ภาวิน ศิริประภานุกูล
ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐแมสซาชูเซตส์ แอมเฮิร์สท์ (University of Massachusetts Amherst) ชื่อ Thomas Herndon ได้ร่วมเขียนงานกับอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเดียวกันอีกสองท่าน คือ Michael Ash และ Robert Pollin โดยงานดังกล่าวมีต้นทางมาจากการพยายามผลิตซ้ำผลงานเขียนอันโด่งดังของ Carmen M. Reinhart และ Kenneth S. Rogoff ในปี ค.ศ. 2010 แต่กลับกลายเป็นว่าได้พบข้อผิดพลาดสำคัญที่เกิดขึ้นกับงานเขียนชิ้นนี้
ในช่วงนี้ นักศึกษาคนดังกล่าวมีชื่อเสียงโด่งดังในอเมริกาไปแล้วครับ เนื่องจากการค้นพบข้อผิดพลาดดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารฐานะการคลังของรัฐบาลสหรัฐฯ ในปัจจุบัน และเนื่องจากบทความของผมสองชิ้นก่อนหน้ามีส่วนเกี่ยวข้องในทางอ้อมกับงานเขียนของ Reinhart และ Rogoff ชิ้นดังกล่าวนี้ ในบทความนี้ผมจึงนำเอาข้อผิดพลาดที่ได้ค้นพบกันมาบอกต่อ โดยที่จะมีข้อมูลเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องมานำเสนอพร้อมกันด้วยครับ
1. งานเขียนของ Reinhart และ Rogoff ในปี ค.ศ. 2010
ผมจะขอเริ่มต้นจากงานเขียนของ Reinhart และ Rogoff ซึ่งมีการพบข้อผิดพลาดดังกล่าวนะครับ โดยงานเขียนชิ้นนี้กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างระดับหนี้สาธารณะกับอัตราการเติบโตของ GDP ของประเทศ โดยข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นนั้นเป็นส่วนของข้อมูลประเทศพัฒนาแล้ว 20 ประเทศ ในช่วงปี ค.ศ. 1946–2009 (แต่ละประเทศมีข้อมูลราว 60–64 ปี)
Reinhart และ Rogoff ได้แบ่งข้อมูลประเทศกลุ่มนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าว ออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มที่มีระดับหนี้สาธารณะต่ำกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ของ GDP 2) กลุ่มที่มีหนี้ในระดับ 30–60 เปอร์เซ็นต์ของ GDP 3) กลุ่มที่มีหนี้ระดับ 60–90 เปอร์เซ็นต์ของ GDP และ 4) กลุ่มที่มีหนี้เกินกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของ GDP โดยการแบ่งกลุ่มจะจัดแบ่งข้อมูลของแต่ละประเทศในแต่ละปีออกจากกัน เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกาอาจมี 37 ปีที่มีหนี้สาธารณะอยู่ในระดับ 30–60 เปอร์เซ็นต์ และอาจมี 4 ปีที่มีหนี้สาธารณะอยู่ในระดับเกินกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ข้อมูลของสหรัฐอเมริกาในแต่ละปีจะถูกแยกลงไปในแต่ละกลุ่มข้างต้น
ผลลัพธ์สำคัญที่ Reinhart และ Rogoff สรุปออกมา นั่นคือ กลุ่มประเทศในช่วงปีที่มีระดับหนี้สาธารณะเกินกว่าราว 90 เปอร์เซ็นต์ของ GDP จะมีค่าเฉลี่ยอัตราการเติบโตลดต่ำลงหลายเปอร์เซ็นต์ โดยจากการคำนวณของ Reinhart และ Rogoff อัตราการเติบโตเฉลี่ยจะลดลงจากระดับ 2.8 เปอร์เซ็นต์ ในกรณีของกลุ่มประเทศในช่วงปีที่มีหนี้ 60–90 เปอร์เซ็นต์ของ GDP ไปสู่ระดับ –0.1 เปอร์เซ็นต์ (ระบบเศรษฐกิจหดตัวเล็กน้อย) ในกรณีของกลุ่มประเทศในช่วงปีที่มีหนี้เกินกว่า 90 เปอร์เซ็นต์
2. งานเขียนของ Herndon, Ash และ Pollin
Thomas Herndon ได้ขอข้อมูลของ Reinhart และ Rogoff มาทำการผลิตซ้ำ เพื่อหาช่องทางต่อยอดงานศึกษาชิ้นดังกล่าวในอนาคต และได้พบกับข้อผิดพลาดสำคัญในงานเขียนชิ้นที่เราพูดถึงกันนี้ครับ โดยในงานศึกษาที่นักศึกษาคนนี้เขียนขึ้นกับอาจารย์ Ash และ Pollin มีชื่อว่า Does High Public Debt Consistently Stifle Economic Growth? A Critique of Reinhart and Rogoff ซึ่งผมจะขอเรียกงานเขียนชิ้นนี้ว่า HAP เพื่อประหยัดพื้นที่นะครับ
