ThaiPublica > เกาะกระแส > ชาวอเมริกันลุกฮือประท้วงต่อต้าน “ทรัมป์” ทั่วประเทศ และหลายเมืองในยุโรป

ชาวอเมริกันลุกฮือประท้วงต่อต้าน “ทรัมป์” ทั่วประเทศ และหลายเมืองในยุโรป

6 เมษายน 2025


ที่มาภาพ:https://www.politico.com/news/2025/04/05/hands-off-protests-trump-us-00274352

ผู้คนหลายล้านคนเข้าร่วมการประท้วงต่อต้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และอีลอน มัสก์ ทั่วทั้ง 50 รัฐและทั่วโลกเมื่อวันเสาร์ (5 เมษายน 2025) ซึ่งจัดโดยกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย เพื่อตอบโต้สิ่งที่พวกเขาเรียกว่า “การครอบงำอย่างไม่เป็นมิตร” และการรุกรานสิทธิและเสรีภาพของชาวอเมริกัน

จากการรายงานของสำนักข่าว CNN การประท้วงที่ใช้ชื่อ “Hands Off!” มีขึ้นกว่า 1,400 จุดในรัฐสภา อาคารรัฐบาล ที่ทำการรัฐสภา สำนักงานใหญ่ประกันสังคม สวนสาธารณะ ศาลากลางทั่วประเทศ และในทุกๆ ที่ ผู้จัดการประท้วงบอกว่า “เราต้องทำให้พวกเขาฟังเรา” Hands Off! เรียกร้องให้ “ยุติการมีอำนาจของเหล่ามหาเศรษฐี”

ผู้ประท้วงหลายพันคนในเมืองต่างๆ ทั่วประเทศตั้งแต่มิดทาวน์แมนฮัตตันไปจนถึงแองเคอเรจ รัฐอะแลสกา รวมถึงอาคารรัฐสภาหลายแห่ง โจมตีการกระทำของทรัมป์และมหาเศรษฐีอีลอน มัสก์ เกี่ยวกับการลดขนาดรัฐบาล เศรษฐกิจ การย้ายถิ่นฐาน และสิทธิมนุษยชน ด้านชายฝั่งตะวันตก ภายใต้เงาของ Space Needle อันโด่งดังของเมืองซีแอตเทิล ผู้ประท้วงถือป้ายที่มีข้อความต่างๆ เช่น “ต่อสู้กับกลุ่มผู้มีอำนาจปกครอง” ผู้ประท้วงตะโกนขณะเดินขบวนไปตามถนนในพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน และลอสแอนเจลิส ซึ่งพวกเขาเดินขบวนจากเพอร์ชิงสแควร์ไปยังศาลากลาง

“ไม่ว่าคุณจะถูกปลุกระดมจากการรุกรานประชาธิปไตยของเรา การตัดลดตำแหน่งงาน การละเมิดความเป็นส่วนตัว หรือการละเมิดบริการของเรา ช่วงเวลาเป็นของคุณ” ใบปลิวงานเชิญชวนให้ร่วมประท้วงระบุ “เราตั้งเป้าที่จะสร้างการไม่ยอมรับวิกฤตินี้ในระดับประเทศอย่างยิ่งใหญ่และชัดเจน”

มีผู้คนเกือบ 600,000 คนลงทะเบียนเข้าร่วมงาน ซึ่งบางงานจัดขึ้นในเมืองใหญ่ๆ เช่น ลอนดอนและปารีส ตามข้อมูลของ Indivisible ซึ่งเป็นองค์กรที่นำขบวนการเคลื่อนไหวดังกล่าวร่วมกับพันธมิตรระดับประเทศซึ่งประกอบด้วยองค์กรด้านสิทธิพลเมือง ทหารผ่านศึก กลุ่มสิทธิสตรี สหภาพแรงงาน และผู้สนับสนุน LGBTQ+

