนุมต่างๆ ทั้งเวทีราชดำเนิน และกลุ่มนักธุรกิจและประชาชนย่านสีลม หรือการประกาศจุดยืนของสถาบันองค์กรต่างๆ อาทิ สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ที่ประกาศนัดหยุดงานเพื่อออกมาร่วมเคลื่อนไหวต่อต้าน, กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยกรุงเทพ, มหาวิทยาลัยรังสิต, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และกลุ่มพนักงานการบินไทย ที่รวมตัวกันสวมชุดดำเป่านกหวีดหน้าตึก
หรือแม้แต่ดารานักแสดงที่ตบเท้ากันร่วมประกาศจุดยืน แสดงพลังผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กและขึ้นประกาศจุดยืนบนเวที จนสังคมออนไลน์ต่างแชร์ คำพูดคำคม ของดารานักแสดงเหล่านั้นกันอย่างมากมาย อาทิ ครูลิลลี่ กิจมาโนชญ์ โรจนทรัพย์ ครูติวเตอร์สอนวิชาภาษาไทยชื่อดัง ปล่อยวลีเด็ด “ถ้ารักชาติมันน่ากลัว ก็อยู่ในครัวไปเถอะ”, เต๋า สมชาย เข็มกลัด กับวลีที่ว่า “ในเมื่อศาลตัดสินแล้ว ตัวผมเองยังต้องไปติดคุกมา 15 วัน แล้วพวกเขาเหล่านั้นกำลังทำอะไรอยู่ครับ”, นักแสดงสาว แตงโม ภัทรธิดา พัชระวีรพงษ์ ที่ควงคุณพ่อมาร่วมชุมนุม และขึ้นพูดบนเวทีราชดำเนินด้วย หรือ หมอก้อง สรวิชญ์ สุบุญ นักแสดงชื่อดังทางช่อง 3 ที่โพสต์ข้อความประกาศจุดยืน กรณีที่ถูกกล่าวหาว่าเหล่าคนบันเทิงถูกจ้างมา โดยมีข้อความว่า “อย่ามาเสียเวลาหาว่าคนอย่างพวกผมถูกจ้างมาเลยครับ ค่าตัวผมไม่ใช่ถูกๆ ระดับการศึกษาผมมันสูงล้ำกว่าที่สิ่งมีชีวิตในร่างกายมนุษย์อย่างพวกคุณจะรับรู้ได้ เสียดายนะครับที่ได้เกิดเป็นคนไทย เกิดบนแผ่นดินทอง แต่ใจมึงเลวได้ขนาดนี้”
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้แถลงข่าวยืนยันว่าจะถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมออกจากสภาและยืนยันที่จะไม่มีการนำร่างพ.ร.บ. ฉบับดังกล่าวกลับมาพิจารณาอีก เพราะไม่ต้องการฟื้นความรู้สึกประชาชน และรัฐบาลจะไม่ใช่ความรุนแรง ไม่ทำอะไรให้ระคายเบื้องพระยุคลบาทอย่างแน่นอน โดย ร่างพ.ร.บ. ดังกล่าวจะต้องการสร้างความสมานฉันท์ในสังคม โดยไม่เกี่ยวกับการล้างความผิดทางทุจริต ทั้งขอความกรุณาประชาชน อย่าหลงเชื่อในข่าวลือ และอย่าไปใกล้บริเวณพื้นที่เสี่ยง เพราะอาจมีมือที่ 3 ก็เป็นได้ พร้อมขอวิงวอนประชาชนยุติการชุมนุม
