ในสถานการณ์โลกรวน การมุ่งสู่เป้าหมาย carbon neutrality และ net zero ของทุกภาคส่วนต่างเดินหน้าทำ mitigation การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ตามข้อตกลง COP ต่างๆ เพื่อชะลอไม่ให้อุณหภูมิสูงเกิน 1.5-2 องศาเซลเซียส แต่ความเป็นไปได้ดูจะรางเลือน หลายกลุ่มจึงมองว่าทางรอดของมนุษยชาติที่ดีสุดคือการ adaptation ของทุกคน ชุมชน องค์กร ประเทศ ล้วนต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต ธุรกิจ เพราะการทำแค่ mitigation ไม่เพียงพอแล้ว
สำนักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้า พูดคุยกับ ดร.วิรไท สันติประภพ ประธานกรรมการ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ) ว่าด้วยเรื่อง adaptation ประเทศไทยควรทำความเข้าใจเรื่องนี้อย่างไร ผลกระทบต่อโลก ความเสี่ยงต่อระบบเศรษฐกิจไทย ตลอดจนข้อเสนอแนะถึงผู้มีอำนาจในการกำหนดนโยบายและปฏิบัติ
ดร.วิรไท กล่าวถึงสถานการโลกรวนว่า หากย้อนกลับไป 10-15 ปีที่แล้วมีพูดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate change) ต่อมามีการพูดวิกฤติสภาพภูมิอากาศ (climate crisis) แต่ตอนนี้มีความเห็นตรงกันว่าเป็นหายนะของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate catastrophe) เป็นการยกระดับขึ้นมาเรื่อยๆ ดังนั้น หากมองไปข้างหน้าภาวะโลกรวนจะเป็นความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติ ซึ่งจะมีผลกระทบอย่างกว้างไกลมาก
ดร.วิรไท กล่าวว่า “สังคมมักเข้าใจผิดระหว่าง mitigation และ adaptation ซึ่งทั้งสองคำนี้มีความหมายแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง”
mitigation คือมาตรการที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อลดสภาวะโลกร้อน ควบคุมการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของโลกให้อยู่ภายใต้เป้าหมายที่ตกลงกัน ไม่ว่าจะเป็น net zero, carbon neutrality, BCG
ขณะที่ adaptation คือมาตรการปรับตัวเพื่อรับมือกับสภาวะลมฟ้าอากาศที่มีแนวโน้มแปรปรวนมากขึ้น ที่ผ่านมา adaptability ของไทยต่ำในหลายมิติ โดยเฉพาะในภาครัฐไทย ที่ติดกรอบวิธีคิด วิธีการทำงานแบบบนลงล่าง เน้นกระบวนการมากกว่าผลลัพธ์ ทำงานกันแบบแยกส่วน และติดพันธนาการด้วยกฎหมายล้าสมัย ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการทำงานได้ และยังเป็นอุปสรรคต่อการปรับตัวของภาคเอกชน
คำถามคือ เราต้องทำอย่างไรให้ adaptation เกิดขึ้นจริงในสังคมไทย ดร.วิรไทกล่าวว่า ประเทศไทยขาดแทบจะทุกอย่าง เมื่อเทียบกับหลายประเทศทั้งประเทศที่พัฒนาแล้ว และที่ระดับการพัฒนาต่ำกว่าประเทศไทย เพราะเราคิดและวางแผนเรื่องนี้ช้าไปกว่า 10 ปี
อ่านบทความฉบับเต็ม “Adaptation” ปรับตัว-อยู่รอด ในภาวะ ‘climate catastrophe’ โลกร้อน-โลกเดือด-โลกรวน กับ “วิรไท สันติประภพ” ได้ที่เว็บไซต์ไทยพับลิก้า