ThaiPublica > คอลัมน์ > ฉลอง 100 ปีพรรคคอมมิวนิสต์จีน — ไทยจะได้อะไร?

ฉลอง 100 ปีพรรคคอมมิวนิสต์จีน — ไทยจะได้อะไร?

4 กรกฎาคม 2021


ดร. นพ.มโน เลาหวณิช ผู้อำนวยการสถาบันคานธี อาจารย์ประจำวิทยาลัยนวัตกรรม ม.รังสิต

วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ประเทศจีนจัดมหกรรมเฉลิมฉลองครั้งใหญ่ “พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีอายุครบหนึ่งร้อยปีเต็ม” ที่มาภาพ: http://english.www.gov.cn/news/photos/

วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ประเทศจีนจัดมหกรรมเฉลิมฉลองครั้งใหญ่ คือ “พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีอายุครบหนึ่งร้อยปีเต็ม” พรรคคอมมิวนิสต์จีน (ก้งฉานตั่ง) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่อยู่ในอำนาจยาวนานที่สุดทั้งแต่ปี ค.ศ. 1949 หลังจากที่ชนะสงครามกลางเมือง ขับไล่พลพรรคของพรรคกั๋วหมิน ทำให้นายพลเจียง ไคเช็ค ต้องลี้ภัยไปอยู่เกาะไต้หวันจนถึงปัจจุบัน ในปัจจุบันพรรคก้งฉานมีสมาชิกอยู่กว่า 95 ล้านคน เป็นพรรคการเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากพรรคภารติยา ชะนะตะ (Bharatiya Janata Party: BJP) ในอินเดียซึ่งมีสมาชิกถึง 180 ล้านคน

อันที่จริงพรรคคอมมิวนิสต์จีนนั้นมิได้สถาปนาขึ้นในวันที่ 1 กรกฎาคม แต่เกิดจากการประชุมสมัชชาแห่งชาติครั้งที่หนึ่ง ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 23 กรกฎาคมในอาคารเล็กๆ ในเขตปกครองของฝรั่งเศส ในเมืองเชียงไฮ้ และมีประชุมกันอย่างต่อเนื่องจนต้องหลบไปประชุมกันในเรือซึ่งลอยลำอยู่ในทะเลสาบในมณฑลเจ้อเจียง และมีการสรุปออกมาในวันที่ 30 กรกฎาคม สาเหตุที่ต้องย้ายที่ประชุมสมัชชานั้นก็เพราะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจคุกคาม ต่อมาเมื่อเข้ามาสู่อำนาจ ประธานเหมาจึงได้ให้เปลี่ยนวันเป็นวันที่ 1 กรกฎาคม แต่ในการเฉลิมฉลองครบรอบหนึ่งร้อยปีในครั้งนี้ มีพิธีเฉลิมฉลองกันถึงวันที่ 23 กรกฎาคม

วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ประเทศจีนจัดมหกรรมเฉลิมฉลองครั้งใหญ่ “พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีอายุครบหนึ่งร้อยปีเต็ม” ที่มาภาพ: http://english.www.gov.cn/news/

สำหรับคนรุ่นใหม่ ลัทธิคอมมิวนิสต์นั้นเป็นสิ่งที่สวยหรูและหอมหวานในทุกยุคทุกสมัย เพราะมีเป้าหมายคือการทำให้มนุษย์ทุกคนเท่าเทียมกันในสังคมอย่างสมบูรณ์แบบ สังคมคอมมิวนิสต์ในอุดมคติเป็นสังคมที่ไร้ความเหลื่อมล้ำในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นทางเศรษฐกิจ การเมือง ทางกฎหมาย และศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ โดยมีรัฐเป็นผู้รับผิดชอบดูแลให้สวัสดิการทุกอย่างให้ราษฎรทุกคนตั้งแต่เกิดจนตาย ไม่ว่าการรักษาพยาบาล การศึกษา การเข้าทำงาน เงินชดเชยในยามป่วยไข้ ชราภาพ หรือเสียชีวิต

