ThaiPublica > เกาะกระแส > Harvard Business Review วิเคราะห์ปัจจัย 3 อย่าง ทำให้จีนขึ้นเป็นผู้นำอุตสาหกรรมรถยนต์ EV

Harvard Business Review วิเคราะห์ปัจจัย 3 อย่าง ทำให้จีนขึ้นเป็นผู้นำอุตสาหกรรมรถยนต์ EV

8 พฤศจิกายน 2024


รายงานโดย ปรีดี บุญซื่อ

BYD Seagull electric car โชว์ในงาน Shanghai Auto Show 2023

รายงานล่าสุดของ Bloomberg Businessweek เรื่อง China’s EV Offensive เริ่มต้นเรื่องราวว่า BYD กำลังส่งออกรถยนต์ EV ออกไปท่วมท้นตลาดโลก ขณะที่สหรัฐอเมริกาทำทุกอย่างเพื่อให้รถยนต์ EV ยี่ห้อจีนไม่สามารถเจาะตลาดสหรัฐฯ มอลตาประเทศเล็กๆ ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ประชากร 5 แสนคน ปีที่แล้วมีรถยนต์ใหม่จดทะเบียนแค่ 7,200 คัน แต่ทว่า ตลาดรถยนต์มอลตาไม่เคยเล็กเกินไปเลยสำหรับ BYD

BYD ส่งออกไปถึง 95 ประเทศ

ปลายปี 2023 BYD เริ่มส่งออกรถยนต์ EV Atto 3 ไปมอลตา รถมีแบตเตอรี่ขนาด 60 กิโลวัตต์ต่อ ชม. ระยะทางวิ่ง 416 กม. ในราคา 28,000 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์บอกว่า BYD จะบุกตลาดประเทศเกิดใหม่ที่ไม่มีอุตสาหกรรมรถยนต์ของตัวเอง ตลาดแบบนี้เปรียบเหมือนเนื้อไก่ชิ้นเล็กๆ เมื่อเอาเนื้อไก่ชิ้นเล็กทั้งหมดมารวมกัน จะมากกว่า 10 ล้านคัน

ภายในเวลา 3 ปี ยอดขายรถในจีนของ BYD เพิ่ม 15 เท่าเป็น 3 ล้านคัน ปัจจุบันนี้ BYD ส่งออกไป 95 ประเทศ เฉพาะปีนี้ส่งไปตลาดใหม่ใน 20 ประเทศ มีโรงงานผลิตรถยนต์ EV ที่เปิดแล้ว และมีแผนจะเปิดในอนาคต 10 ประเทศ ธุรกิจที่ขยายตัวรวดเร็ว และครอบคลุมตลาดกว้างขวางหลายประเทศ ทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์ในหลายประเทศตกใจถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นทันทีทันใด เป็นชนวนทำให้สหรัฐฯ และอียูใช้กำแพงภาษี เพราะกลัวในสิ่งที่อีลอน มัสก์ บอกว่า ผู้ผลิตรถ EV จีน เช่น BYD “จะทำลายผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศอย่างสิ้นเชิง”

เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รัฐบาลโจ ไบเดน ขึ้นภาษีนำเข้า 100% กับรถยนต์ EV นำเข้าจากจีน เดือนกันยายน ไบเดนเสนอให้ห้ามการนำเข้ารถยนต์ที่ใช้ฮาร์ดแวร์กับซอฟต์แวร์ของจีน เพราะกังวลเรื่องความมั่นคงของประเทศ รถยนต์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตอาจเป็นเครื่องมือจีนในสงครามไซเบอร์ เดือนตุลาคม อียูเก็บภาษีนำเข้า 17% กับรถยนต์ BYD หลังจากไต่สวนเรื่องการอุดหนุนของรัฐบาลจีนกับรถยนต์ EV

แต่บทความของ Bloomberg Businessweek กล่าวว่า สิ่งที่ผู้บริหารของ BYD กำลังทำอยู่ คือพยายามขายรถยนต์ และต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ รวมทั้งต้องการทำในสิ่งที่บริษัทรถยนต์จีนไม่เคยทำได้มาก่อน คือ กลายเป็น “ตราสินค้าผู้บริโภค” ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก สเตลลา ลี ผู้บริหารของ BYD ในอเมริกา ให้สัมภาษณ์ว่า “ต้องการให้คนมอง BYD เป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยี เหมือนเวลาที่เราใช้ iPhone เราไม่ได้คิดว่ามาจากประเทศไหน แต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา”

