ThaiPublica > คอลัมน์ > 20 อาร์ตทอยสุดปัง part 03

20 อาร์ตทอยสุดปัง part 03

4 พฤศจิกายน 2023


1721955

มาตามสัญญา แต่จากเดิมที่คาดว่าจะจบลงในชิ้นนี้ คงต้องแบ่งออกเป็น 4 part เพื่อจะจบในชิ้นหน้า คราวนี้เราจะนำเสนอ อีก 5 ผลงานอาร์ตทอยสุดสร้างสรรค์ มีรายละเอียดงดงาม บางทีก็มีเรื่องราวกินใจ และที่สำคัญคือ so cute สุดๆ ที่โด่งดังในช่วงทศวรรษนี้ มีพัฒนาการต่างจากอาร์ตทอยเรียบง่ายจากเมื่อสองทศวรรษก่อนในช่วง Y2K อย่างที่เราเคยนำเสนอไปแล้วใน 2 ชิ้นก่อน

1.Coarse

ศิลปินคู่หูนักออกแบบและวาดภาพประกอบชาวเยอรมัน Mark Landwehr และ Sven Waschk ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานอาร์ตทอยในนาม Coarse มาร์คไม่มีพื้นฐานด้านการวาดภาพมาก่อน แต่เริ่มงานวาดภาพประกอบในนาม Coarse ในปี 2003 ในฐานะศิลปินที่เรียนรู้ด้วยตนเอง ก่อนจะเปลี่ยนภาพที่เขาวาดออกมาเป็นงานประติมากรรมสามมิติแล้วจัดแสดงในฮัมบวร์ค และฮ่องกงในช่วงปี 2004 ผลงานของเขามักจะเป็นชายหนุ่มหุ่นกำยำในร่างเปลือย หรือบางทีก็นุ่งกางเกงในตัวเดียว มีสีหน้าเฉยเมยบางทีก็ดูเศร้าสร้อย เบื่อหน่าย แสดงด้านที่อ่อนแอเหนื่อยล้าด้วยรูปร่างแข็งแกร่งล่ำสัน และสัดส่วนมีขนาดค่อนข้างใหญ่ มักจะทำกิจกรรมแนวสตรีท เช่น เล่นสเกตบอร์ด กระดานโต้คลื่น กระโดดร่ม ว่ายน้ำต่อมาในปี 2008 เขาได้รู้จักกับสเวน นักออกแบบสื่อสารจากเมืองฮันโนเวอร์ ทั้งคู่ย้ายไปทำงานในแอลเอด้วยกันตั้งแต่ปี 2013 และพัฒนาผลงานร่วมกันมานับแต่นั้น

ผลงานสร้างชื่อของเขาคือ Freedom Candle เทียนแห่งเสรีภาพ เป็นแคมเปญโฆษณาขององค์การนิรโทษกรรมสากล แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นเทียน 3 แท่ง เป็นรูปชายคุกเข่าเอามือไพล่หลังถูกจับกุม เป็นรูปชายร่างใหญ่กำลังข่มเหงผู้หญิง และเป็นรูปปืน ที่เมื่อจุดแล้วละลายจะกลายเป็นฟิกเกอร์ที่ซ่อนอยู่ข้างในดังคลิปด้านบน อันทำให้แคมเปญชิ้นนี้คว้ารางวัลจากคานส์ ในปี 2014

มาร์คเล่าว่า “ตลอดมาผมทำงานเกี่ยวกับพวกกราฟิก บรรจุภัณฑ์ และงานออกแบบผลิตภัณฑ์ เป็นงานเพื่อความอยู่รอดให้กับบริษัทออกแบบในฮ่องกงที่มีสาขาในเยอรมนี เป็นงานสนุกแต่ผมไม่เคยมีความสุขเลย ต้องเหน็ดเหนื่อยกับการประนีประนอม มีข้อจำกัดน่าเบื่อหน่าย และต้องอดทนกับการตัดสินใจผิดๆ ของลูกค้า จริงๆ ผมชอบงานแกะสลักมาตลอด รูปทรงหยาบๆ ของมันน่าหลงไหล ผมจะลืมทุกอย่างอย่างง่ายดายตอนกำลังแกะสลัก แต่มันเป็นได้แค่งานอดิเรก”

สเวน “ส่วนผมเป็นช่างภาพ ทำสิ่งพิมพ์ให้กับนิตยสารแนวสตรีท พวกสเกตบอร์ด สโนว์บอร์ด กีฬาเอ็กซ์ตรีมทั้งหลายก่อนจะมาร่วมงานกันกับมาร์ค”

พวกเขาอธิบายแนวทางของตัวเองว่า “มันคือการค้นหาจุดสมดุลของชีวิต ตัวละครของพวกเราจะไม่ค่อยมีชีวิตชีวานัก พวกเขาดูว่างเปล่า และมีนิสัยหยิบโหย่ง ลองทำนั่นทำนี่ไปเรื่อย แต่ไม่จริงจังสักอย่าง เหมือนคนอยู่ผิดที่ผิดเวลาตลอด พวกเราชอบการแสดงออกที่สิ้นหวังแบบนี้ ก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน”

https://coarse.gallery/
https://www.instagram.com/coarselife/

2. Hirono

ตอนที่เราเขียนถึง POP MART คออาร์ตทอยคงรู้ว่าภาพเปิดคอลัมน์เป็นผลงานของฮิโรโนะ แต่ในเนื้อหาเราไม่ได้เอ่ยถึงเขาเลย เพราะต้องการจะเก็บมาเล่าในชิ้นนี้ นี่จะเป็นผลงานของ POP MART เพียงชิ้นเดียวที่เราเลือกมารวมไว้ใน 20 ชิ้นนี้ เพราะเป็นตัวที่เราชอบที่สุดในบรรดาอาร์ตทอยสายพันธุ์จีนยี่ห้อนี้

ชื่อฮิโรโนะ อาจจะทำให้คนเข้าใจผิดว่ามาจากญี่ปุ่น ซึ่งสินค้าจีนยี่ห้อนี้ก็คงจงใจไม่น้อย เพราะถ้าเจาะตลาดว่ามาจากจีนตั้งแต่แรก บางคนก็อาจจะตั้งแง่เอาได้ หรืออาจคิดไปว่าสินค้าจีนมักจะด้อยคุณภาพ แต่ POP MART ก็ได้พิสูจน์แล้วถึงความเนี้ยบทุกรายละเอียด จนทุกวันนี้ผู้คนแห่กันจุ่มกล่องสุ่มชนิดซื้อยกแผงแบบไม่เกรงใจเงินในกระเป๋าก็มีให้เห็นบ่อย

ชื่อจริงของเขาคือหลาง เขาอธิบายตัวเองเอาไว้ว่า “เวลาเคลื่อนผ่านไปทุกขณะ บุคลิกภาพกำลังเปลี่ยนแปลง ร่างกายเริ่มแก่ชราลง มีเพียงอารมณ์และสภาวะที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันเท่านั้นที่สะท้อนถึงตัวตนที่แท้จริงของเรา อิสรภาพ ความบริสุทธิ์ ความโศกเศร้า ความเมตตา ความเจ็บปวด ความสุข ความขี้ขลาดนั้นเกิดมาพร้อมกับเรา…และกลายเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นเนื่องจากคุณลักษณะทางสังคมของเราในบางครั้งก็พยายามจะกลบซ่อนสิ่งเหล่านี้เอาไว้ ดังนั้น “ตัวตนที่แท้จริง” จึงค่อยๆ เดินจากเราไป เพื่อไล่ตามและสร้าง “ตัวตนที่แท้จริง” ขึ้นมาใหม่ ศิลปินหลางได้สร้าง Hirono: โลกแห่งอารมณ์ความรู้สึกที่มีชีวิตและยิ่งใหญ่ ผ่านสื่อต่างๆ เช่น ภาพวาด ประติมากรรม ของเล่น และการ์ตูน หลาง ปรารถนาให้ทุกคนเข้าสู่โลกภายในอันป่าเถื่อนที่เราลืมเลือน และสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงอันละเอียดอ่อนระหว่างแสง เงา และผู้คนในชีวิตของเราอีกครั้ง ด้วยวิธีนี้ช่วงเวลาต่างๆ ในชีวิตจะทำให้เกิดความรู้สึกอันละเอียดอ่อนที่ไม่มีใครสังเกตเห็น ซึ่งจะยังคงอยู่ในจิตใจของเรา”