การประชุมสมัชชาแห่งชาติในการสถาปนาพรรคคอมมิวนิสต์จีนในครั้งนั้น นอกจากคนสำคัญผู้เป็นอาจารย์สอนปรัชญาการเมืองจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งซึ่งเป็นอาจารย์ของเหมาเจ๋อตุงแล้ว ยังมีตัวแทนพรรคบอลเชวิคจากรัสเซียอีกสองท่านมาประชุมด้วย ทำให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนเริ่มต้นด้วยการยึดมั่นในอุดมการณ์ของคาร์ล มากซ์ อย่างสมบูรณ์แบบ

ปัญหาเริ่มเกิดขึ้นเมื่อนำเอาแนวคิดของคาร์ล มากซ์ มาใช้ เพราะบริบทของรัสเซียนั้นเป็นคนละเรื่องกับประเทศจีน รัสเซียเมื่อเกิดคณะบอลเชวิคทำรัฐประหารนั้น รัสเชียได้เป็นประเทศอุตสาหกรรมไปเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่ประเทศจีนประชากรส่วนใหญ่เป็นกสิกร โรงงานอุตสาหกรรมแทบจะไม่มีเลย ปรากฏการณ์ที่ว่าชนชั้นสูงขูดรีดค่าแรงจากกรรมกรจึงไม่เป็นที่ปรากฏในสังคมจีน ประเทศจีนเพิ่งเปลี่ยนแปลงเป็นสังคมประชาธิปไตยได้ไม่นาน กำลังเป็นเหยื่ออันโอชะของประเทศมหาอำนาจในตะวันตกผู้กำลังเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ โดยเฉพาะในเมืองชายฝั่งทะเล เช่น นครเชียงไฮ้ ซึ่งแบ่งเป็นพื้นที่ในปกครองของหลายประเทศ เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส อเมริกา เยอรมนี แม้กระทั่งญี่ปุ่น ชาวจีนส่วนใหญ่ยากจน เสถียรภาพของรัฐไม่มั่นคง ไม่มีกำลังทหารเพียงพอ อาวุธก็ล้าหลังไม่เพียงพอที่จะปกป้องประเทศ และจีนแพ้สงครามกับต่างชาติทุกครั้ง โดยเฉพาะอังกฤษซึ่งบังคับให้จีนเปิดให้เช่าฮ่องกงเป็นเวลาถึง 99 ปีภายหลังที่จีนแพ้สงครามฝิ่น

ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ที่มาภาพ: http://english.www.gov.cn/2021special/CPCcentennial

ร้อยปีต่อมาพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ผ่านร้อยผ่านหนาวและวิกฤติการณ์ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมมามากมาย ถึง 5 ช่วงอายุคน ตั้งแต่ยุคของประธานเหมาเจ๋อตุง เติ้งเสี่ยวผิง เจียงเจ๋อหมิน หูจิ่นเทา จนในที่สุดมาถึงยุคของสีจิ้นผิง

จีนได้พัฒนาไปมากอย่างที่ชาวโลกคาดไม่ถึง จากประเทศกสิกรที่ล้างหลัง ประชาชนส่วนใหญ่อดอยาก จีนได้ผงาดขึ้นมาเป็นหนึ่งในประเทศมหาอำนาจของโลก ซึ่งประชาชนมีความมั่นคงทางอาหาร เศรษฐกิจ เทคโนโลยี การเมืองและกำลังทหารอันเกรียงไกร การพัฒนาอย่างรวดเร็วนี้ทำให้ประเทศใหญ่ๆ เกิดความหวาดกลัว

ประโยคทองในงานฉลองพรรคครั้งนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้กล่าวว่า “จีนจะไม่ถูกรังแกอีกต่อไป”

