ThaiPublica > ประเด็นร้อน > เลือกตั้งอย่างรับผิดชอบ 2566 > ปชป.ชู 16 นโยบายฟื้นประเทศ เดินหน้าประกันรายได้เกษตร ‘สร้างเงิน  สร้างคน สร้างชาติ’

ปชป.ชู 16 นโยบายฟื้นประเทศ เดินหน้าประกันรายได้เกษตร ‘สร้างเงิน  สร้างคน สร้างชาติ’

10 เมษายน 2023


พรรคประชาธิปัตย์ เสนอ 16 นโยบาย สู้ศึกเลือกตั้ง 2566 เดินหน้าประกันรายได้เกษตรกรแจกชาวนา 3 หมื่นบาทต่อครอบครัว พร้อมเปลี่ยน 3 จังหวัดชายแดนใต้เป็นพื้นที่สันติภาพและความมั่นคงทางอาหาร

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

พรรคประชาธิปัตย์ เสนอ 16 นโยบายในการสู้ศึกเลือกตั้งปี 2566 ภายใต้สโลแกน ‘สร้างเงิน  สร้างคน สร้างชาติ’  แล้วที่มาที่ไปของนโยบายเหล่านี้มีกรอบคิดอย่างไร

สำนักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้า ได้พูดคุยกับ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคฯถึงเบื้องหลังวิธีคิดก่อนจะมาเป็น 16 นโยบายมีที่มาที่ไปอย่างไร

นายนิพนธ์ บอกว่าก่อนที่จะแตกออกไปเป็น 16 นโยบายเริ่มมาจากการวางยุทธศาสตร์ 3 สร้าง คือ สร้างเงิน สร้างคน  สร้างชาติ จากนั้นแตกออกไปเป็นนโยบายแต่ละด้าน  

ในส่วนโยบายแรกจะเน้นไปที่ “การสร้างเงิน” เพราะเห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศ หลังวิกฤติโควิด-19 มีปัญหาในหลายด้านโดยเฉพาะเรื่องของรายได้เกษตรกร ซึ่งถือเป็นฐานรากกระดูกสันหลังของประเทศ เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่อยู่ที่ภาคเกษตรเพราะฉะนั้นการอัดฉีดเงินลงไปในภาคเกษตรกรเกือบ 40 ล้านคน เน้นที่การกระตุ้นรายได้ของภาคเกษตรเกษตรกรก่อนอันดับแรกเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม

“การประกันรายได้” คือมาตรการที่จะเข้าไปช่วยเหลือภาคเกษตรเพราะการประกันรายได้ถือเป็นดีเอ็นเอของพรรคประชาธิปัตย์และเป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาลว่าต้องดำเนินนโยบายนี้ ทำให้ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ในฐานะที่พรรคประชาธิปัตย์ดูแลกระทรวงเกษตรฯได้ขับเคลื่อนนโยบายประกันรายได้มาอย่างต่อเนื่อง

“เราประกันรายได้พืชเศรษฐกิจมี ข้าว ข้าวโพด ยางพารา มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน โดยใช้เงินทั้งหมด 5 แสนล้านบาท ทำให้ 4 ปีที่ผ่านมาไม่มีเกษตกรมาล้อมทำเนียบรัฐบาล เราไม่เห็นภาพเหล่านั้น ไม่มีสินค้าเกษตรมาเท ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จ ไม่มีข่าวทุจริต เงิน 5 แสนล้านบาท ไม่มีรั่วไหล ถึงมือเกษตรกรเพราะจ่ายเงินผ่านธกส.เข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง”

เดินหน้าประกันรายได้-เติมเงินชาวนา 3 หมื่นบาท

นายนิพนธ์ บอกว่าในการเลือกตั้งปี 2566 พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศเดินหน้ามาตรการประกันรายได้ให้เกษตรกรต่อไป ในเรื่องข้าวจะดูแลชาวนามีนโยบายชาวนารับ 3 หมื่นบาทต่อครอบครัว เพื่อให้นำเงิน 3 หมื่นบาทไปปรับปรุงกระบวนการผลิต ลดต้นทุนการผลิต และหากเก็บเกี่ยวแล้วสามารถจัดการกับซังข้าวไม่ให้เผา จ่าย 2,000 บาทต่อไร่ แต่ถ้าเผาเราไม่จ่าย เป็นเงื่อนไขเวลาเก็บเกี่ยวข้าวเพื่อช่วยลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5

