ThaiPublica > ประเด็นร้อน > เลือกตั้งอย่างรับผิดชอบ 2566 > 10 นโยบายพรรคชาติไทยพัฒนา ระบุ “ไม่แจก-ไม่ประชานิยม อย่างไร้เหตุผล”

10 นโยบายพรรคชาติไทยพัฒนา ระบุ “ไม่แจก-ไม่ประชานิยม อย่างไร้เหตุผล”

11 พฤษภาคม 2023


10 นโยบายพรรคชาติไทยพัฒนา ไม่เน้นแจก ไม่ประชานิยม แต่จะสร้างความยั่งยืนให้ไทยและโลก โดยส่งเสริมเกษตรกรรุ่นใหม่ขายคาร์บอนเครดิต เปลี่ยนวิธีทำนาเปียกสลับแห้งรับเงินไร่ละ 1,000 บาท และยึดบรรหารโมเดลเดินหน้ารัฐธรรมนูญฉบับประชาชน

นิกร จำนง ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา

“ไม่แจก ไม่ประชานิยม” คือยุทธศาสตร์ในการทำนโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนาเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งปี 2566″

นายนิกร จำนง ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา บอกถึงที่มา 10 นโยบายพรรค ภายใต้สโลแกน WOW Thailand ซึ่งมาจาก Wealth, Opportunity and Welfare For All หรือ การสร้างความมั่งคั่ง สร้างโอกาส และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีเพื่อประชาชน คือการสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศมากกว่าการแจกเงินโดยไม่มีเหตุผล

10 นโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนา เริ่มจากเรื่องของการเมืองที่มุ่งไปที่การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดยจะนำเอาโมเดลของนายบรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ที่เคยเขียนรัฐธรรมนูญปี 2540 จากการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่รัฐแต่งตั้งคนให้เป็นคณะกรรมการแล้วไปยกร่างรัฐธรรมนูญ และทำประชามติจากประชาชน เพื่อให้เป็นฉบับประชาชนโดยแท้จริง

สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตามนโยบายนี้ นายนิกรบอกว่า ประมาณ 3,500 ล้านบาท จากการทำประชามติ การตั้ง สสร. และค่าประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับประชาชน

เกษตรกรรุ่นใหม่ขายคาร์บอนเครดิตได้

นโยบายที่สอง เรื่องสิ่งแวดล้อม การแก้ปัญหาโลกร้อน ที่นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาเคยไปประกาศในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 (COP26) ที่เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์

โดยเนื้อในของนโยบายนี้ต้องการทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางคาร์บอนเครดิตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทั้งในเรื่องของมาตรฐานด้านการวัด ประเมิน กำหนดเกณฑ์มาตรฐาน การรับรองผลการตรวจประเมิน

นอกจากนี้ จะทำให้ประเทศไทยเป็นตลาดซื้อ-ขายคาร์บอนเครดิต และการร่วมมือ วิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีด้านคาร์บอนเครดิต โดยนโยบายนี้ใช้เงินทั้งหมด 9,000 ล้านบาท โดยมุ่งไปที่ตัวเกษตรกรรุ่นใหม่ขายคาร์บอนเครดิตได้ จะมีรายได้ใหม่ มีอาชีพใหม่ ปีละแสนล้านบาท

นอกจากนี้ เกษตรกรที่ทำนาแล้วปรับเปลี่ยนจากการทำนาเปียกมาทำนาเปียกสลับแห้ง พรรคชาติไทยพัฒนาจะจ่ายให้ไร่ละ 1,000 บาท ขณะที่คาร์บอนเครดิตที่ลดจากการทำนาด้วยวิธีการนี้ก็สามารถนำมาขายสร้างรายได้อีกด้วย