กล่องสุ่มอันเป็นเอกลักษณ์ของฮิโรโนะ มักจะเป็นสีขาวดำ เพราะโลกของเขาไม่เคยสดใส หลางใช้ประสบการณ์ตัวเองตอนที่ย้ายจากบ้านเกิดในเมืองเหอนานมาสู่ปักกิ่ง เมืองใหญ่ทำให้เขาเจอเหตุการณ์เลวร้ายมากมาย แต่ก็เป็นบทเรียนให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ การสร้างฮิโรโนะเด็กชายตาแดงเหมือนร้องไห้มาอย่างหนัก แววตาเศร้าหน้านิ่งแกมดื้อดึง เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ความเหงา ความคาดหวัง นอกจากฮิโรโนะจะบอกเล่าชีวิตในอดีตของตัวหลางเองแล้ว ยังส่งผ่านความรักความห่วงใยไปสู่ลูกของเขาอันเป็นตัวแทนแห่งอนาคต ที่หลางคาดหวังว่าลูกของเขาจะไม่ต้องพบเจอกับเรื่องเลวร้ายอย่างที่หลางเคยเจอมา

https://www.instagram.com/langswork/
https://www.popmart.com/th/collection/Hirono

3. Tikka from East

เป็นผลงานออกแบบโดย ติ๊กก้า อึ้ง ผู้เริ่มต้นอาชีพการเป็นศิลปินของเขาในปี 2006 เขาเป็นที่รู้จักในผลงานศิลปะที่เขาเรียกว่าโซฮะ อันเป็นการดัดแปลงภาพติดฝาบ้านตามขนบจีนโบราณ

จากภาพวาดเด็กยุคโบราณ ภาพเทพเจ้าติดประตูบ้านตอนปีใหม่ สู่ภาพโฆษณาชวนเชื่อพรรคคอมมิวนิสต์

FYI

เหนียนฮั่ว 年画 หรือภาพอวยพรปีใหม่อันเป็นพัฒนาการหนึ่งของโปสเตอร์โฆษณาชวนเชื่อจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน จริงๆ แล้วจีนมีวัฒนธรรมการวาดรูปเด็กมาตั้งแต่ยุครณรัฐ (Warring States Period) อันเป็นสมัยสงครามระหว่างรัฐในช่วง 475-221 ปีก่อนคริสตศักราช และเป็นที่นิยมมากในสมัยราชวงศ์ซ่ง (ค.ศ. 960-1279) โดยส่วนใหญ่นิยมวาดกัน 3 แนวคือ เด็กกำลังเล่นการละเล่นต่างๆ เด็กกำลังเลี้ยงสัตว์ และเด็กเร่ขายของ ในประวัติศาสตร์จีนมีอยู่ 2-3 ศิลปินที่เลื่องชื่อในทางวาดภาพเด็กคือ จางเสวียน กับจ้าวฟาง ทั้งสองอยู่ในสมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618-907) อีกคนคือ ซูฮั่นเฉิน ในสมัยราชวงศ์ซ่ง

อย่างไรก็ตาม แต่เดิมเหนียนฮั่วนิยมวาดภาพเทพเจ้าเช่น กวนอู, 8เซียน, ฮก ลก ซิ่ว โดยเฉพาะเทพเจ้าประจำปีใหม่ก็คือเทพเจ้าเตาไฟ (เป็นเทพเจ้าผู้ประทานพร คุ้มครองครอบครัวให้อยู่ดีกินดี และพ้นเคราะห์พ้นโศกจากเหตุไฟไหม้ ที่คนจีนควรบูชาทุกปีใหม่เพื่อให้ท่านปกปักษ์รักษาบ้าน) ติดไว้ตามประตูบ้าน เพื่อเป็นการอวยพรปีใหม่ เชื่อกันว่าใครเข้าใครออกบ้านนี้จะมีโชคลาภลูกหลานเต็มบ้าน อย่างไรก็ตามมาในยุคพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยเฉพาะในสมัยปฏิวัติทางวัฒนธรรม (ค.ศ.1966-1976) ได้มีการรื้อถอนความเชื่อต่างๆ รวมถึงการละเล่น วัฒนธรรม ศาสนา สิ่งเหล่านี้ถูกแทนที่ด้วยภาพโฆษณาชวนเชื่อที่เขียนคำปลุกใจ ปลุกปั่นทางการเมือง ไปจนถึงเกลียดชังชาวต่างชาติ และยกย่องท่านผู้นำสูงสุดซึ่งมีมาตั้งแต่สมัย 1940s