ทางด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก็ได้มีการโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก เรียกร้องกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ให้มาร่วมชุมนุมที่สนามศุภชลาศัย ในวันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2556 โดยมีข้อความดังนี้
“สถานการณ์นี้ต้องเร่งจัดการภายในเพื่อเผชิญปัญหาภายนอก รวมหัวใจให้เป็นเอกภาพ เวที นปช.เพื่อไทย ปกป้องประชาธิปไตย ๑๐ พ.ย. ๕๖ สนามศุภชลาสัย เริ่มตั้งแต่ ๔ โมงเย็น”
ทางด้านชาวโซเชียลมีเดีย ต่างก็มีความเห็นกันดังนี้
“รอบสามนี้ ท่านนายกรัฐมนตรีเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น แสดงความมั่นใจมากขึ้น ที่สำคัญคือการที่ไม่มีวอล์เปเปอร์ทำให้ท่านนากรัฐมนตรีเด่นกว่าเดิม ต้องบอกว่าทำให้ราศีดี แต่เนื้อหากลับขาดความจริงใจ เพราะถูกย้ำในเรื่องที่ไม่ครบถ้วนจากเจ็ดฉบับ ถอนแค่หกฉบับ ตรงนี้ท่านนายกรัฐมนตรีต้องยอมรับ และชัดเจน”
“ไม่อยากจะเชื่อ คนไทย เสียสติ ได้เพราะทักษิณ คนเดียว ความเกลียดเข้ามาครอบงำปัญญา เป็นเกมของนักการเมืองทั้งนั้น”
“จริงๆ แล้ว สังคมในปัจจุบัน ดาราถือเป็นพวกที่มีอิทธิพลกับคนรุ่นใหม่มาก ฉะนั้นจะทำอะไรเราต้องดูด้วยว่าเป็นเหตุตั้งใจจริงเพื่อชาติหรือแค่สร้างภาพ”
“ศาลตัดสินแล้วคุณต้องยอมรับผิดซิครับ คุณไม่เห็นด้วยก็ต่อสู้ซิครับ เงินก็มีเงินมากมายคุณจะจ้างทนายเก่งๆก็ย่อมได้ หรือคุณรู้ว่าสู้ไม่ได้เพราะมีคดีอีกเป็นสิบไม่รอดแน่ เลยใช้วีธีขืนใจประชาชน ยอมไม่ได้ๆครับพี่น้อง”
“ประเด็นมันก็อยู่ที่ว่าคนที่คิดเป็นในบ้านเมืองนี้เค้าร่วมใจกันต่อต้านพรบ.นิรโทษกรรมกัน ไม่มีใครเค้าเอาแล้ว ย้ำว่า”คนที่คิดเป็น” และ คนดีหรือคนไม่ดีห่างกันนิดเดียว”
“ทุกวันนี้นักการเมืองไทยต่างวุ่นวายอยู่กับการกลับมาของทักษิณ แทนที่จะเอาเวลาเหล่านั้นมาพัฒนาเศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก ”
“ประเทศชาติ มันมีอะไรสำคัญกว่าการนิรโทษกรรมนะ คุณภาพชีวิตประชาชน ความเป็นอยู่ และปากท้อง ชีวิตคนต่างจังหวัด อดๆ ยากๆ ชีวิตคนกรุง… รถติด, แท็กซี่ไม่รับ, รถตู้เต็ม, รถเมลล์นานคันมาที ก็เบียดกันเป็นปลากระป๋อง!! อยากปรองดองเห็นประชาชนในประเทศมีความสุข ถามกันซักนิดมั๊ย ว่าความสุขของประชาชน คือ อะไร?? มีข้าวกิน 3 มื้อ ไม่เป็นหนี้ ชีวิตไม่เครียด ที่สำคัญ รถไม่ติด ก็พอแล้วมั้ง”
