ThaiPublica > ข่าวประชาสัมพันธ์ > มิตซูบิชิ พาวเวอร์ เริ่มเดินเครื่องกังหันก๊าซ M701JAC ตัวที่เจ็ดในเชิงพาณิชย์

มิตซูบิชิ พาวเวอร์ เริ่มเดินเครื่องกังหันก๊าซ M701JAC ตัวที่เจ็ดในเชิงพาณิชย์

25 เมษายน 2024


ข่าวประชาสัมพันธ์

โรงไฟฟ้า GTCC ในจังหวัดระยอง

มิตซูบิชิ พาวเวอร์ เริ่มเดินเครื่องกังหันก๊าซ M701JAC ตัวที่เจ็ดในเชิงพาณิชย์ที่โรงไฟฟ้าในจังหวัดระยองและชลบุรี จนถึงปัจจุบัน กังหันก๊าซในโครงการ GTCC ของประเทศไทยมีชั่วโมงการทำงานจริง (AOH) ครบ 75,000 ชั่วโมงแล้ว

  • โรงไฟฟ้ากังหันก๊าซชุดที่สามจากสี่ชุดของโรงไฟฟ้าในจังหวัดระยองได้รับการส่งมอบเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยชุดที่แปดซึ่งเป็นชุดสุดท้ายจะดำเนินการลุล่วงภายในช่วงปลายปี 2567
  • ระบบผลิตไฟฟ้าหกระบบที่ติดตั้ง ณ โรงไฟฟ้าสองแห่งในจังหวัดระยองและชลบุรีมีชั่วโมงการทำงานจริง (AOH) สะสมถึง 75,000 ชั่วโมงแล้ว

    กรุงเทพฯ 25 เมษายน 2567 – มิตซูบิชิ พาวเวอร์ แบรนด์โซลูชันด้านพลังงานของบริษัทมิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ จำกัด (MHI) ได้เสร็จสิ้นการก่อสร้างและเริ่มเดินเครื่องกังหันก๊าซ M701JAC ชุดที่สามจากสี่ชุด ณ โรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงในจังหวัดระยองเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2567 โรงไฟฟ้าแห่งนี้เป็นกิจการร่วมทุนระหว่าง กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ ผู้ผลิต กระแสไฟฟ้าอิสระ (IPP) รายใหญ่ที่สุดของประเทศไทยกับบริษัท มิตซุย แอนด์ คัมปนี จำกัด

    โรงไฟฟ้าที่จังหวัดระยองตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 130 กม. และดำเนินกิจการโดยบริษัท กัลฟ์ พีดี จำกัด โดยโครงการทั้งหมดประกอบด้วยโรงไฟฟ้า GTCC สองแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งมีกังหันก๊าซสี่ชุด กังหันไอน้ำ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าไอน้ำแบบหมุนเวียนความร้อน และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า

    ความสำเร็จครั้งสำคัญนี้คือการส่งมอบกังหันก๊าซ M701JAC ตัวที่เจ็ดจากแปดตัวของโรงไฟฟ้า GTCC ขนาดใหญ่พิเศษ 2,650 เมกะวัตต์ (MW) ในจังหวัดระยองและชลบุรี* ได้ตามเวลาที่เหมาะสม โดยมีกำลังผลิตรวมกันอยู่ที่ 5,300 เมกะวัตต์ (MW) ระบบผลิตไฟฟ้าทั้งแปดชุดของโรงไฟฟ้าคาดว่าจะดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบได้ภายในช่วงปลายปี 2567 และพร้อมรองรับความต้องไฟฟ้าของศูนย์กลางทางอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาคตะวันออกของประเทศไทย

    M701JAC จำนวนสี่ชุดซึ่งติดตั้ง ณ โรงไฟฟ้ากัลฟ์ ศรีราชา ในจังหวัดชลบุรีเมื่อเดือนตุลาคม 2565 รวมถึงสองระบบในจังหวัดระยองต่างให้บริการได้อย่างราบรื่นจนถึงปัจจุบัน ระบบเหล่านี้มีชั่วโมงการทำงานจริง (AOH) สะสมเกิน 75,000 ชั่วโมง แสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือในระดับสูงของระบบกังหันก๊าซ JAC ที่ล้ำสมัย

    แม้จะมีความท้าทายจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่การก่อสร้างในพื้นที่ยังคงดำเนินต่อไปได้ ความพยายามร่วมกันอย่างขันแข็งระหว่างลูกค้าและผู้รับเหมาของมิตซูบิชิ พาวเวอร์ ซึ่งเป็นแบรนด์โซลูชันด้านพลังงาน ทำให้มั่นใจได้ว่าการส่งมอบอุปกรณ์จะราบรื่นและยึดมั่นมาตรฐานระดับสูงสุดในบริการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง

    เพื่อเน้นย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทที่จะตอบสนองความต้องการด้านพลังงานของประเทศไทยด้วยเทคโนโลยีกังหันก๊าซชั้นนำของอุตสาหกรรม มิตซูบิชิ พาวเวอร์ ยังประสบความสำเร็จในการเริ่มต้นให้บริการกังหันก๊าซ M701JAC หนึ่งจากสองชุดในโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ 1,400 เมกะวัตต์ (MW) โดยบริษัท หินกองเพาเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเฉพาะกิจ (SPC) ที่ก่อตั้งร่วมกันโดยบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ชุดที่สองมีกำหนดการแล้วเสร็จและให้บริการเต็มรูปแบบภายในเดือนมกราคม 2568

    นายอากิระ ทาคาฮาชิ ประธานและกรรมการผู้จัดการของบริษัทมิตซูบิชิ พาวเวอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “หลังจากได้เป็นส่วนหนึ่งในเส้นทางด้านพลังงานของประเทศไทยมากว่าห้าทศวรรษ เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่โซลูชัน GTCC อันแข็งแกร่งของเราได้ช่วยยกระดับความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพของโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของประเทศไทย ตลอดจนสนับสนุนความก้าวหน้าของประเทศสู่อนาคตด้านพลังงานที่ยั่งยืนมากขึ้น ในความร่วมมือกับกัลฟ์และหุ้นส่วนอันทรงคุณค่า เราตั้งเป้าที่จะบรรลุโครงการนี้ และจะทำให้ดีที่สุดต่อไปเพื่อสนับสนุนการบำรุงรักษาและการซ่อมบำรุงในระยะยาว”

    โรงไฟฟ้ากัลฟ์ ศรีราชา ได้รับรางวัล “โรงไฟฟ้าแห่งปี” ณ งานประกาศรางวัล Power and Energy Awards โดย Enlit Asia 2023 ในเดือนธันวาคม รางวัลนี้เป็นการตอกย้ำถึงประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้าในการตอบสนองความต้องการด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้นของประเทศไทย และเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยคาร์บอนและรุดหน้าในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของประเทศ