
ความมั่งคั่งรวมของเศรษฐีพันล้านในโลกพุ่งสูงขึ้น 121% ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมามีมูลค่า 14 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ จากรายงานล่าสุดของธนาคารยูบีเอส (UBS) ของสวิตเซอร์แลนด์ โดยความมั่งคั่งของมหาเศรษฐีด้านเทคโนโลยีเพิ่มเร็วที่สุด
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 UBS ปิดตัวรายงาน UBS Billionaire Ambitions Reportฉบับครอบปีที่ 10 ซึ่งติดตามความมั่งคั่งของเศรษฐีพันล้านมากกว่า 2,500 รายทั่วอเมริกา ยุโรปตะวันออกกลางและแอฟริกา (EMEA) และ เอเชียแปซิฟิก (APAC) โดยเน้นไปที่ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ธนาคาร UBS ยังได้ดำเนินการสำรวจออนไลน์เกี่ยวกับมุมมองของกลุ่มตัวอย่างลูกค้ามหาเศรษฐีของ UBS ในภูมิภาคหลักๆ ของโลก
UBS Billionaire Ambitions Report ซึ่งจัดทำเป็นปีที่ 10 แล้ว เป็นรายงานการศึกษาด้านการบริหารความมั่งคั่งของเศรษฐีพันล้านในยุคปัจจุบันที่มีมายาวนานและครอบคลุมที่สุด
“เป็นเวลา 10 ปีแล้วที่รายงานได้บันทึกการเติบโตและการลงทุนของความมั่งคั่งที่มหาศาล รวมไปถึงวิธีการดูแลรักษาเพื่อคนรุ่นต่อไป และเคยส่งผลเชิงบวกต่อสังคม” เบนจามิน คาวาลี Head of Strategic Clients ของ UBS Global Wealth Management กล่าวและว่า “รายงานฉบับครบรอบนี้จะย้อนกลับไปดูสิ่งที่รายงานพบในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเพื่อแสดงถึงการพัฒนาที่สำคัญในความมั่งคั่งของเศรษฐีพันล้าน
วิวัฒนาการของธุรกิจเทคโนโลยีที่พัฒนา AI และนักนวัตกรรม ส่งผลให้เศรษฐีพันล้านด้านเทคโนโลยีในปัจจุบันมีความมั่งคั่งเฉลี่ยสูงสุดที่ 70.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตามจำนวนยังค่อนข้างน้อย ความมั่งคั่งค่อนข้างกระจุกตัวในกลุ่มนี้ เพราะมีหุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่ในสหรัฐฯ เพียงไม่กี่ตัวที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูง
และนอกเหนือจากเศรษฐีพันล้านด้านเทคโนโลยีแล้ว ความมั่งคั่งยังเคลื่อนไปด้านบน และ…
ความมั่งคั่งก็ค่อนข้างกระจุกตัวมากขึ้น ในปี 2558 เศรษฐีพันล้านที่ร่ำรวยที่สุด 100 คนแรกมีความมั่งคั่งคิดเป็น 32.4% ของความมั่งคั่งเศรษฐีพันล้านทั้งหมด ในปี 2567 ความมั่งคั่งของเศรษฐีพันล้านที่ร่ำรวยที่สุด 100 คนแรกคิดเป็น 36% ของความมั่งคั่งเศรษฐีพันล้านทั้งหมด
อเมริกาเหนือมีสัดส่วนมากที่สุดใน 100 อันดับแรกเศรษฐีพันล้านคือ 43% มีเพียง 21% อยู่ในยุโรปตะวันตก ตามด้วย 15%ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (รวมถึงอินเดีย) และ 8% ในจีน
เกือบครึ่งหนึ่งของมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุด 100 อันดับแรกอยู่ในภาคผู้บริโภคและการค้าปลีกและวัสดุ ซึ่งแต่ละภาคส่วนคิดเป็น 24% ตามมาด้วยภาคเทคโนโลยีและภาคบริการทางการเงิน ซึ่งต่างมีสัดส่วน 16%

จับชีพจรการสร้างความมั่งคั่งระดับโลก
ระหว่างปี 2558 ถึง 2567 ความมั่งคั่งรวมของเศรษฐีพันล้านทั่วโลกเพิ่มขึ้น 121% จาก 6.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐเป็น 14.0 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ดัชนี MSCI (MSCI AC World Index) ของหุ้นทั่วโลกเพิ่มขึ้น 73% ในช่วงเวลาเดียวกัน จำนวนเศรษฐีพันล้านเพิ่มขึ้นจาก 1,757 เป็น 2,682 คน และแตะระดับสูงสุดในปี 2564 โดยมีเศรษฐีพันล้าน 2,686 คน ตั้งแต่นั้นมาก็ทรงตัว
