ThaiPublica > ข่าวประชาสัมพันธ์ > ทส. x GC พัฒนาพื้นทางเดินอัพไซเคิล ช่วยลดพลาสติกใช้แล้วกว่า 4,500 กิโลกรัม

ทส. x GC พัฒนาพื้นทางเดินอัพไซเคิล ช่วยลดพลาสติกใช้แล้วกว่า 4,500 กิโลกรัม

10 สิงหาคม 2023


ข่าวประชาสัมพันธ์

ทส.จับมือ GC พัฒนาพื้นทางเดินอัพไซเคิล ช่วยลดพลาสติกใช้แล้วกว่า 4,500 กิโลกรัม ต่อยอดสู่การเป็นต้นแบบพื้นที่สีเขียวในเขตเมือง ส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ได้ร่วมกันจัดทำโครงการพัฒนาพื้นทางเดินอัพไซเคิล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพัฒนาพื้นที่สาธารณะประโยชน์ในชุมชนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมลดพลาสติกใช้แล้วไปสู่หลุมฝังกลบได้กว่า 4,500 กิโลกรัม ต่อยอดสู่การเป็นต้นแบบของการพัฒนาพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองได้อย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2566 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.)ได้จัดให้มีพิธีส่งมอบโครงการพัฒนาพื้นทางเดินอัพไซเคิล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน เพื่อเป็นโครงการต้นแบบความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ในการใช้ทรัพยากรหมุนเวียน สร้างประโยชน์ต่อชุมชน ควบคู่กับการรักษาความสมบูรณ์ทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงฯ และสื่อมวลชน เข้าร่วมพิธี ณ ห้องแถลงข่าว 101 ชั้น 1 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ GC ได้ร่วมดำเนินการพัฒนาการก่อสร้างถนนทางเดินอัพไซเคิล และท่าน้ำอัพไซเคิลจากพลาสติกใช้แล้ว บริเวณพื้นที่รอบสระน้ำของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมระยะทาง 320 เมตร ซึ่งสามารถลดปริมาณขยะพลาสติกไปสู่หลุมฝังกลบมากกว่า 4,500 กิโลกรัม พร้อมช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 4,700 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่า หรือเท่ากับการปลูกต้นไม้ได้มากกว่า 495 ต้น นับเป็นโครงการพัฒนาพื้นทางเดินอัพไซเคิล ที่ได้รับฟังความคิดเห็น การออกแบบ และการเลือกใช้วัสดุร่วมกับชุมชนในพื้นที่ ซึ่งคำนึงถึงระบบนิเวศและการใช้งานอย่างสมดุล โดยยังคงรักษาความเป็นธรรมชาติที่หลากหลาย สามารถพัฒนาให้เป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์ในชุมชนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมต่อยอดสู่การเป็นต้นแบบของการพัฒนาพื้นที่สีเขียวในเขตเมือง ที่คงไว้ซึ่งความสมดุลของธรรมชาติ และคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน

“โครงการพัฒนาพื้นทางเดินอัพไซเคิล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงนับเป็นความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนที่จะส่งเสริมให้สังคมได้เห็นถึงประโยชน์ของการหมุนเวียนทรัพยากร ผ่านการมีส่วนร่วมในการคัดแยกขยะอย่างถูกวิธี หมุนเวียนกลับมาสร้างคุณค่า และสร้างประโยชน์ ให้ “พลาสติกเทิร์นเมือง” เป็นผลิตภัณฑ์รีไซเคิล ส่งต่อสู่การอัพไซเคิล ถือเป็นการหมุนเวียนใช้ทรัพยากรแบบ Closed loop ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ต่อยอดสู่การพัฒนาสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืนให้กับทุกคน” นายวราวุธ กล่าวฃ

ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC กล่าวว่า GC ดำเนินธุรกิจตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการสร้าง “ถนนอัพไซเคิล” และ “แผ่นทางเดินอัพไซเคิล” เพื่อสร้างให้เกิดสาธารณประโยชน์กับประชาชน และชุมชน นับเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับพลาสติกใช้แล้วผ่านกระบวนการอัพไซเคิลในบริเวณพื้นที่โดยรอบสระน้ำของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา GC ได้ริเริ่มและพัฒนา “GC YOUเทิร์น” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการบริหารจัดการพลาสติกใช้แล้วอย่างครบวงจร ตั้งแต่การเก็บ คัดแยก และนำไปเข้ากระบวนการรีไซเคิลหรืออัพไซเคิล ได้ออกมาเป็นสิ่งของที่มีมูลค่า

สำหรับความร่วมมือกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในครั้งนี้ GC ได้พัฒนาและส่งมอบ “ถนนอัพไซเคิล” ผลิตจากยางมะตอยผสมพลาสติกใช้แล้วประเภทฟิล์ม LDPE และ LLDPE ที่ยากต่อการนำไปรีไซเคิล โดยผ่านการวิจัยและพัฒนา ทำให้มีความแข็งแรง และยืดหยุ่นเหมือนถนนยางมะตอยทั่วไป “แผ่นทางเดินอัพไซเคิล” ผลิตจากพลาสติกใช้แล้ว ประเภทฟิล์มหลายชั้น (Multilayer) และฟิล์ม LDPE ที่มีความยากต่อการนำมารีไซเคิลเช่นกัน การดำเนินการในครั้งนี้จึงช่วยสร้างให้เกิดประโยชน์กับประชาชนและชุมชนโดยรอบพื้นที่ เป็นการต่อยอดสู่การเป็นต้นแบบพื้นที่สีเขียวในเขตเมือง ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม พร้อมส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อมซึ่งส่งผลดีให้กับโลกใบนี้ของพวกเราอย่างแท้จริง