ปัจจุบัน บริษัทรถยนต์สหรัฐฯ และญี่ปุ่นต้องหาหนทางว่าจะแข่งขันกับ BYD อย่างไร เพราะรู้ดีว่า ลำพังการใช้การเก็บภาษีนำเข้าสูงจะไม่ช่วยอะไรมาก เป็นเวลาหลายปีที่บริษัทรถยนต์ดั้งเดิมไม่สามารถหาเหตุผลได้ว่า ทำไมต้องทิ้งรถยนต์ใช้น้ำมันที่สร้างผลกำไรสูง เพื่อไปหารถยนต์ใช้เทคโนโลยีใหม่และต้องลงทุนมากมายอย่างรถยนต์ EV ทุกวันนี้ ก็ยังไม่ชัดเจนว่าบริษัทรถยนต์เหล่านี้ จะไล่ตาม BYD อย่างไร

Stella Li CEO ของ บริษัท BYD America ที่มาภาพ : Motor Trend

ความสำเร็จของจีนที่มาจาก 3 ปัจจัย

บทความของ Harvard Business Review เรื่อง 3 Drivers of China’s Booming Electric Vehicle Market วิเคราะห์ว่า การที่จีนมีตลาดรถยนต์ในประเทศขนาดใหญ่ รวมทั้งการสนับสนุนทางการเงินจากรัฐบาล มีส่วนทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์ EV เติบโตขึ้นมา แต่ไม่ใช่ทุกประเทศที่มีเงื่อนไขแบบเดียวกับจีนจะประสบความสำเร็จในแบบเดียวกับจีน จีนยังมีอีก 3 ปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตของรถยนต์ EV

  • 1. เริ่มทดลองจากอุตสาหกรมข้างเคียง
  • จีนเริ่มต้นขับเคลื่อนอุตสาหกรรมรถยนต์ EV ช้ากว่าสหรัฐฯ แม้สองประเทศจะมีนโยบายรัฐบาลที่คล้ายกันในเรื่องการสนับสนุนทั้งบริษัทผู้ผลิตรถยนต์และผู้บริโภค แต่ทว่าในระยะแรก บริษัทผู้ผลิตจีนไม่ได้เริ่มต้นดำเนินการตรงๆ กับการผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคล EV

    อีลอน มัสก์ สร้างรถยนต์ Tesla เป็นสัญลักษณ์การบุกเบิกรถยนต์ EV ทำให้เกิดกระแสในสหรัฐฯ และทั่วโลก สำหรับผู้ผลิตรถยนต์ของจีน เช่น BYD และ Geely แทนที่จะตั้งเป้าที่อุตสาหกรรมรถยนต์ EV แบบเดียวกับ Tesla แต่ไปเริ่มต้นการพัฒนารถยนต์ EV ที่อุตสาหกรรมใกล้เคียงก่อน คือรถโดยสาร EV และมอเตอร์ไซค์ EV ประสบการณ์จากอุตสาหกรรมเหล่านี้มีส่วนทำให้ผู้ผลิตจีนพัฒนากลยุทธ์การผลิตรถยนต์ EV ในเวลาต่อมา

    รถโดยสาร EV มีทั้งน้ำหนักและบรรทุกคนนั่งในจำนวนมาก ใช้งานวันหนึ่ง 18 ชม. จึงต้องการแบตเตอรี่ที่มีทั้งพลังงานและการบรรจุพลังงานในปริมาณมาก การชาร์จแบตเตอรี่ก็ใช้เวลานาน การที่ BYD เริ่มต้นที่อุตสาหกรรมข้างเคียงก่อน คือการผลิตรถโดยสาร EV ทำให้ในปี 2009 BYD สามารถขยายข้อจำกัดของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ EV ออกไป ปี 2015 BYD กลายเป็นบริษัทที่จัดหารถบัส EV ให้กับเมืองลอสแอนเจลิส

    Geely เริ่มต้นจากการผลิตมอเตอร์ไซค์ EV ที่มาภาพ : geelymotor.cn

    ส่วน Geely เริ่มต้นจากอุตสาหกรรมข้างเคียงอีกแบบหนึ่ง คือ รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ที่มีปัญหาท้าทายที่ต่างไปจาก BYD คือต้องการแบตเตอรี่ที่เล็กกว่ารถยนต์ การเริ่มต้นจากรถมอเตอร์ไซค์ ทำให้ต่อมา Geely กลายเป็นหนึ่งในผู้นำในการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ จากการเริ่มต้นด้วยนวัตกรรมแบตเตอรี่ 2 แบบ ทำให้ต่อมา ทั้ง BYD และ Geely กลายเป็นยักษ์ใหญ่รถยนต์ EV