ตั้งแต่ปี 2558 ถึง 2563 ความมั่งคั่งของเศรษฐีพันล้านทั่วโลกเติบโตในอัตรา 10% ต่อปี ตั้งแต่ปี 2563 การเติบโตชะงักอยู่ที่ 1% แต่จำนวนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในสหรัฐอเมริกา EMEA และบางส่วนของเอเชีย โดยเฉพาะอินเดีย
ในช่วงเวลาเดียวกัน ผลกระทบของพลวัตและความแข็งแกร่งของเศรษฐีพันล้านจีนเห็นได้อย่างชัดเจน ความมั่งคั่งของเศรษฐีพันล้านจีนเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าในช่วงปี 2558 ถึงปี 2563 เพิ่มขึ้นจาก 887.3 พันล้านเหรียญสหรัฐเป็น 2.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ตั้งแต่นั้นมาก็ลดลงเหลือ 1.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตาม จำนวนเศรษฐีพันล้านโดยรวมยังคงทรงตัว
ในทางตรงกันข้าม การสะสมความมั่งคั่งของเศรษฐีพันล้านในอเมริกาเหนือยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2558 ถึง 2563 ความมั่งคั่งของเศรษฐีพันล้านในอเมริกาเหนือเพิ่มขึ้นจาก 2.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐเป็น 3.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และตั้งแต่ปี 2563 ถึง 2567 เพิ่มขึ้น 58.5% เป็น 6.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ นำโดยเศรษฐีพันล้านในภาคอุตสาหกรรมและภาคเทคโนโลยี
ในยุโรปตะวันตก การสะสมความมั่งคั่งชะลอตัวเล็กน้อยตั้งแต่ปี 2563 เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น โดยเพิ่มขึ้นจาก 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐเป็น 2.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐจากปี 2558 ถึงปี 2563 ก่อนที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 2.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2567 นำโดยเศรษฐีพันล้านด้านเทคโนโลยีในสาขาต่าง ๆ ตั้งแต่ซอฟต์แวร์ไปจนถึงการส่งข้อความและบริการสตรีมเพลง (music streaming)
ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยี
แม้ว่าความแตกต่างในระดับภูมิภาคจะเกิดขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีก็มีบทบาทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ความมั่งคั่งของเศรษฐีพันล้านด้านเทคโนโลยีเติบโตเร็วที่สุดมากกว่าบรรดาภาคส่วนอื่น ๆ โดยเพิ่มขึ้น 3 เท่าจาก 788.9 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2558 เป็น 2.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 2567
ในปีก่อนหน้านี้ เศรษฐีพันล้านหน้าใหม่ทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โซเชียลมีเดีย และการชำระเงินดิจิทัล เมื่อเร็วๆ นี้ พวกเขาได้สร้างการเติบโตของ generative AI ในขณะเดียวกันก็พัฒนาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ฟินเทค การพิมพ์ 3 มิติ และหุ่นยนต์ด้วย ส่วนความมั่งคั่งของเศรษฐีพันล้านในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มจาก 480.4 พันล้านเหรียญสหรัฐเป็น 1.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากประเทศต่างๆ ลงทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะในเศรษฐกิจสีเขียว เพื่อรับมือกับความท้าทายด้านประชากร และเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจที่แนวโน้มการย้ายฐานการผลิตสินค้าและบริการในต่างประเทศกลับมาตั้งฐานการผลิตในประเทศแม่ (reshoring) มีมากขึ้น การแทรกแซงนโยบายอุตสาหกรรมเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจที่ก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เช่น การบินและอวกาศ การป้องกันประเทศ และยานยนต์ไฟฟ้า