อันที่จริงการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีครั้งนี้มีการเตรียมงานกันมาเป็นอย่างดี และจัดทั่วประเทศจีน สถานที่ทุกแห่งเกี่ยวกับพรรคคอมมิวนิสต์กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ ไม่ว่าสถานที่จัดการประชุมสมัชชาแห่งชาติครั้งแรก ที่พักของผู้นำคนต่างๆ ของพรรคฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งของประธานเหมาเจ๋อตุง ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงาน โต๊ะเขียนหนังสือ เตียงนอน ของใช้ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ได้กลายเป็นปูชนียวัตถุของชาวจีนรุ่นใหม่ โรงเรียนทุกแห่งมีการเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์บทนี้ของประเทศจีน และความสำเร็จของพรรคฯ ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน นักเรียนช่วยกันเขียนบทละคร แสดงฉากต่างๆ ที่ผู้นำของพรรคต้องฟันฝ่าอุปสรรคขวางหนามในยุคสมัยของตน

ในวันที่ 29 มิถุนายน 2564 ในหอประชุมใหญ่ของกรุงปักกิ่ง ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้จัดพิธีมอบเหรียญเชิดชูเกียรติแก่สมาชิกของพรรคฯ ที่ได้สร้างคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติในด้านต่างๆ จำนวน 29 คนซึ่งมีทั้งหญิงและชาย จากวิชาชีพที่หลากหลาย ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัย มีทั้งทหารผ่านศึก ครูอาจารย์ นักอนุรักษ์ธรรมชาติ นักพัฒนาสังคม ฯลฯ แต่ละท่านมีผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ และรัฐบาลได้หยิบยกขึ้นมาเชิดชูเพื่อให้คนจีนรุ่นใหม่ถือเอาเป็นแบบอย่าง ประวัติและผลงานของผู้ได้รับเหรียญเชิดชูเกียรตินี้ได้มีการทำเป็นสารคดีเผยแพร่ในสื่อโทรทัศน์ของจีนเพื่อเป็นการยกย่ออีกด้วย

การมีส่วนร่วมของประชาชนในระดับฐานรากของสังคมนั้นเป็นหัวใจของพรรคคอมมิวนิสต์จีนตั้งแต่ต้น เริ่มตั้งแต่การเดินทางไกลพูดคุยกับประชาชน ชาวไร่ชาวนาในชนบทในยุคที่ประธานเหมากำลังก่อร่างสร้างตัว รวบรวมผู้คนเพื่อต่อสู้กับประธานาธิบดีเจียงไคเช็ก จนได้รับแรงสนับสนุนจากประชาชนทั่วประเทศ ทำให้พรรคคอมมิวนิสต์เอาชนะพรรคกั๋วหมินของเจียงไคเช็กได้

ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ที่มาภาพ: http://english.www.gov.cn/2021special/CPCcentennial

เรื่อยมาจนถึงการรับฟังเสียงจากผู้ประกอบการรายย่อย ที่ต้องยอมขาดทุนเพราะถูกบริษัทอาลีบาบาบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผูกขาดธุรกิจออนไลน์ของแจ๊ก หม่า เอารัดเอาเปรียบ จนทำให้พรรคต้องเข้าไปแทรกแซงทางธุรกิจจนปัญหานี้หมดไปจากสังคมจีน ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่ยังแก้ปัญหานี้กันไม่ตกในยุโรปและอเมริกา

การสร้างผู้นำท้องถิ่นเป็นความสำเร็จอีกประการหนึ่งของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งในแต่ละหมู่บ้านจะเลือกผู้แทนของตนขึ้นมา ผู้แทนระดับหมู่บ้านสิบคนก็จะเลือกตัวแทนของพวกตนมาอีกหนึ่งคน ผู้แทนคนนี้จะทำหน้าที่เป็นผู้แทนของตำบล ผู้แทนตำบลสิบคนเลือกกันเองได้ผู้นำอำเภอ และผู้นำอำเภอสิบคนก็จะเลือกผู้นำจังหวัด เรื่อยมาจนถึงผู้นำมณฑล

ผู้นำในท้องถิ่นนั้นยังมีคนรุ่นหนุ่มสาวซึ่งทำหน้าที่เป็นจิตอาสาช่วยบำบัดทุกข์บำรุงสุขชาวบ้านแต่ละหลังคาเรือนในหมู่บ้านของตน ผลลัพธ์ที่ได้คือประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาความทุกข์ร้อนของประชาชนในท้องถิ่น แม้อยู่ห่างไกลเพียงใดก็ตาม และประชาชนมีความรู้สึกว่า “ตนคือเจ้าของประเทศอย่างแท้จริง”