ผู้จัดงานกล่าวว่าพวกเขามีข้อเรียกร้องสามประการ ได้แก่ “ยุติการเข้าครอบงำของมหาเศรษฐีและการทุจริตที่แพร่กระจายของรัฐบาลทรัมป์ ยุติการตัดเงินทุนของรัฐบาลกลางสำหรับ Medicaid (โครงการประกันสุขภาพของรัฐบาลที่ให้ความคุ้มครองผู้มีรายได้น้อย รวมทั้งผู้สูงอายุเด็ก และบุคคลที่มีความทุพพลภาพ), Social Security (ระบบประกันสังคม) และโปรแกรมอื่นๆ ที่คนทำงานพึ่งพา และยุติการโจมตีผู้อพยพ คนข้ามเพศ และชุมชนอื่นๆ”

ในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ก่อนการประท้วงเริ่มขึ้น ผู้จัดกล่าวว่าทรัมป์และอีลอน มัสก์ ที่ปรึกษามหาเศรษฐีของเขาที่ DOGE ได้สร้างวิกฤติที่ไม่จำเป็นภายใต้ความเชื่อที่ว่า “ประเทศนี้เป็นของพวกเขา” แต่เพียงผู้เดียว

“พวกเขากำลังใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัวเองสามารถคว้ามาได้ ไม่ว่าจะเป็นบริการด้านสุขภาพ ข้อมูล งาน บริการของเรา และท้าให้โลกหยุดพวกเขา” ผู้จัดกล่าวในแถลงการณ์ นี่คือวิกฤติ และถึงเวลาที่จะต้องจัดการแล้ว

CNN ได้ติดต่อทำเนียบขาวเพื่อขอให้แถลงการณ์

การประท้วงหน้าสนามกอลฟ์ของทรัมป์ในฟลอริดา ที่มาภาพ: https://apnews.com/article/trump-musk-doge-protests-hands-off-472c574303260cbac315367cc808960d

สส. กล่าวปราศรัยในการประท้วง

ระหว่างการประท้วง Hands Off! ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. มีตัวแทนหลายคนขึ้นโพเดียมเพื่อปราศรัยเกี่ยวกับรัฐบาลทรัมป์ รวมถึงเจมี ราสกิน สส. จากพรรคเดโมแครตแห่งรัฐแมริแลนด์ ที่กล่าวว่า ไม่มีอนาคตหากประธานาธิบดีมี “การเมืองแบบมุสโสลินีและเศรษฐกิจแบบเฮอร์เบิร์ต ฮูเวอร์”

“ผู้ก่อตั้งประเทศของเราได้ร่างรัฐธรรมนูญที่ไม่ได้เริ่มต้นด้วยคำว่า ‘พวกเราคือเผด็จการ’ แต่บทนำกลับบอกว่า ‘พวกเราคือประชาชน’” ราสกินกล่าวต่อหน้าฝูงชนนับพันที่รวมตัวกันที่อนุสรณ์สถานวอชิงตัน โดยถือป้ายประณามรัฐบาล “ไม่มีคนมีศีลธรรมคนไหนต้องการเผด็จการที่ทำลายเศรษฐกิจ ซึ่งรู้ราคาของทุกสิ่งแต่ไม่รู้คุณค่าของอะไรเลย”

ผู้เข้าร่วมการประท้วงเดินทางมาจากทั่วประเทศเพื่อแสดงพลังที่เมืองหลวงของประเทศ เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาล ผู้ประท้วงที่อยู่ใน National Mall (สวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. มีพื้นที่จากอนุสรณ์สถานลิงคอล์นทางฝั่งตะวันตก ไปจบที่อาคารรัฐสภาสหรัฐอเมริกาทางฝั่งตะวันออก )ตะโกนว่า “เฮ้ย ทรัมป์ออกไป” พร้อมกับถือป้ายที่มีข้อความว่า “ปกป้องรัฐธรรมนูญของเรา” และ “อย่าแตะต้องสิทธิของเรา”

“หากคุณต้องการให้ประเทศยังคงเชื่อในกระบวนการยุติธรรม เราก็ต้องต่อสู้เพื่อมัน” อิลฮาน โอมาร์ สส. พรรคเดโมแครตแห่งมินนิโซตา กล่าวระหว่างการประท้วงที่วอชิงตัน “หากคุณเชื่อว่าประเทศของเราดูแลเพื่อนบ้าน ดูแลคนจน และมั่นใจว่าลูกหลานของเราจะมีอนาคตที่พวกเขาเชื่อได้ เราก็ต้องต่อสู้เพื่อมัน”