นายนิกรบอกว่า การช่วยแก้ปัญหาโลกร้อน เป็นเรื่องที่อธิบายให้ชาวนาเข้าใจได้ยาก แต่หากเปลี่ยนการทำนาแบบเก่า และสามารถสร้างรายได้ทั้งการขายคาร์บอนเครดิตและอื่นๆ ช่วยให้เข้าใจมากขึ้น เช่น การเปลี่ยนการทำนาข้าวแบบเดิม มาเป็นนาเปียกสลับแห้ง ซึ่งช่วยลดก๊าซมีเทนได้และไม่เผาตอซังข้าว ทำให้ชาวนารายได้เพิ่มได้ พร้อมทั้งการสนับสนุนงบประมาณให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำนาได้ นอกจากช่วยชาวนาแล้วยังช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับโลกได้ด้วย

แจกพันธุ์ข้าวคุณภาพดี 60 ล้านไร่

ไม่เพียงเท่านั้น พรรคชาติไทยพัฒนายังมีนโยบายแจกพันธุ์ข้าวฟรีทั่วประเทศ 60 ล้านไร่ โดยจะแจกพันธุ์ข้าวฟรี และเป็นพันธุ์ข้าวที่ดี เพื่อลดต้นทุนการผลิต จะทำให้ชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้น 30% และพันธุ์ข้าวจะดีขึ้น นอกจากนี้ ยังจะให้เงินอีก 1 พันบาทสำหรับปรับปรุงดินอีกด้วย

“ที่เราต้องแจกพันธุ์ข้าวเพราะเราเข้าใจว่าที่ผ่านมาพันธุ์ข้าวของเราไม่ค่อยดีและต้องพึ่งพันธุ์ข้าวจากทุนขนาดใหญ่ เราไม่สามารถทำให้ชาวนาของเรามีความมั่นใจในเมล็ดพันธุ์ได้ เขาต้องซื้อพันธุ์ข้าวแพง พรรคชาติไทยพัฒนาจึงแจกพันธุ์ข้าวอย่างดี 60 ล้านไร่ ไม่ต้องพึ่งนายทุน โดยนโยบายนี้ใช้เงินประมาณ 8,000 ล้านบาท”

นายนิกรเชื่อว่า การแจกพันธุ์ข้าวที่ดี สามารถเพิ่มผลผลิตข้าวต่อไร่ประมาณ 25% เป็นอย่างน้อย และเมื่อผลผลิตดีชาวนาก็มีรายได้เพิ่ม ซึ่งเมื่อเกษตรกรมีรายได้เพิ่มก็ทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนในประเทศได้ดีขึ้น เนื่องจากชาวนาเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ การทำให้ชาวนายืนได้ด้วยขาของตัวเองจะสร้างความยั่งยืนได้มากกว่าการแจกเงินอย่างเดียว โดยไม่มีการผลิตหรือการเปลี่ยนแปลงในการเพิ่มผลผลิต

ขยายเขตไฟฟฟ้าทั่วประเทศ ค่าไฟ 2 บาทต่อหน่วย

การสนับสนุนการขยายเขตไฟฟ้าออกไปทั่วประเทศ เนื่องจากที่ผ่านมาชาวนาและเกษตรกรจำนวนมากต้องจ่ายค่าน้ำมันในการสูบน้ำเข้าพื้นที่การเกษตร ซึ่งน้ำมันมีราคาแพง แต่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง การขยายเขตไฟฟ้าจะช่วยให้เกษตรกรสามารถใช้ไฟฟ้าในการสูบน้ำเข้าพื้นที่เกษตรได้ในราคาถูกเพียง 2 บาทต่อหน่วยเท่านั้น

นิกร จำนง ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา

ไม่มีน้ำแล้ง สร้างบาดาลขนาดใหญ่ทุกตำบล

ไม่เพียงสนับสนุงบประมาณในการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำนา แต่การจัดหาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรและการอุปโภคบริโภคก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยพรรคชาติไทยพัฒนาเสนอนโยบายสร้างบ่อน้ำบาดาลขนาดใหญ่ เพื่อให้ใช้น้ำที่มีคุณภาพได้ตลอดทั้งปีไม่มีน้ำแล้ง โดยจะใช้งบประมาณ 7 หมื่นล้านบาทครอบคลุมพื้นที่ 2.6 ล้านไร่ ช่วยเหลือครัวเรือนได้ประมาณ 13 ล้านครัวเรือน

