
เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2558 เวลา 15.00 น. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ส่งเอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ อ้างคำพูดของ นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน เรื่องกล่าวหา นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับพวก รวม 111 ราย ว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น กรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าว โดยมีตนเป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน และต่อมาเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2558 คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับพวก รวม 22 ราย กรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) ว่ากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 หรือ พ.ร.บ.ฮั้ว และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ซึ่งอัยการสูงสุดได้ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ประทับฟ้องคดีดังกล่าวไว้พิจารณาแล้ว นั้น
บัดนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาและมีมติเกี่ยวกับผู้ถูกกล่าวหาที่เหลือ ดังนี้
– เอกชนจากประเทศจีน รวม 7 ราย ประกอบด้วย
- บริษัท Guangdong stationery & sporting goods imp. & exp. (GSSG) จำกัด
- Ms. Luo Wensui ผู้จัดการทั่วไป บริษัท GSSG
- Mr. Chen Li ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ บริษัท GSSG
- Mr. Lam Win ผู้ประสานงาน บริษัท GSSG
- บริษัท Hainan grain and oil industrial trading company
- Mr. Lin Haihui รองผู้จัดการทั่วไป บริษัท Hainan
- Mrs. Zhou Jing ผู้ประสานงาน บริษัท Hainan
กรณีร่วมกับผู้ถูกกล่าวหารายอื่นที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดไปแล้วในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ให้ส่งรายงาน เอกสาร และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญากับผู้ถูกกล่าวหาตามฐานความผิดดังกล่าวข้างต้น ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 97 ต่อไป
– เอกชนจากประเทศไทย รวม 8 ราย ประกอบด้วย
- ห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงสีกิจทวียโสธร
- นายทวี อาจสมรรถ หุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงสีกิจทวียโสธร
- บริษัทกิจทวียโสธรไรซ์ จำกัด
- นายทวี อาจสมรรถ กรรมการบริษัทกิจทวียโสธรไรซ์ จำกัด
- บริษัทเค.เอ็ม.ซี.อินเตอร์ไรซ์ (2002) จำกัด
- นายปกรณ์ ลีศิริกุล กรรมการบริษัท เค.เอ็ม.ซี. อินเตอร์ไรซ์ (2002) จำกัด
- บริษัท เจียเม้ง จำกัด
- นางประพิศ มานะธัญญา กรรมการบริษัทเจียเม้ง จำกัด
กรณีสนับสนุนการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ อันมีมูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา พ.ร.บ.ด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ให้ส่งรายงาน เอกสาร และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญากับผู้ถูกกล่าวหาตามฐานความผิดดังกล่าวข้างต้น ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 97 ต่อไป
“สำหรับผู้ถูกกล่าวหาที่เหลือในชั้นนี้ยังไม่ปรากฏพยานหลักฐานที่จะรับฟังได้ว่ามีการกระทำความผิดตามข้อกล่าวหา จึงเห็นควรให้ข้อกล่าวหาตกไป” นายวิชากล่าว