ภาคส่วนอื่นๆ ที่ตามหลังคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เศรษฐีพันล้านด้านอสังหาริมทรัพย์มีความมั่งคั่งที่สอดคล้องกับภาคส่วนอื่นที่ทำการศึกษาจนถึงปี 2560 แต่ก็ตกหลังตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อาจเนื่องมาจากการตกต่ำของตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีน การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เกิดจากไวรัส Covid-19 ในบางส่วนของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ และจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นของสหรัฐฯ และยุโรป

หุ้น อสังหาริมทรัพย์ ทองคำ
มุมมองของเศรษฐีพันล้านเกี่ยวกับประเภทสินทรัพย์กำลังเปลี่ยนไป ในช่วงเวลาที่อัตราดอกเบี้ยดูเหมือนจะเริ่มมีวงจรผ่อนคลายในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ซึ่งอาจหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในอีก 12 เดือนข้างหน้า 43% ของเศรษฐีพันล้านตั้งใจที่จะเพิ่มความเสี่ยงในอสังหาริมทรัพย์ และ 42% ในตลาดหุ้นที่พัฒนาแล้ว ในขณะเดียวกัน กำลังเพิ่มการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย การสำรวจพบว่า 40% ตั้งใจที่จะเพิ่มความเสี่ยงในทองคำ / โลหะมีค่าในช่วง 12 เดือนข้างหน้าและ 31% เลือกถือเงินสด ซึ่งอาจสะท้อนถึงความกลัวความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่สูงขึ้นและการมูลค่าตลาดหุ้น
สำหรับสินทรัพย์ทางเลือก เศรษฐีพันล้านยังคงลงทุนต่อไป ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการกระจายความเสี่ยง แต่มีการเปลี่ยนแปลงบ้าง ในขณะที่ 38% ยังคงตั้งใจที่จะเพิ่มการถือครองหุ้นนอกตลาดโดยตรง มีเพียง 28% เท่านั้นที่วางแผนที่จะเพิ่มกองทุนหุ้นนอกตลาด( private equity funds) / กองทุนรวมหน่วยลงทุน(funds of funds holdings) โดย 34% วางแผนที่จะลดการถือครองกองทุนทั้งสองประเภท อีก 26% ตั้งใจที่จะเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและมากกว่าหนึ่งในสาม (35%) จะลงทุนหุ้นกู้ภาคเอกชน ในขณะเดียวกัน กองทุนเฮดจ์ฟันด์กำลังได้รับความนิยมน้อยลง โดย 27% ตั้งใจที่จะลดการลงทุน และ 23% ต้องการเพิ่มการลงทุน เศรษฐีพันล้าน 32% กล่าวว่าพวกเขาวางแผนที่จะเพิ่มการถือครองงานศิลปะและโบราณวัตถุ เทียบกับ 11% ในปีก่อนหน้า
เศรษฐีพันล้านกำลังย้ายถิ่น
การระบาดใหญ่ของโควิด-19 กระตุ้นให้ผู้คนจำนวนมากตื่นตัวและทำให้ต้องประเมินชีวิตของตนเองใหม่ เศรษฐีพันล้านก็ไม่มีข้อยกเว้น เนื่องจากบ้าน ครอบครัว และธุรกิจกระจายอยู่ในประเทศต่างๆ เศรษฐีพันล้านจึงมักย้ายที่อยู่อยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี 2563 เศรษฐีพันล้านย้ายถิ่นบ่อยขึ้น โดยในเดือนเมษายน 2567 มีเศรษฐีพันล้าน 176 คนจากจำนวนทั้งหมด 2,682 คน หรือคิดเป็น 1 ใน 15 ย้ายถิ่น
พวกเขากำลังย้ายไปประเทศต่างๆ เช่น สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา โดยรวมแล้ว เศรษฐีพันล้านซึ่งมีมูลค่าความมั่งคั่งมากกว่า 4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐได้ย้ายถิ่นไปภายในสี่ปี โดยภูมิภาค MEA ดึงดูดเศรษฐีพันล้านได้มากที่สุด
แต่ละภูมิภาคแตกต่างกันมาก
เศรษฐีพันล้านสหรัฐสะสมความมั่งคั่งสูงสุดในปี 2567 ตอกย้ำประเทศที่เป็นศูนย์กลางหลักสำหรับผู้ประกอบการเศรษฐีพันล้านทั่วโลก ความมั่งคั่งของเศรษฐีพันล้านเพิ่มขึ้น 27.6% เป็น 5.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นมากกว่า 40% ของความมั่งคั่งของเศรษฐีพันล้านทั่วโลก จำนวนเศรษฐีพันล้านในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 11.2% เป็น 835 ราย มีเศรษฐีพันล้านสหรัฐฯ รายใหม่ 101 ราย ขณะที่ 20 รายมีความมั่งคั่งลดลงต่ำกว่าระดับพันล้าน
เศรษฐีพันล้านในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ก็มีปีที่ดีเช่นกัน ในบราซิล มีเศรษฐีพันล้านหน้าใหม่ 19 ราย ส่งผลให้เพิ่มขึ้นเป็น 60 ราย และความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น 37.7% เป็น 154.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยรวมแล้ว เศรษฐีพันล้านในอเมริกากลางและใต้มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น 20.8% เป็น 411.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่จำนวนเพิ่มขึ้นจาก 74 เป็น 92
ทั่วทั้งภูมิภาคอเมริกา จำนวนเศรษฐีพันล้านเพิ่มขึ้นจาก 867 เป็น 973 ราย และความมั่งคั่งก็เพิ่มขึ้น 26.9% เป็น 6.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
ในภูมิภาค APAC มีภาพผสมกัน ความมั่งคั่งของเศรษฐีพันล้านจากจีนแผ่นดินใหญ่และเขตบริหารพิเศษฮ่องกงลดลง 16.8% เหลือ 1.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่จำนวนลดลงจาก 588 เหลือ 501 ในตลาดที่มีอัตราเศรษฐีพันล้านผันผวนสูง ความมั่งคั่งของเศรษฐีพันล้าน 138 คนลดลงต่ำกว่าระดับพันล้าน ขณะที่ 53 คนกลายเป็นเศรษฐีพันล้าน
ที่อื่นๆ ในภูมิภาค APAC ความมั่งคั่งของเศรษฐีพันล้านอินเดียเพิ่มขึ้น 42.1% เป็น 905.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่จำนวนเพิ่มขึ้นจาก 153 เป็น 185 คน โดยมี 40 คนที่กลายเป็นเศรษฐีพันล้านจากราคาหุ้นที่สูงขึ้นและการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ในภูมิภาค APAC การเติบโตของความมั่งคั่งของเศรษฐีพันล้านทรงตัว โดยเพิ่มขึ้น 1.8% เป็น 3.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ จำนวนเศรษฐีพันล้านลดลงจาก 1,019 เหลือ 981
ใน EMEA ความมั่งคั่งรวมของเศรษฐีพันล้านในยุโรปตะวันตกเพิ่มขึ้น 16.0% เป็น 2.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้น 23.8% ของเศรษฐีพันล้านชาวสวิส จำนวนเศรษฐีพันล้านยุโรปตะวันตกเพิ่มขึ้นจาก 456 คนเป็น 495 คน
ภายในตะวันออกกลางและแอฟริกา ความมั่งคั่งรวมของเศรษฐีพันล้านในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพิ่มขึ้น 39.5% เป็น 138.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยจำนวนเศรษฐีพันล้านเพิ่มขึ้น 1 ต่อ 18 โดยรวมแล้ว ความมั่งคั่งเศรษฐีพันล้านของ EMEA เพิ่มขึ้น 17.0% เป็น 3.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีจำนวนเศรษฐีพันล้านเพิ่มขึ้น 70 เป็น 728 คน
