ThaiPublica > Native Ad > กฟผ.ชู ‘BESS’ ระบบกักเก็บพลังงาน – ลดความผันผวนไฟฟ้า – แบตเตอรี่สำรองพร้อมใช้ยามจำเป็น

กฟผ.ชู ‘BESS’ ระบบกักเก็บพลังงาน – ลดความผันผวนไฟฟ้า – แบตเตอรี่สำรองพร้อมใช้ยามจำเป็น

23 สิงหาคม 2024


กฟผ.ชู ‘BESS’ ระบบกักเก็บพลังงาน – ลดความผันผวนไฟฟ้า – แบตเตอรี่สำรองพร้อมใช้ยามจำเป็น – เปิดใช้งานแล้วที่ ‘ชัยภูมิ – ลพบุรี – แม่ฮ่องสอน’ พร้อมเชื่อมโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ เพิ่มประสิทธิภาพการจ่ายไฟอย่างมั่นคง

พลังงานหมุนเวียนที่เข้ามามีบทบาทและกำลังมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างรวดเร็ว การเติบโตนี้สะท้อนให้เห็นถึงความตระหนักในการแก้ไขปัญหาโลกร้อนที่เพิ่มมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็เป็นความท้าทายอย่างหนึ่งว่าเราจะบริหารจัดการกับข้อจำกัดของพลังงานหมุนเวียนที่ไม่เสถียร นั่นคือ “ระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่” หรือ BESS (Battery Energy Storage System) ซึ่งค่ายใหญ่แห่งวงการพลังงานอย่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้เริ่มนำ BESS มาใช้ในระบบไฟฟ้า เพื่อตอบโจทย์ความมั่นคงทางพลังงานของประเทศไทย

BESS ขุมพลังรักษาความเสถียรพลังงาน

BESS เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีตัวแม่ด้านกักเก็บพลังงานที่นำมาช่วยยกระดับความมั่นคงระบบโครงข่ายไฟฟ้า ประหนึ่ง Rockstar ของวงการพลังงานที่ไม่สามารถขาดได้ เพื่อมาทำหน้าที่สร้างเสถียรภาพให้ระบบไฟฟ้ามีความพร้อมจ่ายตามความต้องการไฟฟ้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง ลดความผันผวนของกระแสไฟฟ้าที่ได้จากพลังงานหมุนเวียน ซึ่งเป็นปัจจัยทางธรรมชาติที่อยู่เหนือการควบคุม เช่น เมฆบดบัง กลางคืนไม่มีแดด บางช่วงเวลาลมก็หยุดพัด และยังเปรียบเสมือนแบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) ที่พร้อมใช้ยามจำเป็นเมื่อความต้องการไฟฟ้ามีเพิ่มมากขึ้น ด้วยหลักการทำงานของ BESS ที่กักเก็บพลังงานในช่วงเวลาหนึ่ง เพื่อนำไปใช้ในอีกช่วงเวลาหนึ่งที่มีความต้องการพลังงาน โดยผ่านการชาร์จแบตเตอรี่ในช่วงเวลาที่มีความต้องการไฟฟ้าต่ำ แล้วนำพลังงานที่กักเก็บเอาไว้มาจ่ายไฟฟ้าเสริมระบบในช่วงที่มีความต้องการไฟฟ้าสูง ช่วยจ่ายไฟฟ้าร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนให้การผลิตไฟฟ้าในภาพรวมมีความผันผวนลดลง และเป็นการเสริมศักยภาพโครงข่ายระบบไฟฟ้าให้สามารถรองรับการเพิ่มขึ้นของพลังงานหมุนเวียนได้อย่างมั่นคง (Grid Modernization)

แกะกล่องพลังงาน BESS

เทคโนโลยี BESS ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เป็นแบตเตอรี่ชนิดลิเธียมไอออนติดตั้งอยู่ภายในตู้คอนเทนเนอร์จึงทำให้เหมือนกับกล่องพลังงานที่มีจุดเด่นหลายประการ เช่น สามารถควบคุมการเพิ่ม หรือ ลดกำลังการจ่ายไฟฟ้าได้รวดเร็ว มีน้ำหนักเบา มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 10 ปี นอกจากนี้ BESS ใช้พื้นที่ในการติดตั้งน้อย สามารถติดตั้งได้ทั้งในบริเวณระบบผลิตและระบบส่งไฟฟ้าตามวัตถุประสงค์การใช้งานที่หลากหลาย เป็นขุมพลังงานที่มีความเสถียร ส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ

ลุยนำ BESS ใช้งานแล้ว

กฟผ. ได้ดำเนินการติดตั้งระบบ BESS ในหลายพื้นที่ ได้แก่ 1. สถานีไฟฟ้าแรงสูงบำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ กำลังไฟฟ้า 16 เมกะวัตต์ และ 2. สถานีไฟฟ้าแรงสูงชัยบาดาล จ.ลพบุรี กำลังไฟฟ้า 21 เมกะวัตต์ เป็นการนำ BESS ไปติดตั้งเชื่อมต่อกับระบบส่งไฟฟ้าในบริเวณสถานีไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนจำนวนมาก เพื่อเตรียมพร้อมรองรับความผันผวนของพลังงานหมุนเวียนในพื้นที่ 3. โครงการสมาร์ทกริดฯ จ.แม่ฮ่องสอน ติดตั้งแบตเตอรี่กำลังไฟฟ้า 5 เมกะวัตต์ ทำงานร่วมกับระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมด้วยระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid) ช่วยจ่ายไฟฟ้าให้กับอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ส่งเสริมนโยบายของกระทรวงพลังงานและจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่ต้องการให้จังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นต้นแบบของจังหวัดสีเขียว

ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานหมุนเวียน BESS พร้อมรับบทบาทเป็นดาวเด่นของระบบไฟฟ้ายุคใหม่ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่มีส่วนช่วยให้การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนมีความเสถียรมากยิ่งขึ้น สร้างโอกาสประเทศไปสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero Emission ได้เร็วขึ้นไปพร้อมกับความมั่นคงทางพลังงาน…