เหนียนฮั่วในยุคต่างๆ ภาพขวาสุดคือสมัยนโยบายลูกคนเดียว

ปกติโปสเตอร์ปลุกใจจะเป็นภาพผู้ใหญ่ในหน้าที่การงานต่างๆ ทหาร หมอ ชาวนา ชาวไร่ ชนชั้นแรงงานกรรมาชีพต่างๆ แต่เฉพาะในช่วงปีใหม่ที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะตีพิมพ์ออกมาเป็นภาพเด็กน่ารัก เพื่อเป็นตัวแทนอนาคตของชาติ เด็กอ้วนพี (ปังหวาหวา 胖娃娃) คือเด็กสมบูรณ์มีกินมีใช้ แข็งแรง และสืบลูกสืบหลาน บางทีก็ถือลูกท้ออันเป็นสัญลักษณ์อายุมั่นขวัญยืน บางทีก็ขี่ปลาอันหมายถึงการต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรคและความเข้มแข็ง บางทีก็เป็นสระบัว (เหลียน) อันเป็นคำพ้องเสียงกับอีกคำที่มีความหมายว่า มีความอุดมสมบูรณ์ปีแล้วปีเล่า

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ปี 1986 จากแต่เดิมที่เคยวาดภาพเด็กๆ หลายคนก็กลายมาเป็นเด็กคนเดียวเพื่อสนองนโยบายรัฐในการมีลูกคนเดียว ซึ่งน่าสังเกตว่าภาพเด็กในช่วงนี้จะไม่ยิ้มร่าเริงและไม่อ้วนท้วนอย่างที่ผ่านมา ซึ่งอันที่จริงโปสเตอร์แนวนี้จะแฝงนโยบายรัฐของจีนอยู่ทุกปี เช่น ในปี 1960 เมื่อจีนวางแผนจะมีโครงการอวการแข่งกับสหรัฐฯ และโซเวียตกับเขาบ้าง ก็วาดออกมาเป็นยานอวกาศ

FYI

โซฮะ งานในยุคแรกๆ ของติ๊กก้า อึ้ง เป็นการดัดแปลงผลงานแบบเหนียนฮั่ว ตามขนบจีนมาผสมกับวัฒนธรรมป๊อปในรูปลักษณ์ของแคแรกเตอร์แบบเด็กน่ารัก และชุดที่ทำให้ติ๊กก้าเป็นที่รู้จักคือชุดที่เอาเทพเจ้าจีนมาผสมกับ Star Wars อย่าง ดาร์ธเวเดอร์ เจ้าหญิงเลอา ฮันโซโล ชิวเบกกา โยดา และซูเปอร์ฮีโร่อื่นๆ เช่น กัปตันอเมริกา

จากผลงานเหล่านี้ ติ๊กก้านำมาต่อยอดเป็นอาร์ตทอยและประติมากรรมที่ทำให้เขาโด่งดังมากขึ้นไปอีกในปัจจุบัน ด้วยการหยิบเอาสองสิ่งที่ไม่น่าจะเข้ากันได้ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ กลายมาเป็นแคแรกเตอร์ไอคอนนิกอเมริกันทั้งหลายมาผสมกับตำนานจีนโบราณ ตัวที่โด่งดังที่สุดของเขาคือ แฮมบุดดา พระโพธิสัตว์แฮมเบอร์เกอร์ เปล่งรัศมีเป็นเฟรนซ์ฟราย ประทับยืนอยู่บนเบอร์เกอร์ชิ้นหนาน่ากิน, แม่ทัพทาเคดะ ชินเก็น วีรบุรุษสงครามสมัยไดเมียวโบราณ มาในรูปลักษณ์ของนินจาเต่า, เทพเจ้าจี้กงสัญลักษณ์แห่งความชิลแต่งตัวแบบฮิปฮอป ถือพัดคล้ายโลโก้อะดิดิส, กระต่ายลูนนี่ตูนส์กลายเป็นเจ้าหญิงฉางเอ๋อกับกระต่ายบนดวงจันทร์