แม็กซ์เวลล์ ฟรอสต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแห่งรัฐฟลอริดา ได้กล่าวปราศรัย เรียกร้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมด้วยการประท้วง บริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีส่วนร่วมในการดำเนินการตามแนวทาง และมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์ทางกฎหมาย

“ตลอดประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ผู้มีอำนาจนิยมไม่เคยพอใจกับอำนาจที่ตนมี ดังนั้น พวกเขาจึงทดสอบขอบเขต ขยายขอบเขต ฝ่าฝืนกฎหมาย จากนั้นจึงมองประชาชนเพื่อดูว่าพวกเขาเงียบหรือส่งเสียง” ฟรอสต์กล่าว

ในลอสแอนเจลิส ผู้ประท้วงเดินขบวนไปตามทางยาว 1 ไมล์ไปยังศาลากลาง พร้อมส่งเสียงว่า “อำนาจของประชาชน” และถือป้ายที่มีข้อความ เช่น “อย่าแตะต้องการศึกษา” และ “ต่อต้าน ต่อต้าน”

นอกจากนี้ ยังมีผู้คนหลายร้อยคนออกมาประท้วงที่ปาล์มบีชการ์เดนส์ รัฐฟลอริดา ซึ่งอยู่ห่างจากสนามกอล์ฟของทรัมป์ในเมืองจูปิเตอร์เพียงไม่กี่ไมล์ ซึ่งเขาใช้เวลาช่วงเช้าที่นั่นในการชมการแข่งขัน Senior Club Championship ของสโมสร ผู้คนยืนเรียงรายอยู่ทั้งสองข้างของถนน PGA Drive เชิญชวนให้รถยนต์บีบแตรและตะโกนคำขวัญต่อต้านทรัมป์

“พวกเขาต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับประกันสังคมของเรา” อาร์เชอร์ โมรัน จากเมืองพอร์ตเซนต์ลูซี รัฐฟลอริดา กล่าว

สำนักข่าว AP รายงานว่า ในบอสตัน ผู้ประท้วงถือป้ายข้อความ เช่น “อย่ายุ่งกับประชาธิปไตยของเรา” และ “อย่ายุ่งกับประกันสังคมของเรา”

นายกเทศมนตรีมิเชลล์ วู กล่าวว่า เธอไม่ต้องการให้ลูกๆ ของเธอและคนอื่นๆ ต้องใช้ชีวิตในโลกที่การคุกคามและการข่มขู่เป็นกลวิธีของรัฐบาล และคุณค่าต่างๆ เช่น ความหลากหลายและความเท่าเทียม กำลังถูกโจมตี

การประท้วงในนิวยอร์ก ที่มาภาพ:https://www.nbcnews.com/news/us-news/global-hands-off-protests-donald-trump-elon-musk-rcna199847

ผู้ประท้วงในเมืองชาร์ลอตต์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา กล่าวว่า พวกเขาสนับสนุนหลายอย่าง ตั้งแต่ประกันสังคมและการศึกษา ไปจนถึงการย้ายถิ่นฐานและสิทธิการสืบพันธุ์ของสตรี

“ไม่ว่าคุณจะสังกัดพรรคใด ไม่ว่าคุณจะลงคะแนนให้ใคร สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันก็ล้วนน่ารังเกียจ” บริตต์ คาสติลโล วัย 35 ปี จากเมืองชาร์ลอตต์ กล่าว “มันน่ารังเกียจ และแม้ว่าระบบปัจจุบันของเราจะพังทลายเพียงใด แต่แนวทางที่รัฐบาลชุดปัจจุบันพยายามแก้ไขปัญหานั้นไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้อง พวกเขาไม่ได้ฟังเสียงประชาชน”

ตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง รัฐบาลของเขาได้แสดงออกอย่างชัดเจนถึงความพยายามในการลดการใช้จ่ายของรัฐบาลกลาง โดยไม่คำนึงว่าจะมีผลกระทบกับใคร พนักงานของรัฐบาลกลางหลายพันคนถูกเลิกจ้างหรือได้รับแจ้งการเลิกจ้างทันที ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการลดขนาดรัฐบาลกลางของทรัมป์และมัสก์