เรื่องที่สอง อีกประเด็นข่าวที่ฮอตสูสีไปกับม็อบต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ได้แก่ ข่าวคราวทางด้านวงการบันเทิง ที่บางกลุ่มคนทางวงการการเมืองมองว่าถูกดันให้ดังกลบข่าวม็อบการเมืองที่เกิดขึ้น นั่นก็คือประเด็นข่าวที่ พระเอกหนุ่มเกรียน หน้าหนวด “บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” มีภาพหลุดกับสาวปริศนา ที่เห็นเพียงนิ้วโป้งเท้าและเล็บยาวสีทอง โดยที่ก่อนหน้านี้ก็ได้มีข่าวอักษรย่อประเด็นนี้ออกมาแล้ว เกี่ยวกับดาราหนุ่มที่แอบไปกินสาวที่แดนกิมจิ แต่บอย ปกรณ์ ก็ออกมาปฏิเสธ
แต่เมื่อมีภาพออกมาให้เห็นชัดทั่วโลกออนไลน์ว่า หนุ่มในภาพคือ บอย ปกรณ์ ที่กำลังแต่งตัวอยู่ในห้องนอน จึงได้มีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวพร้อมน้ำตา โดย บอย ควงคุณแม่ ออกมายอมรับ พร้อมขอโทษบรรดาแฟนคลับที่ทำให้ผิดหวัง พร้อมยังมีข้อความปรากฏในอินสตาแกรม ที่ไม่มีการเคลื่อนไหวอยู่หลายวันของบอย ว่า “ผมขอโทษทุกคนอีกครั้งนะครับ ผมเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และขอบคุณอย่างมากสำหรับทุกๆ กำลังใจที่มีเข้ามาให้ผมทุกๆ ทาง ขอบคุณจริงๆ ครับ ผมจะเข้มแข็งขึ้นและจะทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุด ผมสัญญา”
หลังการแถลงข่าว ก็ยังมีภาพนิ่งที่จับจากคลิปที่ถูกอ้างว่าคือบอย ปกรณ์ หลุดออกมาอีก แต่เจ้าตัวก็ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า “อย่าตกใจกันไปนะครับ รูปที่แคปจากคลิปที่มีการส่งต่อกันตอนนี้ ไม่ใช่รูปผมแน่นอนครับล้านเปอร์เซ็นต์ครับ” เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจ และยุติความตื่นตระหนกไปมากกว่าเดิม
ขณะที่แฟนคลับและเพื่อนนักแสดงต่างก็ให้กำลังใจบอย ปกรณ์ เป็นจำนวนมาก อีกทั้งชาวโซเชียลยังมองว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่ความผิดร้ายแรง ทำไมต้องมีการจัดงานแถลงข่าวใหญ่โตขนาดนี้ ต้องการกลบประเด็นอะไรหรือไม่ และภาพที่หลุดออกมานั้นเพื่ออะไร ต้องการแบลคเมล์หรือมีวัตถุประสงค์ใดแอบแฝง โดยที่บรรดาเหยี่ยวข่าวต่างก็ตั้งประเด็นเสาะหาสาวคนดังกล่าวที่อยู่ในภาพ ทั้งการเปรียบเทียบรูปจากข้อความการสนทนาทางไลน์ การเปรียบเทียบนิ้วมือ และนิ้วเท้า ซึ่งก็มีหญิงสาวที่ถูกจับตามองออกมาปฏิเสธ และหัวเสียกับการคาดเดาดังกล่าวไม่ใช่น้อย เพราะเรื่องราวเช่นนี้ในสังคมไทย ผู้หญิงย่อมเสียหายมากกว่าผู้ชายอย่างแน่นอน
“ขอเป็นกำลังใจให้บอย ปกรณ์ คนนี้ด้วย นายแมนมากและนายก็ไม่ผิด!!!”