ติ๊กก้า อึ้ง เล่าไอเดียของเขาว่า “ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ฮ่องกงและแม้แต่ทั่วทั้งโลกต่างก็คลั่งไคล้ ซูเปอร์ฮีโร่ เรียกหาความยุติธรรม แต่ความชั่วร้ายไม่อาจถูกขจัดลงอย่างง่ายดายเหมือนในการ์ตูนที่เราเคยอ่านกันตอนเด็กๆ เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็เคยได้ยินเรื่องกรรม ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ในตำนานจีนนรกมีสิบแปดขุม เพื่อลงโทษคนชั่วแตกต่างกันไป ในโลกปัจจุบันผู้คนใช้อำนาจข่มเหงกัน หาผลประโยชน์ใส่ตัว พวกเขาไม่เกรงกลัวต่อการทำชั่วอีกต่อไป ผลงานของผมคือการนำเสนอนรกโบราณทั้ง 18 ขุม มาในรูปแนวคิดสมัยใหม่ บวกกับซูเปอร์ฮีโร่จากอดีตในโลกปัจจุบัน และรวมถึงการจิกกัดวัฒนธรรมตั้งแต่พุทธพาณิชย์ ไปจนถึงวัฒนธรรมบริโภคนิยม”

https://www.tikkagallery.com/
https://www.instagram.com/tikkafromeast/

4. Sticky Monster Lab (SML)

สตูดิโอสัญชาติเกาหลี ผู้ออกแบบสัตว์ประหลาดด้วยแคแรกเตอร์เรียบง่ายสุดแสนจะมินิมอล มันไม่ใช่แค่อาร์ตทอย แต่เป็นตัวการ์ตูน เป็นฟิกเกอร์ เป็นสินค้า เสื้อผ้า ไปยันรถที่ขับเคลื่อนได้จริงๆ เคยคอลแล็บงานกับ Samsung และ Nike เป็นปีศาจสุดประหลาดที่จะพาเราไปหวนคิดถึงคุณค่าของการมีชีวิตอยู่

ก่อตั้งเมื่อปี 2007 โดย 3 ดีไซเนอร์เกาหลี ชเว ลิม (Fla), บู ชาง-โจ (Boo), คัง อิน-เอ (Nana) ที่มีความถนัดแตกต่างกัน ต่อยอดไปเป็นงานกราฟฟิกดีไซน์ โปรคักต์ดีไซน์ และแอนิเมชั่น

SML ให้สัมภาษณ์ว่า “พวกเรามาจากหลากหลายสายงานที่ถนัดพวกงานออกแบบต่างๆ แล้วเราก็ถนัดการจัดงานอีเวนต์ด้วย ตอนเรามารวมตัวกันในนาม Sticky Monster Lab เราเลยคิดว่าน่าจะออกแบบสัตว์ประหลาดที่จะทำให้ผลงานของเราเป็นที่รู้จักได้ง่าย เป็นมิตร และเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เรามีโอกาสได้ร่วมงานกับแบรนด์ดังมากมาย ไม่ว่าจะ Cartoon Network, บัตรเติมเงิน T-Money, รถยนต์ Nisson, IKEA ฯลฯ งานของพวกเราได้ไปโชว์ในอีเวนต์ใหญ่ๆ อย่าง Tokyo International Anime Fair 2009 ในญี่ปุ่น และงาน Public Fair No.1 Hong Kong 2012 ในฮ่องกง พวกตัวประหลาดได้รับความนิยมอย่างมากจนมีวางขายในประเทศต่างๆ ทั้ง ญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ไทย และอิตาลี”

