ดร.ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์
ผู้อ่านที่ติดตามข้อเขียนของลุงหมีในคอลัมน์นี้เป็นประจำคงสังเกตเห็นได้ว่าประมาณครึ่งหนึ่งของผลงานเขียนเป็นเรื่องในด้านศิลปะ ดนตรีและหนังสือ ทั้งนี้เป็นการสะท้อนความเชื่อและการใช้ชีวิตของลุงหมีว่าชีวิตของคนเราไม่ได้เกิดมาเพื่อทำงานและหารายได้เพียงอย่างเดียว แต่เราควรมีเวลาที่เพลิดเพลินหรือมีความสุขกับสิ่งที่งดงามและสร้างสุนทรีย์ให้แก่ชีวิตอันได้แก่ผลงานศิลปะ ดนตรีและหนังสือด้วย
เมื่อเดือนพฤษภาคมนี้ ลุงหมีได้จัดงานเพื่อสร้างความตระหนักรู้อย่างเป็นรูปธรรมที่งาน money expo 2568 อันเป็นงานมหกรรมทางการเงินระดับชาติ มีองค์กรด้านการเงิน บริษัทธุรกิจและหน่วยงานของรัฐมาร่วมออกบูธให้ความรู้และเสนอบริการทางการเงินมากกว่า 100 บูธ แต่มีบูธชื่อ ‘happy life by การเงินธนาคารและธนาคารกรุงเทพ’ นำเสนองานด้านศิลปะ-ดนตรี-หนังสือแทรกอยู่ในงานด้วย
ลุงหมีรับเป็นผู้อำนวยการจัดทำบูธนี้ในลักษณะนิทรรศการที่มีชีวิต คือ ผู้เข้าชมสามารถดูภาพนิ่ง หรือคลิปที่นำเสนอผลงานทั้งสามด้าน โดยมีการแสดงสดบนเวทีจากสิ่งที่ผู้ชมได้อ่านหรือรับฟังด้วยตัวเอง ทีมงานนำเสนอผลงานด้านต่างๆเป็นเครือข่ายของกลุ่มศิลปินที่ลุงหมีรู้จักคุ้นเคย โดยลุงหมีได้ทีมงานบริษัทรักลูกเอ็ดดูเท็กซ์ซึ่งเคยออกแบบพิพิธภัณฑ์ให้องค์กรที่ลุงหมีเป็นผู้นำมาก่อนเป็นผู้ออกแบบบูธนี้ให้มีลักษณะโปร่ง ผู้คนเดินเข้าชมได้จากทุกทิศทาง แบ่งโซนงานด้านต่างๆชัดเจน และมีเวทีแสดงที่น่าร่วมชม โดยลุงหมีนำเสนอคลิปเชิญชวนคนเข้าชมบูธด้วยตัวเอง ผลปรากฏว่าในช่วงสี่วันของการจัดงาน มีผู้คนเดินเข้ามาชมกิจกรรมในบูธอยู่ตลอดเวลา ถือว่าการตอบรับเป็นที่น่าพอใจ
โซนแรกที่ขอแนะนำคือ โซนศิลปะ เป็นการนำเสนอภาพวาดสีน้ำของกลุ่มศิลปิน six point ซึ่งก่อตั้งมานาน37 ปีแล้ว สมาชิกในกลุ่มเป็นผู้วาดภาพสีน้ำเป็นอาชีพและสอนวาดภาพสีน้ำให้กลุ่มบุคคลและองค์กรต่างๆมีลูกศิษย์มากมาย คนเข้าชมนอกจากได้เห็นภาพวาดสวยงามหลากหลายสไตล์แล้ว ยังได้ดูศิลปินวาดภาพสดๆให้เข้าใจกระบวนการสร้างผลงานศิลปะภาพวาดสีน้ำด้วย
strong>ในการแสดงสดการวาดภาพสีน้ำบนเวทีนั้น< ดร.สุชาติ วงษ์ทอง ศิลปินมีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งกลุ่มsix point ขึ้นบรรยายให้ความรู้แก่ผู้ฟังว่าจุดเด่นของภาพสีน้ำคือ ความฉ่ำ-บาง-ใส และแสดงการวาดภาพช่อดอกไม้ที่งดงามเสร็จภายในเวลา 15 นาที ทั้งนี้อาจารย์สุชาติได้ขอให้ลุงหมีจับพู่กันแตะรูปดอกไม้ 1 ดอกเป็นประเดิมด้วย



ในโซนหนังสือนำเสนอคลิปและหนังสือในสองหัวข้อ คือ การอ่านบทกวี และการแนะนำหนังสือเล่มโปรด