เศรษฐีพันล้านหน้าใหม่ปีนี้ส่วนใหญ่มาจากการสร้างตัวเอง ผู้ที่กลายเป็นมหาเศรษฐีเป็นครั้งแรกมีจำนวน 268 คน โดย 60% เป็นผู้ประกอบการ ซึ่งสวนทางจากรายงานของปีที่แล้ว ที่เศรษฐีพันล้านหน้าใหม่ส่วนใหญ่เป็นเศรษฐีพันล้านหลายรุ่นที่ได้รับมรดกทางเงิน ในขณะที่การเปลี่ยนผ่านความมั่งคั่งครั้งใหญ่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สัดส่วนของเศรษฐีหลายรุ่นก็คาดว่าจะเพิ่มขึ้น

มองไปข้างหน้า
เมื่อมองไปอีก 10 ปีข้างหน้า เศรษฐีพันล้านต้องเผชิญกับโลกที่ไม่แน่นอน เห็นได้ชัดว่ารัฐบาลต้องสร้างสมดุลระหว่างวินัยทางการคลังกับการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในประเทศที่เกี่ยวข้องกับประชากรสูงวัย ในขณะเดียวกัน ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์จะยังคงสูง และมีอุปสรรคต่อการค้าระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ในสถานการณ์เช่นนี้ ผู้ประกอบการเศรษฐีพันล้านจะต้องมีคุณสมบัติที่โดดเด่นซึ่งรายงานฉบับที่แล้วระบุว่าเป็นปัจจัยสู่ความสำเร็จ คือ การกล้าเสี่ยงอย่างชาญฉลาด การมุ่งเน้นทางธุรกิจ และความมุ่งมั่น
จากการศึกษษของรายงานนี้ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เศรษฐีพันล้านที่กล้าเสี่ยงมีแนวโน้มที่จะเป็นผู้นำในการสร้างอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่กำลังเป็นรูปเป็นร่างขึ้นแล้วสองด้าน คือ GENERATION AI และพลังงานหมุนเวียน / การปรับเปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้า รายงานปีนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ก่อตั้งซึ่งเป็นซีอีโอด้านเทคโนโลยีกำลังเป็นผู้นำในการดำเนินตามวิสัยทัศน์ของตนด้วยความเชื่อมั่นสูงและพร้อมที่จะเสี่ยง
ในโลกที่ครอบครัวของเศรษฐีพันล้านมีความซับซ้อนและสัญจรมากขึ้น การวางแผนความมั่งคั่งจะยังคงพัฒนาต่อไป โดยจะยังคงเน้นย้ำถึงความเรียบง่ายที่ทำให้เกิดความยืดหยุ่นที่จำเป็นสำหรับครอบครัวที่มีหลายระดับที่อาศัยอยู่ทั่วโลก ซึ่งอาจเลือกที่จะย้ายประเทศเป็นครั้งคราว แต่จะมีการมุ่งเน้นที่ความต้องการของสมาชิกในครอบครัวแต่ละคนให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยตระหนักว่าทุกคนมีจุดแข็งและความทะเยอทะยานที่แตกต่างกัน ธรรมาภิบาลครอบครัวจะยังคงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมของคนรุ่นต่อไป
ในช่วง 10 ปีของการศึกษา เศรษฐีพันล้านหลายรุ่นได้รับมรดกรวม 1.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ จำนวนนี้ต่ำกว่ามูลค่ามรดกทั้งหมดเนื่องจากทายาทจำนวนมากยังไม่ได้กลายเป็นเศรษฐีพันล้าน เมื่อมองไปข้างหน้า UBS คำนวณว่าเศรษฐีพันล้านที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไปจะโอนเงิน 6.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ในอีก 15 ปีข้างหน้า โดยส่วนใหญ่จะให้กับครอบครัว แต่ก็ดูถึงสิ่งที่เลือกด้วย ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากประมาณการปี 2566 ที่ 5.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในช่วง 20 – 30 ปี เป็นผลจากเงินเฟ้อของราคาสินทรัพย์และการสูงวัยของเศรษฐีพันล้าน