ถึงแม้การชุมนุมใหญ่เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา ของกลุ่มองค์กรพิทักษ์สยาม (อพส.) ที่นำโดย “เสธ.อ้าย” พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานฯ พร้อมด้วย “บิ๊กแป๊ะ” พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ อดีตประธานที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทย กับทั้งยังมี “ซีไอเอเมืองไทย” น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีต รมว.ต่างประเทศ และ “หมอตุลย์” นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำเสื้อหลากสี ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า มีอันต้องปิดฉากยุติการชุมนุมเพียงไม่ถึงข้ามคืน ทิ้งปมค้างคาใจ…ไว้เป็นปริศนา ?
การประกาศยุติการชุมนุมของ “เสธ.อ้าย” เกิดขึ้นเพราะอะไร เพราะถึงเวลาลงจากหลังเสือ ถอดใจ ถูกแกนนำคนอื่นโดดเดี่ยว หรือแม้แต่ข่าวลือว่า ที่ออกมาเคลื่อนไหวในครั้งนี้เพราะ “ลูกชาย” เป็นหนี้ 100 ล้านบาท ทำให้ต้องออกตัวเป็น “แม่ทัพใหญ่” ออกศึกเพื่อหาเงิน !
อย่างไรก็ดี เมื่อไม่มี “การเมืองข้างถนน” ก็ต้องให้การเมืองเข้าสู่ระบบ ด้วยเวที “ซักฟอก” เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ “สตรีหมายเลข 1” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี, พร้อมด้วย “สารวัตร” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี, “บิ๊กโอ๋” พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม และ “รมช.ชัจจ์” พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.มหาดไทย เป็นไปตามกฎกติกาตามระบอบประชาธิปไตย
เปิดฉากด้วยการไล่บี้ “พล.อ.อ.สุกำพล” ในประเด็นที่นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา ปชป. อภิปรายเรื่องจัดซื้อเรือสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือ 3 ลำ วงเงิน 553. 5 ล้านบาท และ ระบบป้องกันภัย (เป้าลวง) ของ “ฟริเกต” เรือหลวงนเรศวร ไม่โปร่งใส่
รวมถึงเรื่องการทำผิดเกี่ยวกับการปฏิบัติผิดกฎหมายและข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ในการแต่ ตั้งนายทหารชั้นนายพล โดยกลั่นแกล้งขัดขวางไม่ให้ “บิ๊กเปี๊ยก” พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม (ในขณะนั้น) เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการการแต่งตั้งของกระทรวงกลาโหม
ที่สำคัญ ดันมี “คลิปเสียง” การหารือกันภายในหลุดออกมาให้ฝ่ายค้านใช้เป็นเครื่องมือเชือด “พล.อ.อ.สุกำพล” กลางรัฐสภาอีก…
งานนี้ ทำให้ “พล.อ.อ.สุกำพล” โกรธมาก เพราะคนที่เข้าร่วมหารือในวันนั้น ซึ่งมีแค่ “พล.อ.เสถียร” และ “ผบ.เหล่าทัพ” เท่านั้น แต่กลับมีการแอบบันทึกเสียงด้วยโทรศัพท์มือถือ “ไอโฟน” และนำ “คลิปเสียง” นั้นไปตัดต่อเพื่อมาใช้อภิปรายในสภา
แต่ที่สำคัญ คลิปเสียงนั่นไปอยู่ในมือพรรคประชาธิปัตย์เพื่อใช้ “ซักฟอก” เจ้ากระทรวงรหัส “สนามไชย 1” ได้อย่างไร เว้นเสียแต่จะมี “นายทหาร” ที่ยื่นคมหอกคมดาบไปให้ฝ่ายค้าน!
ว่ากันว่า คู่กรณีคงหนีไม่พ้น “พล.อ.เสถียร” ที่มีความขัดแย้งในการแต่งตั้ง “ปลัดกลาโหม” คนใหม่ จนถูกเด้งย้ายเข้ากรุ ช่วยราชการสำนักงาน รมว.กลาโหม และปัจจุบันเกษียณอายุราชการไปแล้ว “บิ๊กกี๋” พล.อ.ชาตรี ทัตติ จเรทหารทั่วไป และ พล.อ.พิณภาษณ์ สริวัฒน์ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม
ที่ต้องฟันธงว่า 3 นายทหารน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะเรื่องที่ “พล.อ.เสถียร” ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองขอให้ทุเลาการบังคับคำสั่งกระทรวงกลาโหมที่ 383/55 นั้น “ทนายส่วนตัว” ได้เคยระบุว่ามี “คลิปเสียง” ที่จะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในการเอาผิด “พล.อ.อ.สุกำพล”
ทั้งนี้ “พล.อ.อ.สุกำพล” ได้คาดการว่าเรื่อง “คลิปเสียง” จะถูกนำมาใช้ประโยชน์ไว้แล้ว ถึงได้เซ็นคำสั่งกระทรวงกลาโหม (เฉพาะ) ที่ 488/55 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีนายทหารสัญญาบัตรกระทำเข้าข่ายผิดวินัยทหาร ในเรื่อง “แอบอัดเสียง” การแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารระดับนายพล ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา
และให้ “บิ๊กแป๊ะ” พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก รองปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน พร้อมทีมงาน “บิ๊กใหญ่” พล.อ.ม.ล.ประสบชัย เกษมสันต์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม “บิ๊กห้าว” พล.ร.อ.ดำรงศักดิ์ ห้าวเจริญ รองปลัดกระทรวงกลาโหม “บิ๊กม้า” พล.อ.อ.วินัย เปล่งวิทยา รองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ท.พินิจ ฉัตรเสถียรพงศ์ รองเจ้ากรมเสมียนตรา “ผู้การเอ๋” พ.อ.จิรวิทย์ เดชจรัสศรี ผอ.กรมปกครองส่วนกำลังพลส่วนสนับสนุน (กปค.สกพ.สน.) พ.อ.ชวลิต ชาตะสิงห์ รอง ผอ.กรมนายทหารพระธรรมนูญ
แต่ที่เซอร์ไพรส์คือ ไม่คาดคิดว่าจะถูกใช้นำมาเล่นงานใน “ศึกซักฟอก”
“หลักฐานชิ้นสำคัญ คือ 1. คำโต้แย้งการหารือนอกรอบในวันเกิด พล.อ.อ.สุกำพล เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา 2. ภาพถ่าย พล.อ.เสถียร ไปพบ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) 3. พล.อ.เสถียร เดินทางไปขอพบนายกฯ 4. ขอเข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ องคมนตรีและรัฐบุรุษ 5. การอัดเทปบันทึกการหารือการแต่งตั้งนายทหารระดับชั้นนายพล ทั้งนี้ เราจะใช้เสียงที่ถูกบันทึกมาหาคุณลักษณะโดยใช้หลักนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อวิเคราะห์หาเจ้าของไอโฟนที่ใช้บันทึกการสนทนา เพราะเสียงคนนั้นจะชัดเจนที่สุดเพราะอยู่ใกล้โทรศัพท์” แหล่งข่าวระดับสูงในคณะกรรมการฯ ระบุ
มีรายงานข่าวว่า เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการฯ ได้ส่งหนังสือเชิญให้ 3 นายทหารที่อาจเกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูลต่อคณะกรรมการฯ ทันที โดยให้เวลาอย่างช้าไม่เกิน 7 วันหลังเซ็นรับหนังสือ
คงต้องติดตามว่า ท้ายที่สุด “คนบันทึกเสียง” จะมีความผิดถึงขั้นไหน ซึ่งเบื้องต้นที่คณะกรรมการฯ คาดโทษผิดวินัยร้ายแรง – โทษทางอาญา ดีไม่ดีอาจถึงขั้นถูกถอดชั้นยศเลยทีเดียว
ในส่วนของการจัดซื้อเรือสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือ 3 ลำ วงเงิน 553.5 ล้านบาท และ ระบบป้องกันภัย (เป้าลวง) “เรือฟริเกต” เรือหลวงนเรศวร ที่ถูกอภิปราย “จัดซื้อไม่โปร่งใส่”
ทำให้ “บิ๊กหรุ่น” พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผบ.ทร. ต้องสั่งให้ “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.ร.อ.จักรชัย ภู่เจริญยศ เสธ.ทร. นำทีมงานกองทัพเรือแถลงชี้แจงข้อเท็จจริง โดยมี “บิ๊กจุ๊” พล.ร.อ.ทวีวุฒิ พงศ์พิพัฒน์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพเรือ “บิ๊กลภ” พล.ร.ท.พัลลภ ตมิศานนท์ ผู้ช่วยเสนาธิการฝ่ายยุทธการ “บิ๊กนุ้ย” พล.ร.ท.ทวีชัย บุญอนันต์ ปลัดบัญชีทหารเรือ และ “บิ๊กนวล” พล.ร.ต.นวพล ดำรงพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหายุทโธปกรณ์ทางเรือ
“การจัดซื้อระบบการรบและระบบเป้าลวง รมว.กลาโหมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือสั่งการให้เปลี่ยนแปลงแบบการจัดซื้อ ท่านยังเรียกกองทัพเรือชี้แจงว่าทำไมมีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น ทุกเรื่องเป็นเรื่องของกองทัพเรือทั้งหมด นอกจากนี้ การจัดหาเรือสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือ จำนวน 3 ลำ ในวงเงิน 553.5 ล้านบาท ทางกองทัพเรือยืนยันว่า การดำเนินการเป็นไปตามข้อกำหนดตามหนังสือเชิญชวนเสนอแบบเรือ (TOR) ที่ได้กำหนดไว้ ทุกโครงการดำเนินการด้วยความโปร่งใสเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย การพิจารณาตัดสินปราศจากอคติใดๆ” ทีมงานกองทัพเรือระบุ
แต่ที่ “บิ๊กสีเขียว” เริ่มกังวล นอกจากคดีในศาลเรื่องถอดยศนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็คือ การที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติตั้งอนุกรรมการไต่สวนคำร้องขอถอดถอน “นายกรัฐมนตรี” และ “รมว.กลาโหม” ในเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการระดับชั้นนายพลของกระทรวงกลาโหม
คงต้องติดตามว่า “สุกำพล” จะรอดพ้นข้อกล่าวหาหรือไม่ และหาก “3 นายทหาร” เกี่ยวข้องกับ “คลิปเสียง” หารือโยกย้ายนายพล จะถูกดำเนินการความผิดขั้นใด
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะจบลงอย่างไร แต่ที่แน่ๆ เกมนี้ได้ดึง “นายกฯ ปู” เข้ามาเกี่ยวข้อง มีส่วนร่วม ตามที่ใครบางคนต้องการ
ท้ายที่สุดจะส่งผลถึงขั้นต้องเปลี่ยนตัว “ผู้นำรัฐบาล” หรือไม่
โปรดติดตามด้วยใจระทึก !!!
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
