เพื่อไทย แถลงจัดตั้งรัฐบาลเพิ่มอีก 6 พรรค รวม 228 เสียง ย้ำสลายขั้วการเมืองทุกฝ่าย เดินหน้าขอเสียงจากทุกพรรค จัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ ขณะที่พรรคประชาชาติย้ำจะร่วมโหวตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยเท่านั้น “เสรีพิศุทธ์” ขอประชาชนเปิดใจกว้าง เปิดรับ พรรค 2 ลุงร่วมตั้งรัฐบาล
ที่รัฐสภา วันที่ 9 ส.ค.2566 เวลา 12.30 น. พรรคเพื่อไทย นำโดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคและนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เลขาธิการพรรคเพื่อไทรวมพลัง พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคท้องที่ไทย แถลงรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลเพื่อไทย รวม 228 เสียง
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ได้ร่วมกับพรรคภูมิใจไทยแถลงแนวทางจัดตั้งรัฐบาลไปแล้ว โดยพรรคเพื่อไทยได้รับเกียรติจากพรรคร่วม ตามคำคำแถลงจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลดังนี้
วันนี้ พรรคเพื่อไทยได้รวบรวมเสียงเพิ่มเติม และได้รับการสนับสนุนจาก 6 พรรคการเมืองประกอบด้วย พรรคประชาชาติ พรรคเสรีรวมไทย พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคเพื่อไทยรวมพลัง พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคท้องที่ไทย และรวมเสียงโหวตได้มากกว่ากึ่งหนึ่งแล้ว
พรรคเพื่อไทยและทุกพรรคการเมืองคาดหวังอย่างยิ่งว่า จะสามารถคลี่คลายสถานการณ์ สลายขั้วการเมือง ทุกฝ่าย เดินหน้าขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากหลายพรรคการเมือง และเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ สามารถบริหารประเทศ และเร่งแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้โดยเร็ว ที่ขณะนี้กำลังเผชิญความเดือดร้อนรุนแรง การประวิงเวลาออกไปยิ่งทำให้เกิดความเสียหายยิ่งขึ้น การจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วเท่าไรจะยิ่งแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วมากขึ้นเท่านั้น
“เรายืนยันจะทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ โดยเฉพาะในสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความพิเศษ ท่ามกลางวิกฤติรัฐธรรมนูญ วิกฤติเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของประชาชน และวิกฤติความขัดแย้งในสังคม แบ่งฝักแบ่งฝ่าย แบ่งสีแบ่งขั้ว การที่จะแก้วิกฤติครั้งนี้ได้ ต้องสลายขั้วการเมือง ดึงความร่วมมือจากทุกพรรคทุกฝ่าย ทุกกลุ่ม ทุกคน เพื่อร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทย และนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำ เพื่อนำรัฐธรรมนูญออกจากวิกฤติ เพื่อนำประชาชนให้พ้นทุกข์ เพื่อสร้างความสามัคคี สมานฉันท์ โดยถือเป็น “วาระประเทศ” ที่สำคัญอย่างสูงสุด”
พร้อมกล่าวต่อว่า “เราอยากขอวิงวอน ให้พี่น้องประชาชนมั่นใจในพรรคเพื่อไทย และพรรคการเมืองที่ให้การสนับสนุนในครั้งนี้ เราจะช่วยกันฝ่าวิฤติเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ และประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องประชาชนทุกคน และเราหวังจะเห็นความสามัคคีของทุกฝ่ายในประเทศ”
นพ.ชลน่าน กล่าวว่าในวันพรุ่งนี้ (10 ส.ค.) จะมีการแถลงความร่วมมือกับพรรคชาติไทยพัฒนา และ ยังยอมรับว่าได้ขอความร่วมมือจากกลุ่ม ส.ส.ในหลายพรรรคเพื่อให้มาโหวตสนับสนุนแคนดิเดทของพรรคเพื่อไทย คือ นายเศรษฐา ทวีสิน ให้เป็นนายกรัฐมนตรีหากเห็นว่าเป็นประโยชน์กับบ้านเมืองในการผ่าทางตัน
ทั้งนี้ยืนยันในเบื้องต้นได้รวมเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว แต่ยังต้องการเสียงเพิ่มเติมเพื่อจัดตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ คาดว่าจะสามารถสรุปเสียงสนับสนุนจาก ส.ส.ทั้งหมดได้ภายในสัปดาห์นี้
ส่วนการขอเสียงโหวตสนับสนุนนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) จะหารือกับพรรคก้าวไกล เพื่อให้ร่วมแก้วิกฤติประเทศ และแก้วิกฤติรัฐธรรมนูญ
ชาติพัฒนากล้า ตอบรับร่วมรัฐบาล
