ThaiPublica > ประเด็นร้อน > เลือกตั้งอย่างรับผิดชอบ 2566 > Meta คุมโฆษณา-หาเสียงไม่มี ‘เฮท สปีช-ข้อมูลเท็จที่เป็นอันตราย’ เตรียมพร้อมเลือกตั้ง 2566

Meta คุมโฆษณา-หาเสียงไม่มี ‘เฮท สปีช-ข้อมูลเท็จที่เป็นอันตราย’ เตรียมพร้อมเลือกตั้ง 2566

4 เมษายน 2023


Meta เพิ่มมาตรการคุมเข้มโฆษณาหาเสียงไม่มีเนื้อหา “เฮท สปีช” ข้อมูลเท็จที่เป็นอันตราย ความรุนแรง แสดงความเกลียดชัง เพื่อเสริมมาตรการความปลอดภัยเพื่อความโปร่งใส เตรียมพร้อมการเลือกตั้งปี 2566

นางสาวแคลร์ อมาดอร์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะประจำประเทศไทยและฟิลิปปินส์

พรรคการเมืองเริ่มใช้ช่องทางออนไลน์ในการหาเสียงเลือกตั้งปี2566 ทำให้ Meta เพิ่มมาตรการเพื่อการเลือกตั้งโปร่งใส รักษาความปลอดภัยในการรับข้อมูล พร้อมแนวทางการปกป้องการแทรกแซงและส่งเสริมความโปร่งใสในการนำเสนอข้อมูลและข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไปที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคม ปี 2566

นางสาวแคลร์  อมาดอร์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะประจำประเทศไทยและฟิลิปปินส์ กล่าวว่า Meta ดำเนินงานเชิงรุก 5 แนวทางเพื่อทำให้การเลือกตั้งโปร่งใส โดยการจัดตั้งทีมงานเชิงปฏิบัติการด้านการเลือกตั้ง การพัฒนานโยบายที่แข็งแกร่งมากขึ้นเพื่อจัดการกับเนื้อหาและเครือข่ายที่อันตราย การต่อสู้กับข้อมูลเท็จ การเพิ่มความโปร่งใสในการเผยแพร่โฆษณาที่เกี่ยวกับการเมือง และการดำเนินโครงการที่มุ่งเสริมสร้างทักษะความเข้าใจและการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลและโครงการเพื่อส่งเสริมบทบาทพลเมือง

ทั้งนี้การเลือกตั้งทั่วโลกได้เปลี่ยนแปลงไปจากในอดีต Meta ได้ยกระดับและต่อยอดจากประสบการณ์การทำงานระดับโลก พร้อมรับฟังและเรียนรู้จากความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ รวมถึงประสานงานกับหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแทรกแซงและสนับสนุนความโปร่งใสในการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทย เราตระหนักถึงหน้าที่ความรับผิดชอบที่สำคัญของเราในการสนับสนุนการมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งของคนไทย และลดความเสี่ยงในการแทรกแซงกระบวนการการเลือกตั้งบนแพลตฟอร์มของเรา

ทั้งนี้ Meta พร้อมสนับสนุนการมีส่วนร่วมของผู้คนทั้งในประเทศไทยและในระดับโลก ผ่านการจัดสรรทรัพยากรบุคคลกว่า 40,000 อัตราในการทำงานเชิงรุกด้านความปลอดภัยและความมั่นคงไซเบอร์ และในปี 2564 บริษัทได้ลงทุนด้วยงบประมาณมูลค่าราว 5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ  เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการต่อสู้กับการแทรกแซงจากต่างชาติและขบวนการสร้างอิทธิพลภายในประเทศ รวมไปถึงการลดปริมาณข้อมูลเท็จและต่อสู้กับการสกัดกั้นผู้ใช้สิทธิ์

สำหรับการเลือกตั้งในประเทศไทย Meta ได้จัดเตรียมทีมงานเพื่อดำเนินการด้านการเลือกตั้งโดยเฉพาะ  ซึ่งประกอบด้วยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในหัวข้อดังกล่าวที่มีเข้าใจและคุ้นเคยกับบริบทในระดับท้องถิ่นของประเทศไทยเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบและจัดการกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้แบบเรียลไทม์  และมีพนักงานชาวไทยที่พูดภาษาไทยเพื่อจัดการกับภัยคุกคามที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการเลือกตั้งและเนื้อหาที่เป็นอันตราย เช่น ข้อมูลเท็จที่เป็นอันตราย ซึ่งรวมถึงการสกัดกั้นผู้ใช้สิทธิ์ Meta ได้ใช้เทคโนโลยี AI ที่เข้าใจภาษาท้องถิ่นเพื่อตรวจจับและกำจัดการสื่อสารที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) ในเชิงรุก รวมถึงการกลั่นแกล้ง (bullying) การล่วงละเมิด (harassment) และเนื้อหาที่ละเมิดนโยบายความรุนแรงและการยั่วยุในมาตรฐานชุมชนของ Meta ซึ่งถูกบังคับใช้ในชุมชนระดับโลกของ Meta ทั้งหมด พร้อมกับการดำเนินงานของผู้ตรวจสอบดูแลเนื้อหาที่ทำหน้าที่ตรวจสอบเนื้อหาต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มเป็นภาษาไทย