ที่มาภาพ: http://english.www.gov.cn/news/photos/
ที่มาภาพ: http://english.www.gov.cn/news/photos/

ในทางปฏิบัติ พรรคคอมมิวนิสต์จีนจึงไม่ใช่เป็นพรรคที่ปกครองด้วยระบอบเผด็จการ ซึ่งปกครองด้วยจอมเผด็จการผู้ซึ่งไม่ฟังเสียงประชาชน และคำนึงถึงประโยชน์ส่วนตนของตนเอง หรือพวกพ้องของตนเป็นใหญ่

แตกต่างราวฟ้ากับดินกับสิ่งที่รัฐบาลและสื่อมวลชนตะวันตก สร้างภาพให้เห็นว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนนั้นปกครองด้วยระบอบเผด็จการ รวมศูนย์อำนาจไปที่คนๆ เดียว และสั่งการทุกอย่างโดยใช้อำนาจเผด็จการโดยไม่ใยดีต่อสารทุกข์สุกดิบของประชาชนเลย การบริหารของพรรคคอมมิวนิสต์จีนนี้จึงเป็นการบริหารในระบอบประชาธิปไตยแบบประชาชนมีส่วนร่วม (participatory democracy) ซึ่งแตกต่างจากระบอบการปกครองระบอบประชาธิปไตยในตะวันตกซึ่งเป็นแบบมีตัวแทนของประชาชน (representative democracy)

ระบอบการปกครองของจีนนี้จึงถูกวิจารณ์ว่าไม่เหมือนอย่างที่คาร์ล มากซ์ ได้บรรยายไว้เลย แม้นายเฮลมุท ชมิดท์ (Helmut Schmidt) นายกรัฐมนตรีเยอรมัน ได้เคยวิจารณ์เรื่องนี้ไว้กับนายเติ้งเสี่ยวผิง และได้แนะนำไปตรงๆ อีกว่าโครงสร้างการบริหารนี้ “เป็นการบริหารแบบลัทธิขงจื้อ และพรรคคอมมิวนิสต์จีน ควรเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคขงจื้อจะเหมาะที่สุด” ซึ่งนายเติ้งเสี่ยวผิงได้ตอบด้วยวาทกรรมอมตะว่า ชื่อพรรคจะเรียกอะไรก็ไม่สำคัญ “แมวขาวหรือแมวดำหากจับหนูได้ก็พอแล้ว”

ในงานฉลอดร้อยปีครั้งนี้ ได้รับการวิจารณ์จากสื่อมวลชนตะวันตกว่า ไม่มีการนำเสนอข้อผิดพลาดใดๆ ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเลย รัฐบาลจีนมีแต่นำเสนอข่าวดีๆ และความสำเร็จเท่านั้น ไม่มีเรื่องโครงการก้าวกระโดด (The Leap Forward) การปฏิวัติวัฒนธรรม (Cultural Revolution) ซึ่งเป็นความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ของประธานเหมา ซึ่งทำให้คนจีนหลายสิบล้านคนอดตาย และประเทศชาติเสียหายอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้วิกฤติที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ซึ่งรัฐบาลจีนส่งกำลังทหารเข้าไปสลายการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยของนักศึกษาที่ชุมนุมกันอย่างสงบ

ที่มาภาพ: http://english.www.gov.cn/2021special/CPCcentennial

น้อยคนทราบว่าวิกฤติที่จัตุรัสเทียนอันเหมินนั้นก่อกำเนิดขึ้นโดยซีไอเอ ซึ่งต้องการ “ตัดไม้ข่มนามรัฐบาลจีน” เพราะได้เห็นแล้วว่าจีนมีศักยภาพที่จะพัฒนาสู่การเป็นประเทศมหาอำนาจในอนาคตอันใกล้ ซีไอเอจึงประสานงานผู้นำนักศึกษาของจีน และผู้นำนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยในเมืองบอสตัน มลรัฐแมสสาจูเซตต์ อันได้แก่ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มหาวิทยาลัยบอสตัน เอ็มไอที และมหาวิทยาลัยคลาก ซึ่งในมหาวิทยาลัยเหล่านี้มีสาขาของพรรครีพับลิกันอยู่ สมาชิกพรรครีพับลิกันในมหาวิทยาลัยเหล่านี้จึงเข้าไปช่วยผู้นำนักศึกษาจีน ส่งแผนการต่างๆ และที่สำคัญที่สุดคืออนุสาวรีย์เทพีสันติภาพ มาทางแฟ็กซ์