“ไม่เข้าใจว่าทำมัยต้องคิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่โตเพราะเขาก้อเป็นมนุษย์ธรรมดามีเสรีที่จะยุ่งกับใครก็ได้ ถือว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคลจริง”
“แปลกมาก คนจะนิรโทษกรรมความผิดตัวเองไม่เคยขออนุญาต แต่นี่คนโสด ไม่มีเมีย อายุก็มากแล้ว จะมีอะไรกับผู้หญิงสักคนยังต้องมาขออนุญาตประชาชน งงจริง”
“ผู้หญิงนางนี้น่ากลัว กล้าปล่อยคลิปประจารตัวเอง ทำไปเพื่ออะไร ถ้าผู้ชายเขาไม่ใส่ใจ ผู้หญิงก็มีแต่เสีย ทำเขาแบบนี้เขาก็ไม่มีทางยกย่องแน่นอน”
“สมัยนี้ฝ่ายชาย เขาเสียตัวต้องมาร้องให้ แล้วฝ่ายหญิงดีใจจนต้องอวดด้วยเหรอ”
“คุณบอย จะร้องไห้ไปทำไมคะ ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไร เป็นธรรมดาของผู้ชาย เมื่อมีผู้หญิงมาเสนอก็ต้องสนอง ไม่ได้ไปข่มขืนหรือหลอกลวงเค้า ไม่เห็นจะต้องเสียใจ ก็เห็นได้ชัดๆ ว่าผู้หญิงเขาพอใจ ไม่งั้นจะถ่ายรูปเก็บไว้อวดโชว์ชาวบ้านแบบนี้เหรอ”
“ไม่เห็นจะแปลกเลยเรื่องธรรมดาของผู้ชายเขาไม่ได้นอกใจใครสักหน่อย เป็นกำลังใจให้พี่บอยสู้ๆ ค่ะ”
เรื่องที่สาม อีกครั้งกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และสาวปริศนาในรูปถ่าย ที่หลายคนต่างลงความเห็นว่าคือสาวลูกทุ่งนุ่งสั้น ใบเตย อาร์สยาม ผู้เคยตกเป็นข่าวกับอดีตนายกฯ แต่ครั้งนี้ดูจะเป็นข่าวแรงกว่าครั้งที่ผ่านมา เพราะภาพที่เห็นเป็นการเดินจับมือเดินไปด้วยกัน โดยมีบอร์ดี้การ์ดคอยเดินตามหลังอยู่หนึ่งคน ส่งผลให้เรื่องนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันไปมาก และหลายคนก็เชื่อว่าสาวปริศนาในภาพนี้คือใบเตย
ร้อนถึงคนคนใกล้ตัวไม่ว่าจะน้องชายหรือเพื่อนชายคนสนิท ที่ออกมาปกป้อง โดยที่ใบเตยเองก็ต้องรีบออกมาแก้ข่าวเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งภายในวันเดียวกันที่ภาพหลุดออกมา ใบเตยได้มีการโพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า baitoey_rsiam โดยมีข้อความว่า
“ขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้ตอบคำถามที่หลาย ๆ คนสงสัยเลยนะคะ ใบเตย ไม่ใช่ผู้หญิงในรูปที่จับมือกับคุณทักษิณแน่นอนค่ะ อย่างที่เคยบอกไปเมื่อตอนแถลงข่าวนะคะ ว่า ใบเตยกับคุณทักษิณ เคยพบเจอกันแค่ตอนที่ไปแสดงที่ต่างประเทศ หน้าเวที เท่านั้นค่ะ ไม่มีการนัดพบหรือพูดคุยนอกเหนือจากนั้นเลยค่ะ ขอความกรุณาทุกท่าน หยุดโยงหนูเข้าไปเกี่ยวกับการเมืองนะคะ หนูเป็นนักร้องทำหน้าที่มอบเสียงเพลง ความบันเทิงกับเรื่องการเมืองไม่ควรจะข้องเกี่ยวกัน และที่สำคัญที่สุด เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อครอบครัวหนูอย่างมาก ขอให้เข้าใจนะคะ ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนท์และการเป็นห่วงค่ะ …ใบเตย อาร์สยาม”