และมัสก์ซึ่งเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก ได้ผลักดันนโยบายอย่างแข็งกร้าวเพื่อลดการใช้จ่ายในฐานะหัวหน้าของหน่วยงานที่เรียกว่า ทบวงประสิทธิภาพของรัฐบาล (Department of Government Efficiency) ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในขณะที่ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้จ่ายของรัฐบาลกลางซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เขายังคุยโวอีกว่าเขาได้ส่ง USAID ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เลี้ยงดูผู้คนที่ยากจนที่สุด สิ้นหวังที่สุด และช่วยชีวิตผู้คนไว้ได้หลายล้านคน “ไปไว้ในเครื่องสับไม้”(wood chipper)

พวกเขาได้รื้อโครงการช่วยเหลือต่างประเทศที่สนับสนุนประชาธิปไตยที่เปราะบางในต่างประเทศ และให้พนักงานรัฐบาลที่ปกป้องการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ในประเทศพักงาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ในปัจจุบันและอดีตระบุว่าเป็นการยกเลิกพันธกรณีของสหรัฐฯ ที่มีต่อประชาธิปไตยที่ดำเนินมาหลายทศวรรษ

สำนักงานประกันสังคมซึ่งรับผิดชอบเงินช่วยเหลือรายเดือนแก่ชาวอเมริกันประมาณ 73 ล้านคน กำลังอยู่ในภาวะสับสนวุ่นวายหลังจากการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ รวมถึงการเลิกจ้างพนักงานหลายพันคน

ทรัมป์และทีมงานของเขาได้ใช้มาตรการพิเศษเพื่อปราบปรามผู้อพยพ โดยกดดันสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐอเมริกา (U.S. Immigration and Customs Enforcement หรือ ICE) อย่างแข็งกร้าวให้เร่งดำเนินการจับกุมผู้อพยพ และมีแผนการเนรเทศจำนวนมาก แม้ว่าฝ่ายบริหารจะทำผิดพลาดหลายครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงการเนรเทศชายชาวเอลซัลวาดอร์โดยผิดพลาด

“พวกเขาบอกเราว่าผู้อพยพกำลังขโมยงานของเรา แต่พวกเขากลับเป็นคนส่งงานของเราไปต่างประเทศ และจ้างทนายความของบริษัทเพื่อไปทำลายสหภาพแรงงาน” ฟรอสต์กล่าว

“พวกเขาบอกเราว่าคนข้ามเพศเป็นภัยคุกคามต่อลูกหลานของเรา แต่พวกเขาต่างหากที่ทำลายการศึกษาของรัฐ พวกเขาต่างหากที่ปฏิเสธวิกฤติสภาพอากาศ พวกเขาต่างหากที่ทำลายโลกของเรา พวกเขาต่างหากที่ไม่ทำอะไรเลยเรื่องภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับชาติ ที่เกิดจากความรุนแรงของอาวุธปืน” ฟรอสต์กล่าวเพิ่มเติม

การประท้วงที่อนุสรณ์สถานวอชิงตัน ที่มาภาพ: https://www.theguardian.com/us-news/2025/apr/05/anti-trump-protests-hands-off

รัฐบาลทรัมป์ตั้งคำถามต่อวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับสภาพอากาศบ่อยครั้ง และกล่าวว่าจะยกเลิกนโยบายด้านสภาพอากาศที่สำคัญๆ รวมถึงกฎที่กำหนดเป้าหมายมลพิษจากยานพาหนะและโรงไฟฟ้า ซึ่งเป็นการระรานครั้งสำคัญต่อความก้าวหน้าของอเมริกาในเรื่องอากาศที่สะอาด น้ำที่สะอาด และการดำเนินการด้านสภาพอากาศ นอกจากนี้ ทรัมป์ยังสั่งให้รัฐบาลกลางประเมินนโยบายด้านปืนอีกครั้ง รวมถึงคดีความที่อยู่ระหว่างดำเนินการทั้งหมด ซึ่งอาจจำกัดสิทธิด้านปืนของชาวอเมริกัน