“ชาวนาที่ไม่เผาซังข้าวหลังการเก็บเกี่ยวจะได้ไร่ละ 2,000 บาทคนละไม่เกิน 15 ไร่ ส่วนเงิน 3 หมื่นบาท/ครอบครัว ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวชาวนาสามารถนำไปใช้ในการพัฒนากระบวนการผลิตของตัวเองซื้อเครื่องจักรเพื่อช่วยลดต้นทุนได้”

นอกจากนี้เราจะให้ค่าตอบแทนกับอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน( อกม. )ของกระทรวงเกษตร ที่มีประมาณหมื่นกว่าคน ทำหน้าที่แนะนำเกษตรกรในการเพิ่มผผลิต ลดต้นทุนการทำเกษตร จะให้ผลตอบแทนเดือนละ 1,000 บาท ถ้าคิดเป็นวันละ 3บาท เพื่อเป็นกำลังใจให้ในการส่งเสริมการทำเกษตร

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

“สร้างคนคุณภาพ” ดื่มนมฟรี 365 วัน

ส่วนนโยบายการ ‘สร้างคน’ นายนิพนธ์ บอกว่าการสร้างคนเป็นอีกยุทธศาสตร์ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยนโยบายทำควบคู่ไปกับการดูแลเกษตรกรด้านปศุสัตว์ที่เลี้ยงโคนม จะให้นักเรียนดื่มนมฟรีทุกวัน หรือ 365 วัน ไม่มีวันหยุด ที่ผ่านมานโยบาย นมโรงเรียนให้ดื่มนม 5 วันต่อสัปดาห์ แต่ประชาธิปัตย์ให้ดื่มนมทุกวันเพื่อเสริมสุขภาพของเด็ก โดยจะให้บริหารจัดการนำนมโรงเรียนกลับบ้านไปดื่มได้ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์

นายนิพนธ์ บอกว่านโยบายนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มคุณภาพโภชนาการให้เด็กวันเรียนเท่านั้นแต่ยังช่วยเกษตรกรเลี้ยงโคนม ขายน้ำนมได้เพิ่มมากขึ้น ถือว่าช่วยได้ 2 ทางคือช่วยเกษตรกรที่เลี้ยงปศุสัตว์และช่วยเด็กให้มัคุณภาพที่ดี

นี่คือวิธีการสร้างคนของพรรคประชาธิปัตย์ที่ทำมาต่อเนื่องตั้งแต่รัฐบาลนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี ในปี 2536 จนถึงปัจจุบัน 30 ปีที่นโยบายนี้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง แต่ต่อยอดนโยบายเดิมให้ได้ประโยชน์มากขึ้นโดยให้ดื่มนมปรี 365 วัน

นอกจากนี้ ในส่วนนโยบายสร้างคนยังรวมถึง การให้เรียนฟรีถึงปริญญาตรี แต่เป็นสาขาที่ตลาดต้องการหรือสาขาขาดแคลน เนื่องจากขณะนี้มีทักษะที่การศึกษาของเราไม่สามารถผลิตให้ตอบโจทย์ตลาดแรงงานได้ โดยในสาขาขาดแคลนมีความต้องการแรงงานประมาณ แสนตำแหน่ง เพราะนั้นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์จะส่งเสริมการเรียนในสาขาเหล่านี้ โดยให้เรียนฟรีค่าหน่วยกิตเพราะเราอยากให้มีการเรียนการสอนที่มีทักษะตอบสนองกับตลาดมากขึ้น”