พัฒนาท้องถิ่นเพิ่มงบลงทุน 10 ล้านบาท

ส่วนการพัฒนาท้องถิ่น นายนิกรบอกว่า พรรคชาติไทยพัฒนามีอุดมการณ์ชัดเจนในเรื่องของการพัฒนาท้องถิ่น โดยหากจังหวัดไหนมีศักยภาพสามารถเลือกตั้งผู้ว่าราชการ หรือจัดทำเป็นเขตปกครองพิเศษ ไม่ใช่ทุกอย่างถูกสั่งตรงไปมาจากกระทรวงมหาดไทย เราอยากมีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการเช่นเดียวกับ กทม. หรือปกครองพิเศษอย่างเช่น พัทยา

นอกจากนี้ ยังเห็นว่าท้องถิ่นในหลายพื้นที่ยังมีปัญหาเรื่องของความเหลื่อมล้ำ โดยมีท้องถิ่นจำนวนมากประมาณ 7-8 หมื่นแห่ง แต่สามารถช่วยตัวเองได้ 20% เพราะต้องพึ่งพาส่วนกลางทั้งหมดเนื่องจากรายได้ไม่เพียงพอ บางแห่งมีเพียงเงินเดือนเจ้าหน้าที่ ไม่มีงบลงทุนหรืองบบริการประชาชน พรรคชาติไทยพัฒนาจึงมีนโยบายที่จะลดช่องว่างตรงนี้ โดยจะให้งบลงทุน 10 ล้านบาทกับท้องถิ่น เพื่อให้สามารถนำไปพัฒนาท้องถิ่นของตัวเองได้

“เราให้งบลงทุนไป 10 ล้านบาทเพื่อให้เป็นทุนตั้งต้นนำไปพัฒนา คนในท้องถิ่นจะได้สามารถเพิ่มรายได้ เทศบาลก็จะสามารถได้เก็บภาษีบำรุงท้องที่ได้มากขึ้น หากประชาชนในพื้นที่มีรายได้มากขึ้น โดยงบประมาณที่ให้ไป ท้องถิ่นอาจจะไปสร้างโรงสีประจำตำบล หรือซื้อเครื่องเกี่ยวข้าวบริการได้ เพราะปัจจุบันท้องถิ่นบางแห่งเก็บรายได้จำนวนมาก บางแห่งเก็บไม่ได้เลย เราจึงต้องการลดความเหลื่อมล้ำตรงนี้

เรียนในสิ่งที่ใช่ ใช้ในสิ่งที่เรียน

ส่วนในเรื่องของการพัฒนาคน นิกรบอกว่า ที่ผ่านมาการเรียนการสอนไม่ตรงกับความต้องการของตลาด ทำให้คนที่เรียนปริญญาตรีจำนวนมากตกงาน พรรคชาติไทยพัฒนาจึงส่งเสริมให้เรียนในสิ่งที่ตลาดต้องการและไม่ตกงาน

“ที่ผ่านมาเรียนปริญญาตรีไม่มีงาน ทำให้เราคิดว่าจะส่งเสริมการเรียนที่ตลาดต้องการเป็นเรื่องสำคัญ ขณะที่ปัจจุบันตลาดก็มีความเปลี่ยนแปลงไปจำนวนมาก การพัฒนาหลักสูตรเพื่อตอบสนองเรื่องนี้เป็นเรื่องจำเป็น”

