สืบเนื่องมาจากคำสั่งกรมศุลกากร วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2559 สั่งการให้สำนักงานศุลกากร ที่เกี่ยวข้องทุกแห่ง (ด่านศุลกากร) เรียกเก็บภาษีอากรส่วนที่ขาดจากผู้นำเข้ารถหรู หรือ “เกรย์มาร์เก็ต” ประมาณ 100 ราย ที่ผ่านการตรวจปล่อยรถยนต์ โดยเจ้าหน้าที่ศุลกากรที่ถูกกรมศุลกากรตั้งกรรมการสอบสวนตามคำสั่งลับที่ 3/2556 และคำสั่งลับที่ 10/2557 โดยให้นายตรวจศุลกากรที่ประจำอยู่ตามด่านศุลกากร กำหนดราคาศุลกากร ประเมินภาษีผู้นำเข้ากลุ่มนี้ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2550-2557 ก่อนคดีทยอยขาดอายุความ คิดเป็นมูลค่าภาษีส่วนที่ขาดกว่า 50,000 ล้านบาท
วันที่ 7 มีนาคม 2559 สำนักกฎหมายออกหนังสือเวียนคำสั่งอธิบดีกรมศุลกากรแจ้งสำนักงานศุลกากรที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักมาตรฐานพิธีการและราคาศุลกากร (สมพ.), สำนักบริหารทรัพยากรบุคคล (สบท.), สำนักงานศุลกากรกรุงเทพ (สกท.), สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ (สทก.), สำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าลาดกระบัง (สสล.), สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง (สทบ.), สำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สสภ.), สำนักงานศุลกากรภาคที่ 1 (สภ.1), สำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 (สภ.2), สำนักงานศุลกากรภาคที่ 3 (สภ.3), สำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 (สภ.4) ดำเนินการกำหนดราคาศุลกากรเพื่อออกหนังสือแจ้งประเมินภาษีผู้นำเขารถหรูย้อนหลัง 7 ปี ปรากฏว่าในทางปฏิบัติมีปัญหา
เวลาผ่านมาเกือบ 6 เดือน ไม่มีนายตรวจศุลกากรรายใดออกหนังสือแจ้งประเมินภาษีผู้นำเข้าอิสระ เนื่องจากนายตรวจศุลกากรที่ประจำอยู่ตามด่านไม่ใช่คนที่อนุมัติตรวจปล่อยรถหรูที่มีปัญหาสำแดงราคาต่ำ จึงไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะนำมาใช้กำหนดเป็น “ราคาศุลกากร” เพื่อประเมินค่าภาษีส่วนที่ขาดได้ หากกำหนดราคาศุลกากรโดยที่ไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน อาจถูกผู้นำเข้ารถยนต์อิสระ หรือ นายตรวจศุลกากรที่ถูกสอบวินัย 67 คน ฟ้องกลับ

ที่มาภาพ: www.mof.go.th/
ระหว่างที่นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เดินทางไปประชุมมอบนโยบายแก่ข้าราชกรมศุลกากรเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2559 ได้มอบหมายให้นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร เร่งสะสางคดีตำนานที่ค้างอยู่หลายคดีให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว รวมทั้งคดีนายตรวจศุลกากรที่พัวพันขบวนการนำเข้ารถหรูสำแดงราคาต่ำ ซึ่งยังสรุปไม่ได้
วันที่ 22 สิงหาคม 2559 กรมศุลกากรจัดให้มีการประชุมคณะกรรมการสำนัก-สำนักงานศุลกากร ครั้งที่ 1/2559 โดยมีนายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร เป็นประธานที่ประชุม กรรมการประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูงของกรมศุลกากรและนายด่านศุลกากรทั่วประเทศ ในการประชุมวันนั้นมีวาระที่ต้องพิจารณาหลายเรื่อง แต่ที่เกี่ยวข้องกับกรณีนำเข้ารถหรูสำแดงราคาต่ำอยู่ในวาระข้อที่ 3.5 ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการสำนัก-สำนักงานศุลกากร มีมติดังนี้
1. ให้คณะกรรมการสืบสวนและสอบสวนทุกชุด (คณะกรรมการสอบสวนวินัยนายตรวจ 27 คน และ 40 คน) ส่งข้อมูลใบขนสินค้าทั้งหมดไปให้สำนักงานศุลกากรที่เกี่ยวข้องตรวจสอบว่ามีรถยนต์นำเข้ารุ่นใด, นำเข้าโดยผู้นำเข้าอิสระรายใดบ้าง ที่อยู่ในข่ายต้องออกหนังสือแจ้งประเมินราคาศุลกากรรวมค่าภาษีอากรส่วนที่ขาด ให้ได้ข้อสรุปภายในวันที่ 26 สิงหาคม 2559
2. ให้สำนักงานศุลกากรที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาประเมินราคาศุลกากรและค่าภาษีส่วนที่ขาดตามใบขนสินค้าที่ได้รับข้อมูล และส่งข้อมูลให้คณะกรรมการสืบสวนและสอบสวนทุกชุดที่เกี่ยวข้องภายในวันที่ 15 ตุลาคม 2559
3. ให้คณะกรรมการสืบสวนและสอบสวนทุกชุดที่ได้รับข้อมูลมาแล้ว ต้องพิจารณาคดีให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2559
4. ให้สำนักงานบริหารทรัพยากรบุคคล (สบท.) จัดทำข้อมูลและส่งข้อมูลทั้งหมดให้กระทรวงการคลังภายในวันที่ 1 ธันวาคม 2559