นายนิพนธ์ ยังบอกอีกว่า การสร้างคนถือเป็นความเชี่ยวชาญของพรรคประชาธิปัตย์ และคนคาดหวังในเรื่องนี้กับพรรค เนื่องจากที่ผ่านมาเมื่อมีการสำรวจ การทำนโยบายหากถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ทำเรื่องอะไรได้ดีก็จะบอกว่าเรื่องการศึกษามาเป็นอันดับหนึ่ง

“พรรคดูแลกระทรวงศึกษามานาน เราทำมาตั้งแต่เรื่อง นมโรงเรียน  อาหารกลางวัน กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ) เรียนฟรี 5 อย่าง สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ  เวชชาชีวะ นโยบายเรื่องการสร้างคน พูดแล้วทำจริง ทำได้”

นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้มี อินเทอร์เน็ตฟรี 1 ล้านจุด โดยเฉพาะในห้องเรียนซึ่งได้สำรวจแล้ว มีห้องเรียนประมาณ 3 แสนห้องต้องมีอินเทอร์เน็ต ส่วนที่หลือประมาณ 6 แสนจุดให้ติดตั้งในหมู่บ้าน เพื่อส่งเสริมการซื้อขายออนไลน์ หรือการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการลดต้นทุนการผลิตโดยผ่านออนไลน์

ตั้งธนาคารหมู่บ้าน 2 ล้านบาท ทั่วประเทศ

ส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจ นายนิพนธ์ บอกว่า จะอัดฉีดเงินเข้าฐานรากให้ตั้งธนาคารหมู่บ้านและชุมชนหมู่บ้านละ 2 ล้านบาท เพื่อให้คนในชุมชน ในหมูบ้าน มีเงินใช้จ่าย หรือเข้าถึงแหล่งทุนมากขึ้น  เนื่องจากการอัดฉีดเงินในระบบเศรษฐกิจ ถ้าอัดฉัดเข้าไปที่ฐานรากเงินจะหมุนหลายรอบ จะทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าได้จากกำลังซื้อที่เกิดขึ้น

“เรามุ่งไปที่กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก  โดยปรับให้เป็นธนาคารหมู่บ้านละ 2 ล้านบาท โดยจะร่วมมือกับกลุ่มออมทรัพย์ต่าง ๆ ในชุมชนเพื่อยกระดับการออมทรัพย์ และกองทุนเงินล้านให้เป็นรูปแบบธนาคารให้บริการชุมชนในระดับรากหญ้า”

แจกโฉนดที่ดิน 1 ล้านแปลงใน 4 ปี

ส่วนการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน ซึ่งเห็นว่าที่ดินเป็นปัจจัยหลัก ดังนั้น สำหรับที่ดินไม่ใช่ของรัฐ แต่ประชาชนถือครองที่ดินมานานยังไม่มีเอกสารสิทธิ จะเร่งออกโฉนดให้ได้ใน 4 ปี 1 ล้านแปลง

“เราถือว่าที่ดินคือชีวิต การให้ที่ดินคือการให้ชีวิต ที่ผ่านเราได้ดำเนินการเร่งออกโฉนดให้แล้วประมาณ 7 แสนแปลง แต่ครั้งนี้เราจะเร่งออกโฉนดที่ดินสำหรับประชาชนที่ถือครองที่ดินไม่ใช่ของรัฐ ให้ได้ 1 ล้านแปลง เพราะว่าที่ดินคือที่ทำกิน และสามารถแปลงเป็นทุนได้”

พรรคประชาธิปัตย์มีนโยบายให้ที่ดินทำกิน และหากทำมาหากินในพื้นที่ดังกล่าวมานานแล้ว ไม่ได้เป็นที่ป่าสงวน ไม่ได้เป็นพื้นที่บุกรุกใหม่ ถ้าพิสูจน์ได้ ก็พร้อมออกโฉนดให้เช่นกัน

