มติที่ประชุมร่วมรัฐสภา โหวตรอบแรก ไม่เห็นชอบ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ นั่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ได้เสียงไม่ถึงครึ่งหนึ่ง 375เสียงของรัฐสภา โดยเห็นชอบ 324 เสียงไม่เห็นชอบ 182 เสียง งดออกเสียง 199 เสียง ขณะที่พิธายังไม่ยอมแพ้ แต่ขอเวลาหายุทธศาสตร์ เพื่อรวบรวมเสียง ส.ว ในวันที่ 19 ก.ค.นี้
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 ก.ค.2566 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม หลังจากเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ได้เปิดให้ส.ส.และส.ว.อภิปราย โดยใช้เวลาอภิปายประมาณ 6 ชั่วโมง
จากนั้นเวลา 15.50 น. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวว่า สมาชิกได้อภิปรายคุณสมบัติครบทุกฝ่ายเป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนดแล้ว ขอปิดการอภิปรายและจะดำเนินการออกเสียงลงคะแนน ส่วนการพิจารณาให้ความเห็นชอบให้บุคคลที่สมควรเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272 ประกอบด้วยมาตรา 159 และข้อบังคับที่ 137 ให้การลงคะแนนกระทำโดยเปิดเผย ตามข้อบังคับ 56(2) โดยใช้วิธีเรียกชื่อสมาชิกรัฐสภา โดยมติเห็นชอบนั้นต้องมากกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา และเนื่องจากในวันนี้ส.ส.ที่ถูกเสนอชื่อมีคนเดียวคือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เพื่อให้การออกคะแนนและลงมติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยให้มีคณะกรรมการนับคะแนน 6 คน และตอนลงมติ ขอตรวจสอบองค์ประชุมโดยใช้วิธีกดเสียงแสดงตน และเมื่อสมาชิกครบองค์ประชุมแล้ว จะให้เลขาธิการสภาอ่านรายชื่อเรียงตามลำดับตัวอักษร ให้ลงคะแนนเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ โดยสมาชิกเสียบบัตรแสดงตนเพื่อตรวจสอบองค์ประชุม พบว่า แสดงตน 674 คน ถือว่าครบองค์ประชุม
ต่อมาเวลา 18.15 น. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้ประกาศผลการโหวต นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ตามการเสนอชื่อต่อที่ประชุมรัฐสภา อย่างเป็นทางการ ผลโหวตคะแนน เห็นชอบ 324 เสียง ไม่เห็นชอบ 182 เสียง งดออกเสียง 199 เสียง แบ่งเป็น ส.ส โหวต ส.ส. เห็นชอบ 311 คะแนน ส.ส. ไม่เห็นชอบ 148 คะแนน มีส.ส. งดออกเสียง 40 คะแนน และ ส.ว. โหวตเห็นชอบ 13 คะแนน และส.ว.ไม่เห็นชอบ 34 คะแนน ส.ว. งดออกเสียง 159 คะแนน
ประธานสภาผู้แทนราษฏร สรุปว่า นายพิธาได้คะแนนเสียงเห็นชอบไม่มากกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิก 2 สภา ถือว่าไม่เห็นชอบให้แต่งตั้งนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272
ส่วนท่าทีจาก สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ถูกจับตาเป็นอย่างมาก โดยเสียงส่วนใหญ่ ลงมติ งดออกเสียง หรือ ไม่เห็นชอบ หรือ ไม่มาลงคะแนน แต่ขณะเดียวกัน มีส.ว.13 คน ลงมติเห็นชอบ ให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี ประกอบไปด้วย 1. ศาสตราจารย์เกียรติคุณไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์ 2. พันตำรวจเอกจรุงวิทย์ ภุมมา 3. นายเฉลา พวงมาลัย 4. นายซากีย์ พิทักษ์คุมพล 5. พลตำรวจโทณัฏฐวัฒน์ รอดบางยาง 6. นายพิศาล มานณะวะพัฒน 7นายพีระศักดิ์ พอจิต 8. นายมณเฑียร บุญตัน 9. นายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์ 10.นายวันชัย สอนศิริ 11.นายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ 12.นายอำพล จินดาวัฒนะ 13.นางประภาศรี สุฉันทบุตร
‘พิธา’ ยอมรับแต่ไม่ยอมแพ้ ขอเวลาหายุทธศาสตร์รวบรวมเสียง ส.ว
นายพิธา ให้สัมภาษณ์ภายหลังการลงมติว่า ยอมรับผลการลงมติที่เกิดขึ้น ต้องยอมรับว่ามีการกดดัน ส.ว. และมี ส.ว. ไม่มาประชุมราว 40 คน ทำให้การลงคะแนนไม่ตรงตามที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณ ส.ว. ทั้ง 13 คนที่กล้าหาญและลงมติตามที่เคยสัญญากับประชาชน
นายพิธายืนยันว่ายังไม่ยอมแพ้ จะใช้เวลาหลังจากนี้หายุทธศาสตร์เพื่อรวบรวมเสียง มุ่งหน้าสู่การลงมติครั้งที่ 2 ซึ่งขึ้นอยู่กับประธานรัฐสภาว่าจะกำหนดเป็นวันใด
เมื่อถูกถามว่า ยังมีความมั่นใจในการจับมือกับพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ พิธากล่าวว่า “ผลโหวตบอกอย่างนั้น เรายังทำงานด้วยความเชื่อใจซึ่งกันและกันกับพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล”
เมื่อถูกถามว่า ในรอบหน้าพรรคก้าวไกลต้องยอมถอยนโยบายแก้ไข ม.112 หรือไม่ หรือจะปรับอย่างไรเพื่อหารือกับ ส.ว. พิธายืนยันว่ายังเหมือนเดิม เราได้สัญญากับประชาชนไว้อย่างไร เราก็ทำอย่างนั้น และถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ได้มีโอกาสอธิบายชี้แจงเรื่องนี้ในสภาฯ ว่าสิ่งที่เราพยายามนำเสนอนั้น มีเป้าหมายเดียวกันกับวุฒิสภาหรือ ส.ส. หลายคน เพียงแต่อาจประเมินต่างกัน หรือเข้าใจคลาดเคลื่อน ถ้ามีเวลาจะทำความเข้าใจเพิ่มเติมได้ ทั้งนี้ ต้องขอบคุณ ส.ว. ทั้ง 13 คนที่กล้าหาญและลงมติตามที่เคยสัญญากับประชาชน
สำหรับบรรยากาศรอบพื้นที่รัฐสภาบริเวณ แยกเกียกกายซึ่งมี กลุ่มประชาชนและมาให้กำลังใจ และลุ้นผลโหวตนายพิธา ในนาม Respect my vote พรรคก้าวไกล ได้ส่งนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล และตัวแทน สส.พรรคก้าวไกล 10 คนออกมาพบปะกับประชาชน ที่ให้กำลังใจ พร้อมยืนยันว่ายังสู้ต่อ หวังให้นายพิธาสู้ต่อในการลงมติโหวตนายกฯ รอบต่อไปในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้
อ่านเพิ่มเติม เปิดรายชื่อส.ว.ใคร โหวต-ไม่โหวต-งดออกเสียง-ขาดประชุม