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า “วันนี้พรรคชาติพัฒนากล้า ยินดีตอบรับคำเชิญร่วมรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ซึ่งเหตุผลตอบรับมี 5 ข้อ 1.พรรคเพื่อไทยถือว่ามีความชอบธรรมเพราะเป็นพรรคอันดับ 2 เมื่ออันดับ 1 ตั้งรัฐบาลไม่ได้ก็เป็นหน้าที่พรรคอันดับ 2 และจากการประชุมกับพรรคเพื่อไทยยืนยันได้รวบรวมเสียงสมาชิกเกินครึ่งหนึ่งอย่างแน่นอน ทำให้มั่นใจว่าเป็นเสียงข้างมาก
2.ในที่ประชุมหารือกัน เพื่อไนยืนยันว่าได้รวบรวมเสียงของส.ส.เกินกึ่งหนึ่งอย่างแน่นอน จึงมั่นใจได้ว่าการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก
3.ภายใต้การนำของเพื่อไทย จะไม่มีนโยบายใดๆเกี่ยวข้องกับการแก้ไขมาตรา 112
4.พรรคเพื่อไทยมีความแน่วแน่ในการแก้วิกฤติเศรษฐกิจ พรรคจึงมั่นใจในนโยบายของรัฐบาลเพื่อไทยเพราะมีประสบการณ์แก้วิกฤติเศรษฐกิจและบุคลากรต่างๆ ซึ่งปัญหาเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ประชาชนต้องการเห็นการแก้ไข ซึ่งในข้อ 1-4 ตรงกับนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า
ส่วนข้อสุดท้าย 5 ซึ่งถือเป็นเหตุผลสำคัญคือเกือบ 3 เดือนยังไม่มีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง มีแต่รัฐบาลรักษาการ ซึ่งมีขีดจำกัด เราจำเป็นต้องมีรัฐบาลจากการเลือกตั้งเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ลดความกังวลใจของประชาชน
ดังนั้นการปล่อยให้มีสุญญากาศไม่เป็นผลดีกับทุกฝ่าย พรรคจึงเห็นว่าควรร่วมมือกันสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรมและมาอย่างถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ
ประชาชาติขอโหวตนายกฯแค่พรรคเพื่อไทย
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า หลังจากที่มีการเลื่อนโหวตนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมาเนื่องจาก ศาลรัฐธรรมนูญซึ่งในวันที่ 4 ส.ค. พรรคประชาชาติจะโหวตเลือกพรรคเพื่อไทย
อย่างไรก็ตามยอมรับว่าวิกฤติขณะนี้คือหน้าที่ ส.ส.และการเปลี่ยนผ่านเรารับภาระของรัฐธรรมนูญในการเห็นชอบแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี และเราได้ตกลง 8 พรรคร่วมรัฐบาลเดิมจะเลือกพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากตระหนักว่าในพรรคที่มีความชอบเป็นนายกรัฐมนตรีต้องเป็นนพรรคที่ 1 และ 2 เรา จึงสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการรวบรวมเสียงเพื่อให้ได้นายกรัฐมนตรี ไปแก้ปัญหาของประเทศ
พ.ต.อ.ทวี บอกว่า พรรคประชาชาติจต้องการเดินทางไปที่แค่พรรคที่สองเท่านั้นในการสนับสนุนนายกรัฐมนตรี แต่ถ้าออกนอกไปมากกว่านั้นไม่ใช่หลักประชาธิปไตย
อย่างไรก็ตามการเข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทยในครั้งนี้ยังไม่มีการคุยเรื่องนโยบายเป็นยังไงเพราะเห็นว่า ปัญหาประเทศสำคัญต้องมีนายกรัฐมนตรี และเรายังไม่มีการพูดคุยเรื่องตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเราเดินตามเงื่อนไขเดิม ในส่วนนโยบายพรรคยังแสดงจุดยืนในนโยบายต่างๆ พรรคร่วมรัฐบาลคงจะต้องรับฟัง
เสรีพิศุทธ์ ขอประชาชนเปิดใจกว้าง รับพรรค 2 ลุง
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยดำเนินการทุกวิถีทางสลายขั้วเพื่อเดินหน้าบริหารประเทศ และตอนนี้ความเข้าใจว่าหลายคนบอกว่าตอนหาเสียงเคยบอกว่าเป็นแบบนี้แบบนั้น แต่ยากบอกว่าการหาเสียงก็คือการหาเสียงเพื่อให้ได้คะแนนเสียงมาบริหารปแระเทศ แต่ไม่ใช่นโยบายพรรค เพราะฉะนั้นในเรื่องของการหาเสียงเป็นเรื่องปกติ เมื่อจบไปแล้วได้คะแนนเท่าไร ก็บริหารกันไป
นอกจากนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ “ยังบอกอีกว่า ขณะนี้มีเสียงบอกว่า ห้ามไปรวมไปกับพรรคนั้นพรรคนี้ ซึ่งอยากให้ไปดูสามก๊ก หรือประวัติศาสตร์ ที่เมื่อไม่มีแม่ทัพแล้วเขาเก็บทหารไว้ ซึ่งเห็นว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ เราควรจะเอามั้ย แต่ผมคิดว่าควรจะเลี้ยงดูไว้ เพราะไม่มีแม่ทัพแล้ว แม้แต่พรรคพลังประชารัฐก็ดี แม้จะมีแม่ทัพแต่ก็ถอยไปแล้ว จึงอยากให้เปิดใจให้กว้างสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งให้ได้”