ในด้านการอ่านบทกวีนั้น ลุงหมีเคยเสนอบทความและแสดงคลิปอ่านบทกวีไว้แล้วครั้งหนึ่งในเรื่องเล่าตอนที่ 25 (บทกวีรับความสุขปีใหม่ ) จึงขอไม่นำเสนอซ้ำ แต่ขอเล่าถึงการแสดงบนเวทีปิดท้ายรายการอ่านบทกวีสด คือ ศักดิ์สิริ มีสมสืบ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์- กวีนิพนธ์ ผู้มีความสามารถรอบตัว เป็นทั้งนักแต่งเพลงมือรางวัลพระพิฆเนศวร และนักวาดรูปมีสตูดิโอของตัวเอง ศักดิ์สิริขึ้นมาพูดเล่านำถึงการสร้างอารมณ์ของบทกวี แล้วจึงร้องเพลง ‘บอก’ เพื่อพรรณนาถึงสิ่งที่ธรรมชาติสอนให้เราเข้าเข้าใจปรัชญาชีวิต ในรูปจะเห็นภาพวาดในจอเป็นฝีมือของเขา แต่คลิปเพลงลุงหมีนำจากคลิปเก่าที่เสนอเสียงเพลงได้ไพเราะชัดเจนกว่า
หัวข้อที่สองของโซนหนังสือ คือ การแนะนำหนังสือเล่มโปรดจากรายการ jira library จัดทำโดย คุณจิรยง อนุมาณราชธน เสนอไว้ทางสื่อออนไลน์ คือ FB และ you tube เป็นการสัมภาษณ์บุคคลมีชื่อเสียงว่าพวกเขาเลือกหนังสือเล่มโปรดอย่างไรและหนังสือเล่มนั้นให้คุณค่าอะไรแก่ผู้อ่าน มุมนี้เสนอตัวอย่างคลิปสัมภาษณ์ มีหนังสือคัดเลือก 10 เล่มให้ผู้ชมเห็นข้อความสรุปเกี่ยวหนังสือเล่มนั้น มีแฟนหนังสือมาจองมุมนี้นั่งอ่านหนังสือให้เห็น และคุณจิรยงมานั่งพูดคุยเรื่องหนังสือเล่มโปรดกับผู้รักการอ่านหนังสือด้วย
วิดิโอ….

ในโซนดนตรี คลิปบนเวทีฉายภาพวนการแสดงดนตรีคลาสสิกโดยวงดนตรี TP0 ( thailand philharmonic orchestra) ของวิทยาลั
ยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยลุงหมีได้รับความกรุณาจากดร. ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีของวิทยาลัย เป็นผู้คัดเลือกเพลงและเขียนบทบรรยายให้ความรู้ทางดนตรีคลาสิกแก่ผู้ฟังด้วยตัวเอง ( เพลงชุดนี้จะเป็นหัวข้อบทความครั้งต่อไปของลุงหมี)
สำหรับการแสดงบนเวที ลุงหมีเลือกนำเสนอเพลงจากวงstring quartet( วงเครื้องสายสี่ชิ้นซึ่งเหมาะแก่การแสดงให้ผู้ฟังในห้องที่ไม่ใหญ่นัก เรียกว่าเป็น chamber music)
ดนตรีคลาสสิกอาจถือเป็นเพลงที่ฟังยากสำหรับคนฟังเพลงทั่วไป ในบูธนี้ลุงหมีจึงนำเสนอเพลงกึ่งคลาสสิกที่ผู้ฟังสัมผัสได้ง่ายขึ้น คือ เพลงประกอบภาพยนตร์และซีรีย์ซึ่งบรรเลงโดยวงออเคสตราขนาดเล็ก เป็นเพลงที่มีแต่เสียงดนตรี( instrumentals) ไม่ใช่เพลงที่มีเนื้อร้อง
ลุงหมีได้เชิญนักประพันธ์เพลงสำหรับภาพยนตร์ซึ่งจัดทำเพลงให้ค่ายหนังใหญ่ระดับโลกมาแล้ว( เช่น ค่ายdisney pixar warner- brother sony netflix) คือ คุณพันธวิต เคียงศิริ มาให้ความรู้และความเพลิดเพลินแก่ผู้มารับฟังการบรรยายบนเวทีให้เข้าใจถึงแนวคิดในการสร้างดนตรี( score) ที่สื่อถึงอารมณ์หรือชี้นำการตีความหมายในฉากภาพยนตร์ต่างๆ โดยคุณพันธวิตได้ทำคลิปแสดงให้เห็นกระบวนการอัดเสียงดนตรีและมีตัวอย่างเพลงประกอบในบางฉากให้ฟังด้วย
https://drive.google.com/file/d/1MOAFbM1O-rSQVPFFfvq3ejvZGds8kSzy/view?usp=share_link