และอีกวันหลังจากมีภาพหลุด ใบเตย ก็ได้มีการจัดการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ เพื่อยืนยันว่าสาวปริศนาในภาพไม่ใช่ตนเอง เพราะตนเองไม่เคยแต่งกายด้วยกางเกงผ้าสีดำ และไม่เคยมีเสื้อสีขาวแขนยาวเหมือนในภาพ อีกทั้งไม่เคยถ่ายภาพคู่ หรือภาพแบบใกล้ชิดสนิทสนมกับอดีตนายกฯ อย่างอย่างแน่นอน พร้อมกับมีการโพสต์ภาพลงอินสตาแกรม และอธิบายว่าสาวคนในภาพอาจเป็นสาวเอม พินทองทา ลูกสาวของอดีตนายกฯ ก็เป็นได้ ทั้งยังมีการเทียบภาพที่สาวเอมแต่งชุดเหมือนในภาพอีกด้วย
“ไม่เคยแต่งแบบในนั้นเพราะปกติใส่สั้นกว่านั้นมากเหรอ”
“จะใช่หรือไม่ก็ตาม ต้องคิดดูว่าเพราะอะไร ทำไมคนทั่วไปเขาถึงคิดกันไปใหญ่ คงต้องมองดูตัวเองแล้วนะ ว่าทำอะไรไว้บ้าง”
“ไม่อยากให้ว่าใบเตยมากมายนัก เค้าก็คงโดนผู้ใหญ่กดดันหรือสั่งมานะ คราวที่แล้วก็เผลอให้ข่าว โดยไม่ได้เตี้ยมไว้ ต้นสังกัดคงโดนไปไม่ใช่น้อย เรื่องคราวนี้อีก ยังไงก็ต้องทำตามเบื้องบนสั่ง ใบเตยเป็นดาราในสังกัดน่ะครับ ไม่ใช่เจ้าของบริษัท จะพูดจะให้ข่าวอะไรเกี่ยวกับผู้มีอำนาจ มันจะมีผลกระทบต่อบริษัทแม่เยอะ”
“บางครั้งร้านอาหารที่มีชื่อเสียง เขาจะมีระเบียบสำหรับลูกค้าที่จะเข้าร้านต้องแต่งตัวสุภาพเรียบร้อยไม่นุ่งสั้นแบบที่ใบเตยชอบ เพราะมันดูเหมือนไม่ให้เกียรติ ต้องปฏิบัติตามกฏ dress code ที่เขาวางใว้ด้วย”
“ดูไปก้อคล้ายๆ เขาอยู่นะ คนเราจะนุ่งสั้นกันทุกวี่วันเหรอ ยิ่งต่อหน้าคนที่มีอำนาจก็ต้องแต่งตัวดีหน่อย เห็นซื้อบ้านเป็นยี่สิบล้าน ทำงานแถบตายก้อไม่ได้หรอกยี่สิบล้านในเวลาเดียวกัน เป็นคนบอกเองว่าเขาจ้างไปกินข้าว แล้วมาบอกไม่ใช่”
“เอาตามเนื้อผ้า ถ้าจริงใครจะยอมรับ คิดเอาไว้แล้ว ว่าต้องให้เอม ถ่ายภาพที่ใส่ชุดคล้ายกันมายืนยันถ้าไม่มีภาพที่เห็นหน้าชัดๆ ใครจะไปยอมรับจริงมั๊ย”
เรื่องที่สี่ จากเหตุการณ์เรือโดยสาร 2 ชั้น เกาะล้าน-พัทยา ล่มหน้าหาดนวล เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเที่ยวระหว่างการเดินทางกลับมาแหลมบาลีฮาย ห่างจากฝั่ง 100 เมตร จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย และบาดเจ็บกว่า 100 ราย โดยที่เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือนักท่องเที่ยวขึ้นมาจากน้ำได้ 209 คน