HAP กล่าวถึงข้อผิดพลาดของ Reinhart และ Rogoff เอาไว้ 3 ประการ โดยในส่วนความผิดพลาดที่ไม่ได้ครอบคลุมประเทศทั้งหมดเอาไว้ในการคำนวณอาจจะไม่กระทบกับผลลัพธ์ของงานศึกษามากนัก ในขณะที่อีก 2 ประเด็นที่เหลือส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ของงานศึกษาเป็นอย่างมากครับ
ข้อผิดพลาดประเด็นถัดมาอยู่ที่การละเลยข้อมูลบางช่วงปีของประเทศออสเตรเลีย แคนาดา และนิวซีแลนด์ และข้อมูลของประเทศนิวซีแลนด์นี้สำคัญมากครับ เพราะส่วนที่ขาดหายไปเป็นช่วงที่นิวซีแลนด์มีระดับหนี้สาธารณะสูงกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของ GDP ในขณะที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับสูงราว 7.7–11.9 เปอร์เซ็นต์ อยู่ถึง 3 ปี
ในขณะที่ข้อมูลประเทศนิวซีแลนด์ที่ Reinhart และ Rogoff นำไปคำนวณ กลับมีช่วงปีที่มีระดับหนี้สาธารณะอยู่สูงกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของ GDP อยู่แค่เพียงปีเดียว โดยที่อัตราการเติบโตในตอนนั้นอยู่ที่ระดับ –7.6 เปอร์เซ็นต์ (หดตัวในระดับสูง) ซึ่งทำให้ดูเหมือนกับว่า Reinhart และ Rogoff จงใจละเลยข้อมูลของประเทศนิวซีแลนด์ในช่วงที่มีระดับหนี้สาธารณะสูงพร้อมๆ กับมีอัตราการเติบโตของประเทศในระดับสูงออกไป
นอกจากนั้น HAP ยังได้กล่าวถึงวิธีการให้น้ำหนักแปลกๆ ของ Reinhart และ Rogoff ซึ่งแทนที่จะนำเอาข้อมูลของแต่ละประเทศในแต่ละปี ที่อยู่ในแต่ละระดับหนี้สาธารณะข้างต้นไปหารเฉลี่ยกันตามปกติ แต่กลับนำข้อมูลของแต่ละประเทศไปหารเฉลี่ยกันก่อน แล้วจึงค่อยนำเอาข้อมูลค่าเฉลี่ยของแต่ละประเทศมาหารเฉลี่ยกันอีกที
ยกตัวอย่างเช่น มีข้อมูลของประเทศกรีซจำนวน 19 ปีที่ตกอยู่ในกลุ่มระดับหนี้สาธารณะเกินกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่มีข้อมูลประเทศนิวซีแลนด์เพียงแค่ 1 ปีที่ตกอยู่ในกลุ่มดังกล่าว แทนที่ข้อมูล 20 ข้อมูลจะถูกนำไปคำนวณค่าเฉลี่ยลักษณะปกติ แต่ Reinhart และ Rogoff กลับเลือกที่จะหาค่าเฉลี่ยอัตราการเติบโตของกรีซในช่วง 19 ปีนั้นก่อน ก่อนที่จะนำไปหาค่าเฉลี่ยระหว่างประเทศกรีซกับประเทศนิวซีแลนด์อีกครั้งหนึ่ง
นั่นทำให้อัตราการหดตัวของนิวซีแลนด์ที่ระดับ –7.6 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลต่อค่าเฉลี่ยการเติบโตของกลุ่มประเทศในช่วงเวลาที่มีระดับหนี้สาธารณะเกินกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของ GDP เป็นอย่างมาก และข้อผิดพลาดสองประการหลังที่เรากล่าวถึงกันนี้น่าจะเป็นสาเหตุสำคัญซึ่งส่งผลให้ Reinhart และ Rogoff คำนวณค่าเฉลี่ยของกลุ่มประเทศในช่วงเวลาที่มีระดับหนี้สาธารณะเกินกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ออกมาเป็นค่าติดลบ (ที่ระดับ –0.1 เปอร์เซ็นต์ ดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น)
ภายหลังจากการแก้ไขข้อผิดพลาดทั้งหมดที่กล่าวถึงไปนั้น HAP สามารถคำนวณอัตราการเติบโตเฉลี่ยของกลุ่มประเทศในช่วงปีที่มีระดับหนี้สาธารณะเกินกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของ GDP อยู่ที่ระดับ 2.2 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งแตกต่างจากที่ Reinhart และ Rogoff ได้รายงานเอาไว้อยู่พอสมควร ในขณะที่อัตราการเติบโตดังกล่าวไม่ได้แตกต่างจากกลุ่มประเทศในช่วงปีที่มีระดับหนี้สาธารณะอยู่ในช่วง 60–90 เปอร์เซ็นต์ของ GDP (อัตราการเติบโตที่ 2.8 เปอร์เซ็นต์) อย่างมีนัยสำคัญ