ฟรอสต์กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองในอเมริกาในปัจจุบันเป็น “การผงาดขึ้นมาอย่างร้ายกาจของระบบเผด็จการ” ที่มีต้นเหตุจาก “มหาเศรษฐีและบริษัทขนาดใหญ่ที่ฉ้อฉล” ซึ่งคิดว่าพวกเขามีสิทธิ์ที่จะควบคุมทุกแง่มุมของชีวิตพลเมืองของตน รวมถึงเสรีภาพในการพูดด้วย

การจับกุมมะห์มุด คาลิล ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ ซึ่งถูกเพิกถอนกรีนการ์ดเนื่องจากเขามีส่วนร่วมในการชุมนุมที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ทำให้เกิดคำถามที่น่าสะพรึงกลัวว่า ประชาชนสามารถใช้สิทธิเสรีภาพในการพูดที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญได้จริงหรือไม่

“ชุมชนของเราต้องมารับผลจากการที่ทรัมป์และมัสก์ของโลกทำเงินจากมัน ไม่ใช่แค่เรื่องของเงินเท่านั้น แต่มันเป็นเรื่องของอำนาจ” ผู้จัดงาน Hands Off! ระบุ “รัฐบาลชุดนี้มีเป้าหมายไปที่ทุกคนที่ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของ 1% ไม่ว่าจะเป็นทหารผ่านศึก เด็ก ผู้สูงอายุ เกษตรกร ผู้ย้ายถิ่นฐาน คนข้ามเพศ และฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ทั้งหมดเพื่อรวบรวมอำนาจและให้รางวัลแก่พันธมิตรของพวกเขา”

แม้การประท้วงทั่วประเทศจะเป็นไปอย่างสันติเป็นส่วนใหญ่ แต่ในตัวเมืองลาฟาแยตต์ รัฐอินดีแอนา ชายคนหนึ่งหยิบปืนยาวออกจากรถและเดินเข้าหาฝูงชน

ตำรวจเมืองลาฟาแยตต์ระบุว่า ชายคนดังกล่าวพยายามเลี้ยวรถอย่างผิดกฎหมายที่ทางแยกใกล้กับศาลเทศมณฑลทิปเปคาโน แต่ถูกผู้ประท้วงบนถนนขวางไว้ ชายคนดังกล่าวลงจากรถบรรทุก และจากคำแถลงของตำรวจ หลังจากความตึงเครียดระหว่างเขากับกลุ่มผู้ประท้วงทวีความรุนแรงขึ้น เขาถูกผู้ประท้วงใช้หัวโขก

จากนั้น ชายคนดังกล่าวก็กลับไปที่รถบรรทุกและหยิบปืนจากรถของเขา ซึ่งต่อมาเขาอธิบายว่าเป็นการป้องกันตัว ก่อนจะวางปืนกลับเข้าไปในรถบรรทุกของเขา คำแถลงระบุ

เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองลาฟาแยตต์ควบคุมตัวชายคนดังกล่าวไว้หลังจากได้รับรายงานว่าเขาเล็งปืนไปที่ผู้ประท้วง อย่างไรก็ตาม ตำรวจกล่าวว่า หลังจากสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ก็พบว่าเขาไม่ได้เล็งปืนไปที่ใครเลย และจึงปล่อยตัวเขาไป

การประท้วงที่ชิคาโก ที่มาภาพ: https://www.nbcnews.com/news/us-news/global-hands-off-protests-donald-trump-elon-musk-rcna199847

ประธานสหภาพแรงงานออกมาต่อต้าน
เมื่อวันเสาร์ ประธานสหภาพแรงงานของพนักงานรัฐบาลกลาง 2 คนออกมาพูดต่อต้านทรัมป์และนโยบายของเขา ที่มีเป้าหมายเป็นพนักงานรัฐบาลกลางในการประท้วงที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

“รัฐบาลของทรัมป์กำลังทำลายบริการสาธารณะในประเทศนี้อย่างสิ้นเชิง พวกเขาอ้างว่ากำลังทำให้รัฐบาลมีประสิทธิภาพมากขึ้น” แรนดี เออร์วิน ประธานสหพันธ์พนักงานรัฐบาลแห่งชาติกล่าว “นั่นเป็นเรื่องตลกนะทุกคน นั่นเป็นเรื่องตลกร้าย พวกเขากำลังทำสิ่งที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง”