ทั้งนี้ ตามรายการข่าว มีการรายงานการปฏิบัติงานอย่างหนักของเจ้าหน้าที่กองทัพเรือและกรมเจ้าท่า ที่ส่งนักประดาน้ำลงไปเพื่อสำรวจเพิ่มเติมค้นหาผู้เสียชีวิตและผู้สูญหาย ก็พบว่าเส้นทางเดินเรือดังกล่าวมีโขดหินค่อนมาก ทำให้ท้องเรือกระแทกกับโขดหินจนแตกเสียหาย และในขณะเดียวกันก็มีระดับน้ำค่อนข้างลึก โดยในบริเวณที่เรืออับปางลึกประมาณ 30 เมตร อีกทั้งปั๊มน้ำในเรือชำรุด ทำให้น้ำเข้าเรืออย่างรวดเร็ว ประกอบกับเป็นจังหวะที่เรือโคลงเคลงอย่างแรง นักท่องเที่ยวหนีไปรวมตัวกันที่หัวเรือจนทำให้เรือพลิกตะแคงและจมลงอย่างรวดเร็ว ทั้งยังมีการตรวจพบอีกว่า เรือลำดังกล่าวเพิ่งเสร็จจากการซ่อมเพียง 2 สัปดาห์ และรับนักท่องเที่ยวเกินอัตราที่กำหนด อีกทั้งไม่แจกเสื้อชูชีพ จึงทำให้เกิดโศกนาฏกรรมอันน่าเศร้าขึ้น
อย่างไรก็ตาม ทางด้านนายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้มีการแถลงต่อสื่อว่า เบื้องต้น ผู้เสียชีวิตนั้นจะได้รับการช่วยเหลือรายละ 3 แสนบาท สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ จะได้รับการช่วยเหลือรายละไม่เกิน 1.5 แสนบาท และทางด้านนายสมาน ขวัญเมือง อายุ 47 ปี คนขับเรือ ก็ถูกแจ้งข้อหาประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และเสพยาเสพติด เนื่องจากพบว่ามีสารเสพติดในร่างกายอีกด้วย
“ยังไม่เคยข้ามไปซะที แต่ได้ยินเรื่องเรือบรรทุกผู้โดยสารเกินมานานแล้ว ก็ยังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแล พอเกิดเหตุเรือล่มแล้วจะมีการแก้ไขและทำได้ต่อเนื่องอีกรึเปล่าก็ไม่รู้”
“ไม่มีเสื้อชูชีพแจกหรือ… ขนาดเราเหมาเรือไปตกปลากัน ถึงจะลำเล็กกว่านี้เค้าก็ยังแจกเสื้อชูชีพให้ใส่ งบน้อยหรือไงแค่แจกให้ใส่พอลงก็คืน”
“เรือไทยไม่ได้มาตรฐานเลย ที่เวียตนามและสิงคโปร์นี่เรือเขาได้มาตรฐานสุดๆ ผู้โดยสารจะออกมายืนกินลม เหมือนเรือไทยก็ไม่ได้ แต่อาจโผล่หน้าออกมาถ่ายรูปได้นิดหน่อย เขาจะมีคนคอยดูแล แต่ดูเรือไทยท้ายก็โล่งบนก็โล่งผู้โดยสารเดินไปได้ทั่วลำเรือเลย หาความปลอดภัยไม่ได้”
“ครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายแน่นอน พอเกิดปัญหาก็แก้ดูแลที พอนานวันก็เงียบเป็นเหมือนเดิม หลายปัญหาที่มีคนตายและบาดเจ็บจำนวนมาก อีกหน่อยนักท่องเที่ยวจะขยาดเมืองไทย ช่างไม่มีความปลอดภัยซะอย่าง”