รัฐบาลจีนในขณะนั้นทราบว่ามีการติดต่อจากขบวนการนักศึกษาในภาคตะวันออกของอเมริกาและมีการติดต่อกันทางแฟ็กซ์ แต่ไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร นักศึกษาจีนก็ระวังตัวย้ายที่รับส่งแฟ็กซ์ของตนทุกวัน เมื่อปรากฏรูปปั้นเทพีสันติภาพของอเมริกา รัฐบาลจีนจึงต้องใช้ไม้แข็งใช้กำลังทหารเข้าปราบปราม สื่อมวลชนของสหรัฐฯ ซึ่งรอจังหวะนั้นอยู่แล้ว ได้มุมที่ดีเก็บภาพการเคลื่อนของรถถัง โดยมีวีรบุรุษนิรนามของจีนไปยืนขวางทางอยู่

นี่คือการจัดฉากระดับมืออาชีพ และเป็นการดิสเครดิตรัฐบาลจีนว่าเป็นรัฐบาลที่ไร้ความเมตตา ไม่เคารพสิทธิการแสดงออกและการชุมนุมทางการเมืองอย่างสงบ และซีไอเอก็ประสบความสำเร็จ ถือได้ว่าเป็นผลงานชิ้นโบแดงของซีไอเอก็ว่าได้

กระนั้นก็ตามมิใช่ว่ารัฐบาลจีนจะรู้ไม่ทัน ประสบการณ์อันเจ็บปวดจากเทียนอันเหมินในครั้งนั้น รัฐบาลจีนนำมาแก้ปัญหาการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงในปีที่ผ่านมา โดยไม่มีการใช้กำลังทหารเข้าปราบปรามอย่างเด็ดขาด และเมื่อกลุ่มผู้ประท้วงใช้ความรุนแรง รัฐบาลจีนจึงได้ออกกฎหมายความมั่นคงของชาติ มีการจับกุมผู้ประท้วงและทุกคนที่ต้องสงสัยว่ารับใช้รัฐบาลต่างชาติ จนก่อให้เกิดความวุ่นวายในสังคมจีน เพราะถือว่า “สิทธิการแสดงออกต้องไม่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ” แม้ว่าสื่อมวลชนตะวันตกจะประณามการกระทำของรัฐบาลจีนอย่างรุนแรงก็ตาม แต่ความจริงก็คือการสลายการชุมนุมครั้งนี้ไม่มีการเสียเลือดเสียเนื้อเลยแม้แต่น้อย

ความสำเร็จในการพัฒนาประเทศอย่างรวดเร็วของจีนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ โดยเฉพาะการผสมผสานระบบทุนนิยมกับสังคมนิยมได้อย่างลงตัวพอเหมาะพอเจาะ รายได้ประชาชาติของจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในรอบสี่สิบปีที่ผ่านมา เงินทุนไม่ได้กระจุกตัวอยู่ในมือของนายทุนใหญ่ๆ เหมือนประเทศอุตสาหกรรมที่พัฒนาแล้วทั้งหลาย

ที่มาภาพ: http://english.www.gov.cn/news/photos/

จีนได้บรรลุเป้าหมายที่จะกำจัดความยากจนให้หมดไปในปี ค.ศ. 2020 อย่างชัดเจน แม้คนจีนในชนบทที่ห่างไกลก็อยู่ในสภาพที่ “เหลือกินเหลือใช้” ลูกหลานมีอนาคต มีการศึกษาที่ดี