  • 2. ส่งเสริมการแก้ปัญหาการใช้งาน
  • Harvard Business Review กล่าวว่า ปัจจัยที่ 2 ที่ทำให้ตลาดรถยนต์ EV ของจีนพัฒนาพุ่งขึ้นมา เพราะตั้งแต่เริ่มต้น ผู้ผลิตรถยนต์จีนรับรู้ปัญหาท้าทายจากการใช้งานของรถยนต์ EV และได้ทำงานร่วมกับกลุ่มในท้องถิ่นต่างๆ เพื่อแก้ปัญหา รัฐบาลอาจมีมาตรการส่งเสริมรถยนต์ EV แต่นวัตกรรมใหม่ต้องมีปัญหาความยากลำบาก เช่น ในหลายประเทศ รถแท็กซี่ลังเลที่จะใช้รถยนต์ EV เพราะการชาร์จแบตเตอรี่ใช้เวลานาน

    แต่จีนเอาชนะปัญหาการใช้งานของรถยนต์ EV อย่างไร ปี 2009 รัฐบาลจีนให้เงินอุดหนุน 500-8,000 ดอลลาร์ แก่รถนั่ง EV และรถโดยสาร EV ใน 10 เมือง แต่จีนทำมากกว่าเรื่องเงินอุดหนุน เช่น นอกจากการสร้างแหล่งที่ตั้งของสถานีชาร์จ ผู้ผลิต EV ยังทำงานร่วมกับบริษัทรถแท็กซี่ ในการจัดตารางเวลาการชาร์จแบตเตอรี่ของรถแท็กซี่ในแต่ละรอบ เพื่อหลีกเลี่ยงช่วงการใช้ไฟฟ้าจุดสูงสุดของแต่ละเมือง

  • 3. การทุ่มเทให้กับเทคโนโลยีที่สำคัญสุด
  • ผู้ผลิตรถยนต์ยุโรป สหรัฐฯ และญี่ปุ่นมีจุดแข็งเรื่องเทคโนโลยีที่เป็นแก่นของรถยนต์สันดาป แต่จีนล้าหลังเรื่องนี้ ปี 2002 ผู้ผลิตรถยนต์จีนคาดคะเนว่า รถยนต์ EV มีต้นทุนแบตเตอรี่ในสัดส่วน 30–40% ของต้นทุนทั้งหมด จุดนี้ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์รายใหม่ๆ มีโอกาสในการแข่งขัน หากเน้นหนักเทคโนโลยีที่เป็นส่วนสำคัญสุดของการให้พลังการขับขี่ของรถยนต์ EV

    ขณะเดียวกัน อุตสาหกรรม EV ของจีนก็อยู่ใกล้กับแหล่งวัตถุดิบสำคัญ จีนมีส่วนแบ่ง 70% ของการผลิตแร่หายาก ที่เป็นส่วนสำคัญของการผลิตแบตเตอรี่ จุดนี้ทำให้ผู้ผลิตแบตเตอรี่จีนอยู่ในฐานะสำคัญที่จะควบคุม “ห่วงโซ่อุปทาน” การผลิตรถยนต์ EV คือมีความได้เปรียบทั้งในการพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ใหม่ขึ้นมา และอำนาจต่อรองกับซัพพลายเออร์อื่นๆ ที่ไม่ใช่แบตเตอรี่

    รถยนต์ EVและรถมอเตอร์ไซค์ในมณฑลไหหนาน จีน

    การพัฒนาของ BYD คือตัวอย่างความร่วมมืออย่างกว้างขวาง ที่บริษัทจีนมีกับบริษัทต่างๆ BYD เริ่มการเดินทางสู่รถยนต์ EV จากการผลิตแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือให้กับ Nokia และ Motorola ในนาม Yadi Electronics หลังจากนั้น เข้าซื้อกิจการ Qinchuan Machinery Works และผลิตรถยนต์ออกมาปี 2002 ร่วมมือกับ Daimler และ Toyota เพื่อเรียนรู้การผลิตรถยนต์ EV แลกเปลี่ยนกับแชร์ข้อมูลเทคโนโลยีแบตเตอรี่ ปี 2018 ร่วมมือกับ Baidu บริษัทไฮเทคของจีนเรื่องการพัฒนาซอฟต์แวร์

    บริษัทรถยนต์จีนประสบความสำเร็จในการสร้างอุสาหกรรมและตลาดรถยนต์ EV จากการหาทางออกทั้งปัญหาทางเทคโนโลยี และปัญหาภาคปฏิบัติจากการใช้งานของรถยนต์ EV สิ่งนี้ทำให้บริษัทรถยนต์จีนเกิดความเข้าใจอย่างลุ่มลึกว่า อะไรคือสิ่งที่ทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์ EV ก้าวไปข้างหน้า

    เอกสารประกอบ
    China’s EV Offensive, November 2024, Bloomberg BusinessWeek
    3 Drivers of China’s Booming Electric Vehicle Market, January 03, 2024, Harvard Business Review