สหพันธ์พนักงานรัฐบาลแห่งชาติ (National Federation of Federal Employees) และสหพันธ์พนักงานรัฐบาลอเมริกัน (American Federation of Government Employees หรือ AFGE) เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสหภาพแรงงานที่ยื่นฟ้องต่อศาลแขวงสหรัฐฯ ในซานฟรานซิสโกเมื่อสัปดาห์นี้ เพื่อพยายามหยุดยั้งรัฐบาลของทรัมป์จากการยุติสิทธิในการต่อรองร่วมกันของพนักงานรัฐบาลกลางหลายคน

“พวกเขาคิดว่าเราเป็นเป้าหมายที่ง่าย แต่ผมขอบอกคุณสักอย่างเกี่ยวกับสมาชิกสหภาพแรงงานและทหารผ่านศึก เราจะไม่ยอมถูกข่มขู่ ผมเองก็เป็นทหารผ่านศึก ผมเป็นทหารผ่านศึกของกองทัพ เราจะไม่ถูกปิดปาก เราจะไม่ยอมก้มหัว เราจะยืนขึ้นและบอกว่าอย่ายุ่งกับสหภาพแรงงานของเรา เราจะยืนขึ้นและบอกว่าอย่ายุ่งกับสัญญาของเรา” เอเวอเรตต์ เคลลีย์ ประธาน AFGE กล่าว

การประท้วงที่ Colorado Capitol ในเดนเวอร์ ที่มาภาพ: https://coloradonewsline.com/2025/04/05/protest-trump-6000-people-colorado-capitol/

เออร์วินกล่าวว่า การเคลื่อนไหวของรัฐบาลทรัมป์ครั้งนี้เป็น “การรุกรานการเจรจาต่อรองร่วมกันครั้งใหญ่ที่สุดที่เราเคยเห็นในประเทศนี้”

ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ทรัมป์พยายามที่จะปรับเปลี่ยนกำลังแรงงานของรัฐบาลกลาง ในการดำเนินการครั้งแรกๆ ของเขา เขาได้ยุติการทำงานทางไกลสำหรับพนักงานของรัฐ และหน่วยงานต่างๆ ได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการที่จะยกเลิกข้อตกลงการเจรจาต่อรองร่วมกันของสหภาพแรงงานเกี่ยวกับการทำงานทางไกลและการทำงานทางไกล

จนถึงขณะนี้ มีพนักงานอย่างน้อย 121,361 คนที่ถูกไล่ออกจากหน่วยงานของรัฐบาลกลาง จากข้อมูลล่าสุดของ CNN เมื่อวันที่ 28 มีนาคม

มัสก์ ที่ปรึกษาของทรัมป์ที่บริหาร Tesla, SpaceX และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X มีบทบาทสำคัญในการลดขนาดหน่วยงานรัฐในฐานะผู้นำ DOGE ที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่ เขากล่าวว่ากำลังช่วยประหยัดเงินภาษีของประชาชนได้หลายพันล้านดอลลาร์

ลิซ ฮุสตัน ผู้ช่วยโฆษกทำเนียบขาว กล่าวในอีเมลว่า “จุดยืนของประธานาธิบดีทรัมป์ชัดเจน เขาจะปกป้องประกันสังคม Medicare (Medicare เป็นโปรแกรมประกันสุขภาพของรัฐบาลกลางของสหรัฐอเมริกา ที่ให้ความคุ้มครองแก่ผู้สูงอายุ ผู้มีรายได้น้อย และคนพิการ) และ Medicaid สำหรับผู้รับประโยชน์ที่มีสิทธิ์เสมอ ในขณะเดียวกัน จุดยืนของพรรคเดโมแครตคือการมอบสิทธิประโยชน์ประกันสังคม Medicare และ Medicaid ให้กับคนต่างด้าวที่เข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายนั้น จะทำให้โครงการเหล่านี้ล้มละลายและกระทบผู้สูงอายุชาวอเมริกัน”

ผู้ประท้วงถือป้ายในลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่มาภาพ: https://www.euronews.com/2025/04/06/thousands-take-part-in-anti-trump-musk-protests-nationwide-and-abroad