สุนทรพจน์ของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงในครั้งนี้มีการประกาศเจตนารมณ์ที่จะรวมเอาไต้หวันเข้ามาเป็นส่วนของจีนแผ่นดินใหญ่ให้จงได้ (แม้ว่าจะต้องใช้กำลังทหารก็ตาม) กรณีไต้หวันเป็นความเจ็บปวดของพรรคคอมมิวนิสต์จีนมาตลอดตั้งแต่ชนะสงครามกลางเมืองในปี ค.ศ. 1949 ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมาล้วนปรารถนาที่จะรวมชาติ ซึ่งคนจีนส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่าประธานาธิบดีสีจิ้นผิงจะทำได้สำเร็จเร็ววันนี้ และการจัดงานเฉลิมฉลอง 100 ปีพรรคคอมมิวนิสต์จีนในครั้งนี้มีส่วนสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นในรัฐบาลจีน สร้างลัทธิชาตินิยมจีน และตัดไม้ข่มนามไต้หวัน

คำถามสำคัญคือ ไทยจะได้อะไร? หากประเทศไทยจะลอกเลียนแบบการปกครองของจีนย่อมไม่ได้อย่างแน่นอน แต่สิ่งสำคัญที่ประชาชนชาวไทยสามารถนำเอาแบบอย่างมาใช้ในการบริหารบ้านเมืองได้คือ การสร้างระบบประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม มีการกระจายอำนาจอย่างทั่วถึง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จิตอาสาซึ่งเป็นคนวัยหนุ่มสาว เป็นตัวแทนของรัฐบาล บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้เกิดขึ้นกับทุกครอบครัว และทุกหมู่บ้านในทุกจังหวัดของประเทศ ทำให้ประชาชนไทยทุกคนมีความรู้สึกว่า “เราคือเจ้าของประเทศ” ไม่ใช่ข้าราชการหรือนักการเมือง

ประการที่สองคือ การปราบปรามการทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวง อย่างเดียวกับที่ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้ทำให้ดูในการบริหารงานมาแล้ว มีตัวอย่างให้เห็นอย่างชัดเจน เช่น นายป๋อซีไหล รมต. กระทรวงรถไฟของจีน มีผลงานสร้างรางรถไฟความเร็วสูงเป็นเครือข่ายไปทั่วไปประเทศ แต่เป็นที่รู้จักกันในนามของ Mister Four Percent คือ ทุกโครงการของรัฐแกต้องได้กิน 4% เสมอไป ปรากฏว่าในที่สุดแกถูกจับ ถูกให้ออกจากงานทันที ถูกดำเนินคดีและในที่สุดถูกประหารชีวิต นอกจากนั้นแล้วยังมีนักการเมืองและข้าราชการจีนอีก 1.5 ล้านคน ฃที่ถูกให้ออกจากงานก่อนแล้วถูกดำเนินคดี ถูกจำคุก หรือประหารชีวิต

สีจิ้นผิงสั่งดำเนินคดีอย่างไม่เว้นหน้าอินทร์หน้าพรหม ความสำเร็จจากการปราบปรามคอร์รัปชันทำให้สีจิ้นผิงได้รับคะแนนนิยมจากประชาชนอย่างล้นหลาม จนเขาสามารถเป็นประธานาธิบดีจีนได้จนตลอดชีวิต

ประการที่สามคือ การนำระบบ social credit มาใช้ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งจีนได้ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ และปัญญาประดิษฐ์ ติดตามให้คะแนนหรือตัดคะแนนประชาชนทุกคน โดยมีกล้องวงจรปิดติดตามการเคลื่อนไหวของประชาชน ทั่วประเทศ คะแนนที่ได้หรือที่ถูกตัดมีผลโดยตรงต่อสวัสดิการสังคมที่ประชาชนแต่ละคนจะได้จากรัฐบาล

หากประเทศไทย สามารถนำวิธีการที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนนำมาใช้ในการบริหารประเทศ แม้เพียงประการเดียวจากสามประการข้างต้น ย่อมเป็นที่เชื่อได้ว่าประเทศไทยของเราจะเจริญรุ่งเรืองกว่านี้อีกมากนะจ๊ะ!!