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายเพื่อป้องกันการแทรกแซงผู้ใช้สิทธิ์ไม่อนุญาตให้เผยแพร่เนื้อหาที่เป็นอันตรายหลายประเภทที่ส่งเสริมให้เกิดการแทรกแซงหรือสกัดกั้นการลงคะแนนเสียง เช่น การบิดเบือนความจริงเกี่ยวกับวันที่ สถานที่ เวลา และวิธีการในการลงคะแนนเสียงหรือการลงทะเบียนเลือกตั้ง หรือข้อเสนอในการซื้อขายเสียงด้วยเงินสดหรือของกำนัลต่าง ๆ

Meta ได้จัดตั้งทีมงานเฉพาะเพื่อตรวจสอบและยับยั้งความพยายามในการเข้าถึงผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มโดยมีวัตถุประสงค์ที่ไม่โปร่งใส และได้ใช้เทคโนโลยีตรวจจับเพื่อตรวจหาและหยุดความพยายามในการสร้างบัญชีปลอมนับล้านบัญชี โดยบ่อยครั้งบริษัทสามารถตรวจเจอและลบบัญชีปลอมภายในเวลาไม่กี่นาที หลังจากที่บัญชีเหล่านั้นถูกสร้างขึ้นมา ทั้งนี้ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 มีบัญชีปลอมจำนวนกว่า 1.3 พันล้านบัญชีที่ถูกลบออกไปจากแพลตฟอร์ม เพื่อสนับสนุนให้ชาวไทยได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน พร้อมต่อสู้กับข้อมูลเท็จ

ส่วนการโฆษณาการเลือกตั้งซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Meta ก็ได้พัฒนาแพลตฟอร์มและเครื่องมือต่างๆ ที่จะเพิ่มความโปร่งใสที่มากขึ้นในการโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง การเมือง และประเด็นสังคม ในปัจจุบันผู้โฆษณาจะต้องผ่านขั้นตอนการขออนุญาตที่ต้องยืนยันตนเองด้วยบัตรประชาชนพร้อมรูปภาพที่ออกบัตรโดยรัฐบาล  และระบุข้อความ “ได้รับสปอนเซอร์จาก” บนโฆษณาของพวกเขา เพื่อให้ผู้คนในประเทศไทยรับรู้ว่าใครเป็นผู้สนับสนุนโฆษณาดังกล่าว

นอกจากนี้ คนไทยยังสามารถค้นหาโฆษณาที่ถูกดำเนินการอยู่บน Facebook ได้จากคลังโฆษณา (Ad Library) ที่ให้บริการแก่บุคคลทั่วไป เพื่อตรวจสอบว่าโฆษณาถูกโพสต์ลงเมื่อใด ในแพลตฟอร์มใด และใครเป็นคนสปอนเซอร์โฆษณานั้น ๆ รวมถึงฟีเจอร์เกี่ยวกับบัญชีนี้ (About This Account) บน Instagram ที่จะช่วยให้บริบทข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อช่วยให้ผู้คนสามารถประเมินความน่าเชื่อถือของบัญชีผู้ใช้ได้ดีขึ้น เพื่อไม่ให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง  Meta การทำงานกับเครือข่ายระดับโลกที่ประกอบด้วยองค์กรผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอิสระจำนวนกว่า 90 ราย เพื่อตรวจสอบเนื้อหากว่า 60 ภาษารวมถึงภาษาไทย

สำหรับข้อมูลเท็จประเภทที่มีเนื้อหารุนแรง เช่น ข้อมูลเท็จที่มีวัตถุประสงค์ในการสกัดกั้นผู้ใช้สิทธิ์หรืออาจก่อให้เกิดความรุนแรงและอันตรายต่อร่างกาย  เนื้อหาประเภทนี้จะถูกลบออกจากแพลตฟอร์มของ Meta ในกรณีที่เนื้อหาไม่ละเมิดมาตรฐานเหล่านี้ แต่ได้รับการตรวจสอบและประเมินว่าเป็นข้อมูลเท็จ ข้อมูลดังกล่าวจะถูกลดการเผยแพร่และถูกติดป้ายแจ้งเตือนที่มาพร้อมการแสดงข้อมูลเพิ่มเติม ในประเทศไทย โดยได้ร่วมมือกับ AFP Thailand ในฐานะผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอิสระที่ทำหน้าที่ตรวจสอบเนื้อหาทั้งในภาษาอังกฤษและภาษาไทยอีกด้วย

นางสาวอิง ศิริกุลบดี ผู้จัดการฝ่ายนโยบายสาธารณะ Facebook ประเทศไทย

ด้านนางสาว อิง ศิริกุลบดี ผู้จัดการฝ่ายนโยบายสาธารณะ Facebook ประเทศไทย จาก Meta กล่าวว่า “การทำงานร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่นอย่างใกล้ชิดมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเราเชื่อว่าการเสริมสร้างสังคมดิจิทัลที่ได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและครบถ้วนและการเชื่อมต่อผู้คนให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่น่าเชื่อถือบนโลกออนไลน์จะต้องมาจากความพยายามร่วมกันของทุกภาคส่วน ทั้งภาคอุตสาหกรรม ภาคประชาสังคม และภาครัฐ เรามีความมุ่งมั่นในการสานต่อโครงการเพื่อให้ความรู้และส่งเสริมทักษะความเข้าใจและการใช้งานดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้ชาวไทยเข้าใจนโยบายของเราได้ดียิ่งขึ้น และใช้พลังของเทคโนโลยีเพื่อการมีส่วนร่วม”