ThaiPublica > เกาะกระแส > ผู้ว่ากปน.เผยต้นเหตุน้ำประปาฝั่งธนฯ เตือนต้มก่อนดื่ม และเช็คสภาพน้ำเรียลไทม์ทุกสถานี

ผู้ว่ากปน.เผยต้นเหตุน้ำประปาฝั่งธนฯ เตือนต้มก่อนดื่ม และเช็คสภาพน้ำเรียลไทม์ทุกสถานี

28 ตุลาคม 2011


หลังจากที่มีการนำเสนอข่าวน้ำประปาฝั่งธนบุรีมีกลิ่นเหม็นและสีขุ่น เมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา นายเจริญ ภัสระ ผู้ว่าการการประปานครหลวง ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์กำลังประสบกับปัญหาน้ำท่วม ทำให้ได้รับน้ำดิบที่มีคุณภาพต่ำลง ส่งผลให้การผลิตน้ำต้องใช้เวลาในการทำให้ตกตะกอนและกรองน้ำนานขึ้น อย่างไรก็ตาม คุณภาพของน้ำประปาตอนนี้ก็ยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานขององค์การอนามัยโลก ซึ่งมีช่วงมาตรฐานตั้งแต่ระดับสูงถึงระดับต่ำ

“ที่ทราบดีว่าปัญหาน้ำท่วมก่อให้เกิดการปนเปื้อนที่ผิดจากปกติ ซึ่งกปน.ได้เร่งแก้ปัญหาดังกล่าว โดยเพิ่มสารเคมีเพื่อปรับปรุงคุณภาพน้ำให้มากขึ้น ใช้เวลาการผลิตน้ำนานขึ้น คาดว่าจะค่อยๆแก้ปัญหาได้ในเร็วๆ นี้ แต่ขอยืนยันว่าน้ำประปาที่จ่ายปราศจากสารพิษที่เป็นอันตราย ยกเว้นมีกลิ่นและสีบางส่วนที่ยังกำจัดไม่ได้ แต่ไม่ส่งผลต่อร่างกายแต่อย่างใด”

ดังนั้นเพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยและสบายใจ จึงขอให้ต้มน้ำก่อนดื่ม เฉพาะผู้ใช้น้ำในพื้นที่ที่รับน้ำจากโรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ ซึ่งได้แก่ จ.นนทบุรี ในพื้นที่ อ.เมืองนนทบุรี และปากเกร็ดฝั่งตะวันตก บางบัวทอง บางใหญ่ ไทรน้อย บางกรวย จ.สมุทรปราการ ในเขต อ.พระประแดง และพระสมุทรเจดีย์ฝั่งตะวันตก พื้นที่ฝั่งธนบุรี ในเขตธนบุรี คลองสาน บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ ทวีวัฒนา บางพลัด หนองแขม ภาษีเจริญ บางแค บางบอน ทุ่งครุ จอมทอง ราษฎร์บูรณะ บางขุนเทียน และ ตลิ่งชัน

นอกจากนี้ กปน. ยังได้เร่งระดมสรรพกำลัง เข้าไปเร่งกู้โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ ที่กำลังจะถูกน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้ โดยขอความร่วมมือทหาร กทม. และกำลังคนจาก กปน. กว่า 200 คน เข้าทำแนวกั้นน้ำเพื่อรักษาระบบผลิตและไฟฟ้าให้พ้นจากน้ำท่วม เพื่อไม่ให้ได้รับความเสียหายในระบบผลิตน้ำ

สำหรับการผลิตและจ่ายน้ำในโรงกรองน้ำอื่นๆ ยังเป็นไปตามปกติ ประชาชนไม่ต้องวิตกกังวลแต่อย่างใด และขอให้รับฟังข่าวจากการประปานครหลวงเท่านั้น อย่าเชื่อข่าวลือที่ไม่เป็นความจริง หากไม่แน่ใจสอบถามได้ที่ศูนย์บริการประชาชน สายด่วน กปน. โทร. 1125 ตลอด 24 ชม. (ดูรายงานข่าวกปน.)

จากการตรวจสอบข้อมูลคุณภาพน้ำประปา ณ เวลาปัจจุบัน (REAL TIME WATER QUALITY ONLINE) ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีการ UPDATE ให้มีความเป็นปัจจุบันอยู่ทุกๆ 10 วินาที จะสังเกตุเห็นว่าสถานีสูบจ่ายน้ำประปาในย่านฝั่งธนบุรีที่มีปัญหาค่าความขุ่น (TURBIDITY) สูงเกินกว่า 2 NTU จะมีอยู่ 3 จุด คือที่สถานีสูบจ่ายน้ำมหาสวัสดิ์,สถานีสูบจ่ายน้ำท่าพระและสถานีสูบจ่ายน้ำเพชรเกษม ซึ่งค่าความขุ่นของน้ำประปา ตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลกปี 2006 กำหนดเอาไว้ว่าน้ำประปาที่จะต้องมีค่าความขุ่นสูงไม่เกิน 5 NTU แต่ค่าความขุ่นก็เป็นแค่ดัชนีตัวหนึ่งที่นักวิทยาศาสตร์ใช้ในการตรวจวัดคุณภาพของน้ำเท่านั้น น้ำประปาที่จะนำมาบริโภคได้จะต้องไม่มีสี ไม่มีรส ไม่มีกลิ่น ซึ่งเป็นคุณสมบัติทางกายภาพ และถ้านำไปตรวจสอบทางเคมี-ฟิสิกส์ หรือชีวภาพ ก็จะต้องไม่มีสารพิษตกค้างหรือเชื้อโรค

เกณฑ์กำหนดมาตรฐานคุณภาพน้ำประปา
เกณฑ์กำหนดมาตรฐานคุณภาพน้ำประปา

ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 61 (2524) และประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 3470 (2549) ได้มีการกำหนดคุณสมบัติของน้ำดื่มเอาไว้คล้ายๆกัน หากพิจารณาเฉพาะคุณสมบัติทางกายภาพ (ดูตามตาราง) ของสีน้ำประปาในย่านฝั่งธนบุรี ถึงแม้จะมีค่าความขุ่นไม่เกิน 5 NTU แต่เมื่อพิจารณาจากสีของน้ำ ซึ่งเป็นสีน้ำตาลค่อนข้างเข้มทึบแสง และยังมีกลิ่นและรสที่ไม่พึงประสงค์ เฉพาะในเขตฝั่งธนฯ ช่วงนี้จึงไม่ควรที่จะนำมาบริโภค

ส่วนปริมาณคลอรีนอิสระ ซึ่งคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรคที่ติดมากับสิ่งปนเปื้อน ตามมาตรฐานของโรงงานผลิตน้ำประปากำหนดให้มีปริมาณคลอรีนคงเหลือในน้ำไม่ต่ำกว่า 0.2 มิลลิกรัมต่อลิตร (MG/L) ซึ่งไม่เป็นพิษต่อร่างกาย แต่จะมีกลิ่นเหม็นเท่านั้น