สุขภาพดีมีเงินคืน 3,000 บาท

ส่วนสวัสดิการด้านสุขภาพ พรรคชาติไทยพัฒนามองในมุมกลับกัน ไม่ได้มุ่งที่รักษาฟรี แต่ไปเน้นที่การป้องกัน โดยหากประชาชนสามารถดูแลสุขภาพได้ดี มีเงินคืน โดยนำผลตรวจสุขภาพประจำปีที่ไม่เคยเข้ารับการรักษาพยายาล จะจ่ายคืนตามสิทธิค่าหัวบัตรสุขภาพ 3,000 บาท

โดยจะส่งเสริมการจัดเก็บข้อมูลกิจกรรมทางสุขภาพ เช่น การตรวจสุขภาพประจำปี กิจกรรมการออกกำลังกาย ประวัติการรักษาพยาบาลผ่านแอปพลิเคชัน สำหรับประชาชนที่สุขภาพดี ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่มีประวัติการรักษาพยาบาล สามารถรับเครดิต 3,000 บาทเพื่อซื้อสินค้า

นายนิกรบอกว่า ไม่มีโรคเป็นลาภประเสริฐ เพราะฉะนั้น พรรคชาติไทยพัฒนาจะเน้นในเรื่องของการป้องกันโรคมากกว่าการเข้าไปรักษาในโรงพยาบาล โดยส่งเสริมให้ออกกำลังกายดูแลสุขภาพ เพื่อให้มีสุขภาพดี

เบี้ยคนพิการ 3,000 บาทสร้างงานผู้สูงอายุ

ส่วนสวัสดิการเรื่องของผู้สูงอายุและผู้พิการ พรรคชาติไทยพัฒนาจะมีนโยบายเพิ่มเบี้ยคนพิการ 3,000 บาทต่อเดือน และจะสร้างงานให้กับคนพิการและผู้สูงอายุ โดยจะทำให้คนพิการมีงานทำอย่างสมศักดิ์ศรี ไม่ใช่เรื่องสงเคราะห์อย่างเดียว

นายนิกรบอกว่า ที่ผ่านมาตลอด 20 ปี พรรคชาติไทยพัฒนาให้ความสำคัญในเรื่องของศักดิ์ศรีคนพิการ โดยสนับสนุนเฟสปิกเกมส์ กีฬาคนพิการ ทำให้คนพิการสามารถแข่งขันกีฬาได้อย่างสมศักดิ์ศรี ดังนั้น จึงจะหาช่องทางในการทำให้ทั้งคนพิการและผู้สูงอายุมีงานทำโดยจะพิจารณาความเชี่ยวชาญของผู้พิการว่าเหมาะสมกับงานด้านไหน หน่วยงานใด ทั้งภาครัฐและเอกชน

ขนส่งมวลชนเท่าเทียมทั่วไทย

ส่วนเรื่องของขนส่งมวลชน นายนิกรบอกว่ายังเป็นปัญหา แม้ว่ากรุงเทพฯ จะมีรถไฟฟ้าหลากสี แต่ยังมีปัญหาราคาค่าโดยสารแพง ขณะที่คนชานเมืองยังต้องพึ่งพารถเมล์ จึงเห็นว่าควรจะพัฒนาให้ขนส่งมวลชนเท่าเทียมกันทั่วประเทศ ราคาค่าโดยสารต้องเหมาะสม

ขณะที่ต้องพัฒนาให้รถเมล์ติดแอร์ทั้งหมด คนอายุ 60 ปี นักเรียน รัฐจะต้องช่วยจ่าย รวมไปถึงการพัฒนาระบบขนส่งคนมายังรถไฟฟ้าเพื่อให้คนใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น โดยรถไฟฟ้าอาจจะต้องเปิดให้นักเรียนขึ้นฟรีเพื่อเป็นสวัสดิการ ประชาชน

นายนิกรเชื่อว่า ทั้ง 10 นโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนา ได้วางกลยุทธ์ครบทุกมติเพื่อสู้ศึกการเลือกตั้งปี 2566 ที่เน้นการสร้างความยั่งยืนโดยไม่แจกไม่ประชานิยมอย่างไร้เหตุผล