“ปัญหาที่ว่าคนรุกพื้นที่ป่า แต่อยู่มานาน ทำกินมานาน ถ้าไม่แก้ปัญหา ก็จะมีความผิดฐานบุกรุก แต่เราไม่ได้ประสงค์จะเอาคนทำมาหากินที่ไม่ได้เจตนาและทำเกษตรมานานแล้วเข้าคุกเข้าตาราง เราจะมาแก้ไขปัญหาตรงนี้ โดยให้ที่ทำกินแต่ถ้าพิสูจน์ได้ว่าอยู่มานานก่อนที่จะมีการประกาศเขตป่าก็พร้อมออกโฉนดให้”

ส่วนเรื่องการจัดการน้ำ พรรคประชาธิปัตย์มีแนวคิดในเรื่องของการจัดเก็บน้ำจืด สร้างเขื่อนกั้นน้ำท่วม เก็บน้ำจืด  โดยจะดำเนินการในอ่าวไทยรูปตัว ก. ตั้งแต่แหลมแท่น จ ชลบุรี ถึง จ.เพชรบุรี เพื่อไม่ให้น้ำท่วม กทม. และยังเก็บน้ำจืดเอาไว้ใช้ในหน้าแล้งได้

“โครงการนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่ใช้เงินแสนล้านล้าน ทำให้อ่าวไทยรูปตัว ก.เป็นแหล่งน้ำจืดใหญ่มีประตูเปิดปิดได้เอาน้ำไว้ใช้ในลุ่มน้ำภาคกลาง ขณะที่ภาคอีสาน เรามองโครงการผันน้ำจากลุ่มน้ำโขงมาใช้ โดยผลักดันระบบชลประทานของเรา ขยายท่อ ขยายน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำแล้งในอีสาน”

ปลดล็อค กบข.เปลี่ยนเป็นทุนซื้อบ้านได้

นโยบายที่เกี่ยวกับการช่วยในเรื่องของสวัสดิการและคุณภาพชีวิต นายนิพนธ์ บอกว่าจะปลดล็อคกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพประมาณ 30 % ให้สามารถให้นำเงินออกมาซื้อบ้านได้เนื่องจากมูลค่าบ้านเพิ่มสูงขึ้นการนำเงินดังกล่าวออกมาบางส่วนช่วยให้ไม่ต้องไปกู้ยืมที่อื่นลดการเป็นหนี้ของข้าราชการ

“การปลดล็อคกองทุน กบข./กองทุนเลี้ยงชีพ 30 % ให้เอาออกมาซื้อบ้านต้องแก้ไขกฎหมาย แต่เราเชื่อว่าหากสามารถปลดล็อคกฎหมายได้ จะช่วยให้ข้าราชการและพนักงานเอกชนมีบ้านอยู่อาศัย และที่ผ่านมากองทุนฯนี้ก็นำเงินไปลงทุนหุ้นในต่างประเทศอยู่แล้ว จึงคิดว่าหากนำเงินมาลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ น่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากขึ้นด้วย”

ส่วนเรื่อสุขภาพ จะเพิ่มการรักษาฟรี ให้มีสิทธิตรวจสุขภาพได้ทุกโรค ถือเป็นการป้องกันก่อนรักษา ขณะที่เรื่องของผู้สูงอายุจะดูแลผู้สูงอายุผ่านชมรมผู้สูงอายุ ที่มีจำนวนมากทั่วประเทศ ชมรมละ 3 หมื่นบาท เพื่อให้ชมรมผู้สูงอายุสามารถนำเงินไปซื้ออุปกรณ์ในการดูแลผู้สูงอายุได้

เปลี่ยน 3 จว.ใต้เป็นพื้นที่ความมั่นคงอาหาร

นอกจากในเรื่องของความมั่นคงทางอาหารจะเปลี่ยนพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ให้เป็นพื้นที่ความมั่นคงทางอาหาร  โดยจะสร้างสันติภาพ สู่สันติสุขชายแดนใต้ ตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา เราใช้งบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ ประมาณ 4-5 แสนล้านบาท เพราะฉะนั้นถึงวันนี้เราต้องเดินหน้าการเจรจาเพื่อสันติภาพ พูดคุยกันเพื่อสร้างสันติสุขให้ได้