“ว่าเรืออย่างเดียวก็ไม่ถูก แต่เรือก็เป็นส่วนหนึ่ง นักท่องเที่ยวด้วย รอไปเรือที่ถูกต้องไม่ไหวความปลอดภัยมากกว่า ตั้ว 30 บาท และดันไปขึ้นเรือเหมาลำ ตั่ว 150 และไม่มีคนควบคุมปริมาณ อย่างนี้จะโทษใครดี ถึงจะมีก็โดนนักท่องเที่ยวด่าอยู่ดีหรือขอไปหน่อย ซึ่งนักท่องเที่ยวก็ไม่วางแผนเลย จะกลับเรือเที่ยวสุดท้าย”
“เพิ่งกลับมาจากเกาะล้าน ถือว่าโชคยังดี ไม่เกิดอุบัติเหตุ แบบ ลำนี้ แต่อยากจะบอกว่า เท่าที่เห็น ไม่เคยมีใครเสื้อชูชีพเลยซักคน ทั้งไปและกลับรวมทั้งตัวน้องเองก็ไม่ใด้ใส่เหมือนกัน อยากให้คนที่ข้ามเรือไปเกาะล้าน ใส่ใจตัวเองกันซักนิด หยิบเสื้อชูชีพป้องกันตัวเองกันด้วย เพราะว่าทุกคนขึ้นเรือแล้วก็ กดแต่โทรศัพท์ ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดเหตุแบบนี้ เสียใจกับคนเสียชีวิตด้วยน่ะค่ะ”
เรื่องที่ห้า อีกเรื่องเป็นของหนุ่มน้อยหน้าฝรั่งที่มีแฟนคลับอยู่ทั่วโลกอย่าง จัสติน บีเบอร์ ที่ตั้งแต่ยังไม่แตกเนื้อหนุ่มดี ก็มีข่าวฉาวมาเรื่อย ล่าสุดมีคลิปวิดีโอความยาวประมาณ 15 วินาที ออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน เป็นคลิปที่เผยให้เห็นภาพของ จัสติน บีเบอร์ ใส่เสื้อกล้ามนอนหลับอยู่บนเตียง ส่วนท่อนล่างอยู่ใต้ผ้าห่ม โดยมีสาวคนถ่ายคลิปทำท่าทางส่งจูบให้อย่างภูมิใจ ซึ่งก่อนหน้าที่คลิปนี้จะหลุดออกมาเพียงไม่กี่วัน จัสติน บีเบอร์ ก็โดนกระแสข่าวเรื่องการเที่ยวสถานบริการในบราซิล
พร้อมกับมีภาพข่าวที่เห็นบอดี้การ์ดเดินคุ้มกันและใช้ผ้าคลุมตัวชายหนุ่มที่มีรอยสักที่แขน ที่หลายแหล่งข่าวยืนยันได้ว่าคือ จัสติน บีเบอร์ ออกมาจากสถานบริการกับสาวอีกสองคน ก่อนทั้งหมดจะขึ้นรถลีมูซีนออกไป โดยที่สำนักข่าวต่างประเทศ ต่างสรุปกันว่าสาวที่ถ่ายคลิปคงเป็นสาวในสถานบริการดังกล่าวที่ จัสติน บีเบอร์ พากลับเข้าที่พักด้วย ขณะทัวร์คอนเสิร์ตที่ประเทศบราซิล
“กลับมองว่าก็โอเคนะ ที่เขาไม่มั่วกับแฟนคลับ แต่ไปเลือกผู้หญิงที่ทำเป็นอาชีพ”
“พี่บอยมีเพื่อนแล้วครับ แต่คนนี้ ฝ่ายหญิง เค้าไม่อายฟ้าดินเลย”
“ต่างชาติ เขาถือเป็นเรื่องปกตินะครับ แต่บ้านเราไม่ใช่ครับและอีกอย่างนะครับ อย่างนะครับ วัฒนธรรม เราแตกต่างกันด้วยนะครับ อย่าไปเปรียบกับบอย ปกรณ์”
“ทำไมผู้หญิงยุคนี้ มีอะไรกับผู้ชายแล้วต้องเอามาอวด ไม่เข้าใจจริงๆ โลกกลับตาลปัต”
“เขาคงไม่อยากผูกมัด แต่เจอนางทำซะเจ็บหนักเลย เอามาโชว์ น่าสงสาร”
“เป็นดาราสมัยนี้ ลำบากจริง น่าสงสารอ่ะ กล้องถ่ายรูป วีดีโอ เต็มไปหมด ทำอะไรก็ไม่ได้”