ประท้วงในหลายเมืองที่ยุโรป
เมื่อวันเสาร์ ผู้คนหลายร้อยคนรวมตัวกันในปารีส เบอร์ลิน ลอนดอน ลิสบอน และเมืองอื่นๆ หลายแห่งในยุโรป เพื่อประท้วงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ และที่ปรึกษาของเขา อีลอน มัสก์ การชุมนุมดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ตลาดการเงินทั่วโลกเกิดความวุ่นวายมาเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ หลังจากที่ทรัมป์เปิดเผยมาตรการภาษีศุลกากรครั้งใหญ่

France24รายงานว่า ในกรุงปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศส มีผู้คนราว 200 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวอเมริกัน รวมตัวกันที่จัตุรัส Place de la Republique เพื่อประท้วงต่อต้านทรัมป์ บางคนกล่าวปราศรัยประณามประธานาธิบดี โดยผู้ประท้วงโบกป้ายข้อความต่างๆ เช่น “ต่อต้านทรราช” “หลักนิติธรรม” “นักเคลื่อนไหวเพื่อเสรีภาพ ไม่ใช่ฟาสซิสต์” และ “ปกป้องประชาธิปไตย” ส่วนคนหนึ่งร้องเพลงและเล่นเพลง Masters of War ของบ็อบ ดีแลน

ในเยอรมนีผู้ประท้วงถือป้ายประท้วงหน้าโชว์รูมของ Tesla ในกรุง เบอร์ลินเพื่อเรียกร้องให้เพื่อนร่วมชาติชาวอเมริกันที่อาศัยอยู่ในเยอรมนีออกมาประท้วงเพื่อ “ยุติความวุ่นวาย” ที่บ้านเกิด ป้ายประท้วงมัสก์มีข้อความว่า “หุบปากอีลอน ไม่มีใครโหวตให้คุณ” และมีสุนัขถือป้ายที่เขียนว่า “สุนัขต่อต้าน DOGE” ซึ่งหมายถึงทบวงประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาล (DOGE) ซึ่งบริหารโดยมัสก์ที่ปรึกษาอาวุโส และเป็นโครงการริเริ่มของรัฐบาลทรัมป์ชุดที่สองเพื่อลดการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือย การฉ้อโกง และการละเมิดของรัฐบาลกลาง

ส่วนในเมืองแฟรงก์เฟิร์ต การประท้วง “Hands Off!” จัดโดย Democrats Abroad ซึ่งเป็นองค์กรอย่างเป็นทางการของพรรคเดโมแครตสำหรับพลเมืองสหรัฐฯ ที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ

สมาชิกกลุ่มเดโมแครตจากต่างประเทศรวมตัวกันที่ Opernplatz เมืองแฟรงก์เฟิร์ต เรียกร้องให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลาออก พร้อมติดป้ายข้อความว่า “ฟื้นฟูประชาธิปไตย” “อย่าแตะต้องข้อมูลส่วนตัวของเรา” และ “โลกเบื่อหน่ายกับความไร้สาระของคุณแล้ว โดนัลด์ ออกไปซะ!”

การประท้วงในลิสบอน โรปตุเกส ที่มาภาพ: https://www.france24.com/en/europe/20250405-hundreds-gather-across-europe-protest-against-trump-musk-hands-off-democrats

ส่วนที่ลอนดอน ประเทศ อังกฤษ มีผู้คนหลายร้อยคนรวมตัวกันที่จัตุรัสทราฟัลการ์ ถือป้ายที่มีข้อความว่า “ชาวอเมริกันผู้ภาคภูมิใจและอับอาย” และ “WTAF อเมริกา?” ฝูงชนตะโกนว่า “อย่าแตะต้องแคนาดา” “อย่าแตะต้องกรีนแลนด์” และ “อย่าแตะต้องยูเครน” ขณะฟังคำปราศรัยวิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์

โดยรวมแล้ว คาดว่าจะมีการชุมนุมเกือบ 700 จุดทั่วโลก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมระดับโลกหนึ่งวันเต็มที่มีต่อประธานาธิบดีทรัมป์