วันที่ 22 เมษายน ของทุกปีได้จัดให้เป็นวัน Earth Day เพื่อส่งเสริมให้ชาวโลกตระหนักถึงความสำคัญในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หลายองค์กรทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม ได้จัดกิจกรรมมากมายเพื่อให้ชาวโลกได้เรียนรู้
ในปีนี้หนังสือยูเอสเอทูเดย์ (USAToday)ได้นำเสนอ 10 สถานที่ท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือ Climate Change ที่กำลังสร้างผลกระทบทั่วโลก ซึ่งมีทั้งสถานที่ที่กำลังละลาย สถานที่ที่ถูกน้ำท่วม จากการรวบรวมไว้ในหนังสือ Tales of an Ecotourist ของศาสตราจารย์ ไมค์ กุนเทอร์ จูเนียร์ แห่ง Rollins College ในมลรัฐฟลอริดา
ศาสตราจารย์กุนเทอร์กล่าวว่า หนังสือเล่มนี้บอกเรื่องราวถึงผลของ Climate Change และเรื่องราวเกี่ยวสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เป็นการเรียนรู้จากการท่องเที่ยว
สถานที่แรก เกาะกาลาปากอส เอกวาดอร์ ปรากฏการ์ณเอลนีโญ ที่เกิดจากกระแสน้ำที่อุ่นขึ้นเริ่มรุนแรงมากขึ้นใน 2-3 ปีที่ผ่านมา มีผลกระทบต่อกาลาปากอส ซึ่งเป็นเกาะที่รู้จักกันดีว่ามีนก สัตว์เลื้อยคลาน และสิ่งมีชีวิตในทะเลที่หลากหลาย ศาสตราจารย์กุนเทอร์กล่าวว่า เอลนีโญมีแนวโน้มที่จะรุนแรงมากกว่าเดิม ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้มีผลไม่เว้นแม้แต่นกกระจิบ ที่เปลี่ยนโฉมเพื่อปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป

สถานที่แห่งที่สอง ทะเลสาบเดดซี ในอิสราเอลกับจอร์แดน ทะเลสาบที่ต่ำที่สุดในโลกแห่งนี้กำลังหดตัว ในรอบ 40 ปีที่ผ่านมาทะเลสาบเกลือเข้มข้นเดดซีหดตัวลง 1 ใน 3 และระดับน้ำลดลง 80 ฟุต ส่วนใหญ่เป็นผลจากการใช้น้ำในแม้น้ำจอร์แดนเพื่อระบบชลประทาน

สถานที่แห่งที่สาม กรุงเวนิส อิตาลี ซึ่งประสบกับภาวะน้ำท่วมอยู่เสมอแต่ในระยะหลังน้ำท่วมรุนแรงมากขึ้น ในบางพื้นที่น้ำท่วมเป็นปกติและแตะระดับสูงสุดใหม่ ศาสตราจารย์กุนเทอร์กล่าวว่า น้ำท่วมกลายเป็นเหตุการณ์ปกติ แต่ไม่ได้เกิดอย่างไม่มีเหตุผล อย่างไรก็ตาม ทางการอิตาลีกำลังวางแผนสร้างกำแพงป้องกันน้ำท่วม

สถานที่แห่งที่สี่ แฟร์แบงก์ ในอลาสกา เมืองที่เห็นปรากกฏการณ์แสงเหนือได้สวยงามแห่งหนึ่งในโลก ซึ่งใน Drunken Forest พื้นน้ำแข็งละลาย ต้นไม้เริ่มล้มเอียงลงมา เหมือนกับว่าพายุเฮอริเคนพัดผ่าน

สถานที่แห่งที่ห้า คาบมสมุทรแอนตาร์กติก เมื่อสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไป การตอบสนองของชีวิตแต่ละสายพันธุ์ไม่เหมือนกัน ในพื้นที่ตอนใต้ของแอนตาร์กติก นกเพกวินเจนทู (Gentoo) รอดเพราะสร้างรังไว้บนชายฝั่งที่เกิดจากน้ำแข็งละลาย ส่วนนกเพนกวินอเดลี (Adelie) กำลังลำบากเพราะหาปลาจากทะเลน้ำแข็งที่ลดลง

สถานที่แห่งที่หก กรีนเบิร์ก รัฐแคนซัส แม้จะไม่มีชื่อเสียงนัก แต่เมืองเล็กๆ ทางตอนใต้ของแคนซัสรอดชีวิตจาก Climate Change หลังจากที่ถูกพายุทอร์นาโดกระหน่ำจนเสียหาย แต่ได้สร้างเมืองขึ้นใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ เป็นเมืองแห่งแรกของสหรัฐฯ ที่ไฟถนนทุกเส้นเป็นไฟ LED และใช้พลังงานหมุนเวียนเต็ม 100% ทำให้แข็งแรงกว่าเดิม

สถานที่แห่งที่เจ็ด อุทยานแห่งชาติอคาเดีย รัฐเมน ศาสตราจารย์กุนเทอร์และทีมนักวิทยาศาสตร์ได้เก็บรวมรวบข้อมูลในอุทยานบริเวณชายฝั่งแอตแลนติก ในอนาคตคาดว่ากุ้งลอบสเตอร์จะอพยพไปทางตอนเหนือเพื่อหากระแสน้ำเย็น และคาดว่าสิ่งมีชีวิตอื่นในบริเวณนั้นจะมีการโยกย้าย

สถานที่แห่งที่แปด เทือกเขาแอลป์ ซึ่งเป็นเทือกเขาที่มีชื่อเสียงของยุโรป และยังปกคลุมทวีปอยู่ แต่กำลังได้รับผลจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น แม้น้ำแข็งยังไม่ละลาย แต่พันธุ์ไม้กำลังเปลี่ยนแปลง อีกทั้งเทือกเขาแอลป์ต่ำกว่าเทือกเขาเดนเวอร์ในสหรัฐฯ จึงเสี่ยงมากกว่า

สถานที่แห่งที่เก้า หมู่เกาะ Florida Keys ทางตอนใต้ของฝั่งฟลอริดา แนวปะการังกำลังประสบกับภาวะน้ำอุ่น รวมทั้งสารเคมีในน้ำทะเล ทำให้เกิดปะการังฟอกขาว เพราะในน้ำมีคาร์บอนเพิ่มขึ้น แม้มีปะการังบางส่วนที่ยังไม่เปลี่ยนสี แต่ก็สะท้อนการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน

สถานที่สุดท้าย อุทยานน้ำแข็ง ในมอนทานา น้ำแข็งลดลงต่อเนื่องในหลายปีนี้ จากระดับสูงสุดในศตวรรษที่ 19 ในยุค Little Ice Age หลังจากนั้นน้ำแข็งในอุทยานลดลงจาก 150 เหลือจำนวนไม่มากนัก ซึ่งศาตราจารย์กุนเทอร์กล่าวว่าน่ากลัวมาก