“ผมคิดว่าต้องทำเรื่องสันติภาพให้จบคือต้องพูดคุยกันให้จบก่อนไม่เอาชนะด้วยอาวุธ เพราะที่ผ่านมาเราเห็นกันมาเยอะแล้วสงครามใหญ่ ๆหลายครั้งจบลงด้วยการพูดคุยกัน  ที่ผ่านมาแม้จะมีการเจรจาแต่ยังไม่ชัดเจน ครั้งนี้พรรค ปชป.ส่งสัญญาว่าจะทำเรื่องนี้ เราจะมาพูดคุยกันว่าจะให้เขามีจุดยืนทางการเมืองได้อย่างไร”

นายนิพนธ์ บอกว่า เขาลงไปในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้และอยากเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่ความมั่นคงทางอาหาร เปลี่ยนนาร้างเป็นนาข้าว  หรือ ทำให้ปัตตานี เป็นส่วนทุเรียน ขณะที่ยะลาเป็นฮับของอาหารฮาลาล ผลิตอาหารให้กับชาวมุสลิมทั่วโลก

“ตอนนี้ผมเองก็ไปทำเรื่องปศุสัตว์ เลี้ยงไก่ เลี้ยงโคเนื้อโคลังกาสุกะ โดยให้เงินทุนเกษตรกร 14 กลุ่มให้มีเงินกู้ มีแหล่งทุนเลี้ยงตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ เพราะถ้าเราเลี้ยงปลายน้ำอย่างเดียวต้องหาลูกมาเลี้ยงใหม่ แต่ถ้าหาพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ ในพื้นที่ เราสามารถเลี้ยงตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ไปจนถึงการแปรรูป เป็นศูนย์อาหารฮาลาลส่งไปในพื้นที่ต่างๆได้”

นายนิพนธ์ บอกว่านโยบายของเราคือทำให้พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้เป็นพื้นที่ความมั่นคงทางด้านอาหาร เพราะสิ่งที่คนในพื้นที่เผชิญอยู่ขณะนี้คือความยากจน ถ้าเราแก้ปัญหาดังกล่าว ปัญหาที่มีอยู่จะสามารถแก้ไขได้

ส่วนเรื่องของการ สร้างชาติ พรรคประชาธิปัตย์เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ เปิดให้มีการกระจายอำนาจมากขึ้น รวมไปถึง การกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยการเสริมความแข็งแกร่งให้กับ SME ในรูปแบบกองทุน 3 แสนล้านบาท เพื่อเป็นแต้มต่อให้ SME มีแหล่งทุนใหม่ในการฟื้นตัวกับมาสร้างรายได้อีกครั้ง

นายนิพนธ์บอกว่าฝันของพรรคประชาธิปัตย์ คือ อยากเห็นการพัฒนาประเทศ แล้วคนในประเทศมีความสุขมีคุณภาพชีวิตที่ดี  ดังนั้นนโยบายพรรคให้ความสำคัญกับคนเป็นเรื่องใหญ่ และพรรคประชาธิปัตย์ก็ดูแลเรื่องการสร้างคน การสร้างศึกษามาอย่างต่อเนื่อง

“ที่ผ่านมาพรรคการเมืองหลายพรรคบอกว่า เราชอบพูดเรื่องความหลัง แต่พรรคพูดความหลังได้เพราะ เป็นสถาบันทางการเมือง แต่บางพรรคที่ไม่พูดพราะว่าเขาตั้งใหม่ เขาไม่มีประวัติศาสตร์มาให้พูด พรรคประชาธิปัตย์ดูแลเรื่องการศึกษามาตั้งแต่สมัยรัฐบาลพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ดูแลระบบสาธารณสุข สร้าง รพ.อำเภอจนครบทุกอำเภอ ถ้าไม่มีโครงสร้างเหล่านี้จะรักษาฟรีได้อย่างไร”

นายนิพนธ์ บอกว่า ด้วยประสบการณ์ ที่ยาวนานของพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้เชื่อว่า พรรคประชาธิปัตย์จะได้รับความไว้วางใจอีกครั้งในการเลือกตั้งปี 2566 นี้