
ที่มาภาพ : www.thaigov.go.th/
ครม.ไฟเขียวแก้ ‘กฎหมายฟ้องชู้’ เปิดโอกาสให้ผู้ฟ้องหย่า เรียกค่าเสียหายจาก ‘ชู้’ มีผลบังคับใช้แล้ว ตั้งแต่ 22 ม.ค. 2568 เป็นต้นไป
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2568 ที่ประชุม ครม.มีมติรับทราบการแก้ไขมาตรา 1523 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 ที่แก้ปัญหาความไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 27 วรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสาม ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 13/2567
โดยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ปัจจุบัน) สาระสำคัญ ดังนี้ มาตรา 1523 เมื่อศาลพิพากษาให้หย่ากัน เพราะเหตุ ตามมาตรา 1516 (1) คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีสิทธิได้รับค่าทดแทนจากคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่ง และจากผู้ซึ่งได้รับการอุปการะเลี้ยงดู หรือ ยกย่อง หรือ ผู้ซึ่งเป็นเหตุแห่งการหย่านั้น คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งไปในทำนองชู้ หรือ จากผู้ซึ่งแสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงตนว่ามีความสัมพันธ์กับคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งในทำนองชู้ก็ได้ ถ้าคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยินยอม หรือ รู้เห็นเป็นใจให้อีกฝ่ายหนึ่งกระทำการตามมาตรา 1516 (1) หรือ ให้ผู้อื่นกระทำการ ตามวรรคสอง คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนั้นจะเรียกค่าทดแทนไม่ได้
ทั้งนี้ การแก้ไขปรับปรุงบทบัญญัติดังกล่าว เป็นการแก้ไขข้อความจากเดิมที่ใช้คำว่า “สามี หรือ ภริยา” และ “ชู้สาว” เป็น “คู่สมรสฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง” และ “คู่สมรสฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งในทำนองชู้” ซึ่งการปรับปรุงกฎหมายดังกล่าวจะส่งผลให้การเรียกค่าทดแทนของคู่สมรสแต่ละฝ่าย เกิดความเท่าเทียมกัน และสร้างความเป็นธรรมต่อบุคคล โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 22 มกราคม 2568 เป็นต้นไป