“โดยทั่วไปพวกสัตว์ประหลาดมักถูกเปรียบเปรยกับคนที่มีบุคลิกแปลกประหลาด น่าสะพรึงกลัว น่ารังเกียจ แต่ใครๆ ต่างก็มีสัตว์ประหลาดของตัวเอง ทุกคนต่างมีมุมแปลกๆ ในหัวใจ แต่หลายคนเลือกจะซุกซ่อนมันเอาไว้ หรือกล่าวร้ายว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดี ประหลาดเกินผู้คนจะรับไหว เราออกแบบสิ่งนี้ขึ้นมาเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเรื่องปกติมากเลยที่คุณจะมีตัวประหลาดซุกอยู่ในหัวใจ เราชอบคำว่าสัตว์ประหลาดเพราะมันคลุมเครือดี เราจึงถ่ายทอดความรู้สึกของเจ้าพวกตัวประหลาดพวกนี้ออกมาเป็นตัวละครของ SML ที่น่ารักสุดคิ้วและมีพฤติกรรมแปลกประหลาดในเวลาเดียวกัน เพื่อจะสื่อถึงเรื่องราวที่เราอยากจะแชร์แก่ผู้คน”

http://www.stickymonsterlab.com
https://www.instagram.com/stickymonsterlab.ig/
https://vimeo.com/user1136850

5.Fools Paradise

บางทีเราก็สับสนใช่ไหม ยิ่งถ้าเป็นคอหนังดูหนังป๊อปๆ เยอะๆ บางทีก็จำผิดจำถูก คุ้นๆ คล้ายๆ ว่านี่มันมาจากหนังเรื่องไหนกันแน่นะ Fools Paradise เป็นสรวงสวรรค์ของคนโง่ที่แท้ทรู ด้วยลูกเล่นสุดฮิตของอาร์ตทอย คือภาพจำจากหนังดัง จับมาทวิสต์มันเสียใหม่ เล่นล้อกับความทรงจำให้เราสับสนกันเล่นๆ ในซีรีส์ Super Fiction ที่มีตัวละครหลักคือมาริโอ้ จากเกมดัง Super Mario นั่นแล บางทีก็มีเจ้าหญิงพีช ตัวละครดังอีกตัวในเกม Super Mario มาร่วมแจมก็มี พวกเขาจะมาในซีนหนังดังแต่ในแบบที่ทำให้เรางงเล่นว่าตกลงมันใช่ไหมนะ อย่างมาริโอ้ แต่งตัวเป็น Leon จากหนังฝรั่งเศสสุดคลาสสิก The Professional นักฆ่า ที่มาในฉากโดนปืนเป็นร้อยจ่อรอบคอ อันเป็นฉากจำจาก John Wick 2, มาริโอ้คนเดิม แต่งผมสีเทา แต่งตัวเป็นศิลปินป๊อปอาร์ตผู้ล่วงลับ แอนดี วอร์ฮอล ซึ่งเป็นเกย์ มายืนเคียงข้างเจ้าหญิงพีชในลุคสาวสุดฮอตไอคอนแห่งยุค มาริลิน มอนโร, บางทีก็จับมาเป็นคู่หูนักฆ่าต่างวัย ลีอองกับมาทิลดา, ไม่ก็คู่หูนักเต้นจากหนังเควนตินสุดดัง Pulp Fiction บาทีก็มาในคราบของเจ้าหนูปรมาณู แต่ถอดหัวแยกได้แบบในหนังเรื่อง Total Recall

ไม่แค่นั้น ค่ายนี้ยังมีตัวละคร Keiko ราชินีแห่งการสวมชุดมาสคอต ไปจนถึงซีรีส์ Honmono Taiketsu ที่หยิบเอาหน้าปัดนาฬิกาหรูทั้งหลายมาเติมแต่งเป็นตัวละครหลากหลาย Fools Paradise ก่อตั้งโดยนักออกแบบกราฟฟิกและมัลติมีเดีย อลัน อึ้ง ในฮ่องกงปี 2008 อาร์ตทอยของเขาส่วนใหญ่มีขนาดจัมโบ้ สูง 18 นิ้ว

https://www.foolfoolshop.com/
https://www.instagram.com/foolsparadisetoys/