3. ประเด็นต่อเนื่อง
การค้นพบข้อผิดพลาดดังกล่าวสร้างผลกระทบต่อการถกเถียงเชิงนโยบายในประเทศสหรัฐอเมริกาและกลุ่มสหภาพยุโรปในปัจจุบันในวงกว้าง เนื่องจากมีการคาดการณ์เอาไว้ว่าระดับหนี้สาธารณะของหลายประเทศในกลุ่มนี้ใกล้เคียงกับเพดาน 90 เปอร์เซ็นต์ของ GDP เป็นอย่างยิ่ง ในขณะที่บางประเทศในยุโรปมีระดับหนี้ทะลุเพดานดังกล่าวไปเรียบร้อยแล้วครับ
คำถามสำคัญที่ตามมาก็คือ ในช่วงที่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ ประเทศต่างๆ จำเป็นจะต้องให้ความสำคัญกับเพดานหนี้สาธารณะที่ระดับ 90 เปอร์เซ็นต์ของ GDP นี้หรือไม่ และควรให้น้ำหนักความสำคัญมากขนาดไหน การค้นพบข้อผิดพลาดในงานของ Reinhart และ Rogoff อาจหมายความว่ารัฐบาลประเทศต่างๆ อาจไม่จำเป็นจะต้องให้ความสำคัญกับเพดานหนี้สาธารณะดังกล่าวมากนักก็เป็นได้
บทความของ Betsey Stevenson และ Justin Wolfers อาจารย์ของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐมิชิแกน ในเว็บไซต์ Bloomberg ที่มีชื่อว่า Refereeing Reinhart-Rogoff Debate ได้แสดงข้อมูลภายหลังการปรับแก้ข้อผิดพลาดทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว โดยข้อมูลดังกล่าวได้ถูกแสดงเอาไว้ในภาพที่ 1 ของบทความนี้ครับ
จะเห็นได้ว่า กลุ่มกราฟแท่งที่ 3 ซึ่งเป็นผลลัพธ์ภายหลังการปรับแก้ข้อผิดพลาดของ HAP มีลักษณะแตกต่างจากกลุ่มกราฟที่ 1 ซึ่งรายงานเอาไว้ในงานของ Reinhart และ Rogoff พอสมควร โดยเฉพาะในส่วนของกลุ่มประเทศในช่วงปีที่มีระดับหนี้สาธารณะเกินกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของ GDP
แต่ดูเหมือนว่าข้อสรุปต่างๆ ในงานศึกษาของ Reinhart และ Rogoff จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนักครับ เรายังคงสังเกตเห็นการปรับตัวลดลงของอัตราการเติบโตของระบบเศรษฐกิจภายหลังระดับหนี้สาธารณะของประเทศปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับเกินกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของ GDP ถึงแม้ว่าการปรับตัวลดลงดังกล่าวจะไม่รุนแรงดังที่ได้แสดงเอาไว้ในงานของ Reinhart และ Rogoff
นอกจากนั้น ข้อผิดพลาดดังกล่าวยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงข้อสรุปในส่วนอื่นๆ ของงาน เช่น โอกาสที่เพิ่มมากขึ้นต่อการเกิดวิกฤติเศรษฐกิจภายหลังจากระดับหนี้สาธารณะปรับตัวสูงมากขึ้น หรือแม้แต่ข้อสรุปในส่วนของประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งยังคงแสดงความสัมพันธ์ระหว่างการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นของระดับหนี้สาธารณะพร้อมๆ กันกับการปรับลดลงของอัตราการเติบโตของประเทศอย่างชัดเจน
ในกรณีของประเทศไทยนั้น ผมยังคงคิดว่าข้อผิดพลาดดังกล่าวไม่ได้แสดงนัยว่าเราควรจะละเลยวินัยทางการคลังของประเทศแต่ประการใดครับ บทเรียนจากหลายประเทศทั่วโลกยังคงใกล้เคียงกับข้อสรุปเดิม และการป้องกันตัวไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ย่อมดีกว่าการตามมาแก้ไขในภายหลัง ซึ่งมีต้นทุนทางเศรษฐกิจและสังคมมหาศาลเป็นอย่างมากครับ