ThaiPublica > ข่าวประชาสัมพันธ์ > คลัง-ธปท. เซ็น MoU เป็นเจ้าภาพจัดประชุมสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและ IMF ปี 2569

คลัง-ธปท. เซ็น MoU เป็นเจ้าภาพจัดประชุมสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและ IMF ปี 2569

15 ตุลาคม 2023


ข่าวประชาสัมพันธ์

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2566 นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(International Monetary Fund:IMF)ปี 2569 ร่วมกับนายอาเจ บังกา (Ajay Banga) ประธานธนาคารโลก นางคริสตาลิน่า กอร์เกียวา (Kristalina Georgieva) กรรมการจัดการ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ

การลงนามในบันทึกความเข้าใจครั้งนี้ สืบเนื่องจากประเทศไทยได้รับการคัดเลือกจากสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีฯ ในปี 2569 โดยในอดีตประเทศไทยเคยเป็นเจ้าภาพการประชุมดังกล่าวมาแล้ว เมื่อปี 2534

การประชุมประจำปีของสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศเป็นการประชุมด้านเศรษฐกิจและการเงินที่สำคัญที่สุดของโลก โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ผู้ว่าการธนาคารกลางจากประเทศสมาชิกกว่า 190 ประเทศเข้าร่วมการประชุม รวมทั้งผู้บริหารระดับสูงขององค์การระหว่างประเทศ และสถาบันการเงินชั้นนำของโลก โดยในทุก 3 ปีจะมีการจัดการประชุมประจำปีฯ ในประเทศสมาชิก ซึ่งการประชุมมีกำหนดจัดขึ้นในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2569 ณ กรุงเทพมหานคร และจะมีการประชุมคู่ขนานที่สำคัญต่าง ๆ ระหว่างประเทศสมาชิก กลุ่มประเทศ และสถาบันการเงินชั้นนำระหว่างประเทศ ในช่วงเวลาดังกล่าวกว่า 300 การประชุม

การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในปี 2569 จะเป็นโอกาสอันดีในการแสดงบทบาทของประเทศไทยในเวทีเศรษฐกิจและการเงินโลก และเป็นช่องทางในการผลักดันนโยบายสำคัญด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยอีกช่องทางหนึ่ง รวมถึงเป็นโอกาสในการขยายความร่วมมือและเรียนรู้จากประสบการณ์ของประชาคมโลกที่จะเป็นประโยชน์กับไทยด้วย นอกจากนี้ จะเป็นการแสดงศักยภาพและความพร้อมของไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับโลก เนื่องจาก ไทยมีความพร้อม ไม่ว่าจะเป็นด้านสถานที่จัดการประชุม โรงแรมที่พัก ความสะดวกในการเดินทาง โดยกรุงเทพฯ ถือเป็นจุดเชื่อมต่อสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศงภูมิภาค รวมทั้งยังมีความพร้อมด้านการรักษาความปลอดภัยและด้านสาธารณสุข โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมการประชุมจากทั่วโลกประมาณ 12,000 คน ซึ่งจะก่อให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในระดับประเทศและระดับท้องถิ่นที่เกี่ยวเนื่องจากการประชุมดังกล่าว