ThaiPublica > ข่าวประชาสัมพันธ์ > SAM ปิดดีลขายหุ้นกู้ครั้งแรก 2,500 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า สะท้อนความเชื่อมั่นผู้ลงทุน

SAM ปิดดีลขายหุ้นกู้ครั้งแรก 2,500 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า สะท้อนความเชื่อมั่นผู้ลงทุน

18 มกราคม 2023


ข่าวประชาสัมพันธ์

นายธรัฐพร เตชะกิจขจร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.)

นายธรัฐพร เตชะกิจขจร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เปิดเผยว่า SAM ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ (Institutional Investors and High Net Worth Investors) ในการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งแรก ประเภทหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน วงเงิน 2,500 ล้านบาทอายุ 3-7 ปี เมื่อเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยมียอดจองเกินเป้าหมาย ถือเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนที่มีต่อ SAM  ที่สะท้อนถึงบทบาทในการเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ของรัฐเพียงแห่งเดียวที่ทำหน้าที่เป็นกลไกของรัฐ ในการดำเนินนโยบายที่สำคัญด้วยการเข้าซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงิน เพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงิน

สำหรับหุ้นกู้ที่ SAM เสนอขายครั้งแรกนี้ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้จาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่ระดับ AA+ โดยแบ่งเป็น 3 ชุด ได้แก่ ชุดที่ 1 มูลค่า 800 ล้านบาท อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 2.86 ต่อปี ชุดที่ 2 มูลค่า 1,000 ล้านบาท อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 3.17 ต่อปี และชุดที่ 3 มูลค่า 700 ล้านบาท อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 3.43 ต่อปี 

นายธรัฐพร กล่าวเพิ่มเติมว่า โอกาสนี้ SAM ต้องขอขอบคุณผู้ลงทุนทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจและให้ความสนใจจองซื้อหุ้นกู้ของ SAM และขอขอบคุณ ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) ที่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ในครั้งนี้ ให้ประสบความสำเร็จอย่างราบรื่น  สำหรับเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ SAM ในฐานะเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) ภาครัฐที่เป็นเครื่องมือสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ มีบทบาทสำคัญและเป็นหนึ่งวงล้อฟันเฟืองหลักในการแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ จะนำเงินไปซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงิน และนำมาบริหารจัดการภายใต้ปรัชญาการดำเนินธุรกิจของ SAM ที่นำหลักคิดจากโครงการในพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 “โครงการแก้มลิง” ที่เปรียบเสมือนการดูดซับหนี้เสียของประเทศมาเก็บไว้ในบ่อพัก “บ้าน SAM” และบำบัดหนี้เสียเหล่านั้น ด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ และบริหารสินทรัพย์เหล่านั้นให้มีคุณภาพผ่าน “กังหันน้ำชัยพัฒนา” เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สิน ดูแลยกระดับคุณภาพชีวิตช่วยเหลือลูกค้าที่กำลังเดือดร้อนและประสบปัญหาด้านเครดิต  ให้สามารถกลับมาพลิกฟื้น “อยู่รอด อยู่ได้ อยู่เติบโต อยู่ยั่งยืน” อย่างมีคุณภาพ อันจะส่งผลต่อความมั่นคงของระบบสถาบันการเงินและเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม

ทั้งนี้ เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือองค์กร ของ SAM ที่ระดับ AA+ ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 นับตั้งแต่ปี 2563  โดยอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงสถานะของ SAM ซึ่งเป็นองค์กรที่มีความสำคัญ (Importance) กับภาครัฐในระดับ “สำคัญมาก”(Very Important) และมีความสัมพันธ์  (Linkage) ในระดับ “สูงสุด” (Integral) กับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (กองทุนฯ) จาก “เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตองค์กรที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐ”  โดยความสัมพันธ์และความสำคัญของ SAM ที่มีต่อกองทุนฯ และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้รับการสนับสนุนจากบทบาทในการเป็นตัวแทนของ ธปท. ในการดำเนินนโยบายที่สำคัญในฐานะบริษัทบริหารสินทรัพย์ของรัฐเพียงแห่งเดียวที่มีหน้าที่ช่วยรักษาเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงินด้วยการเข้าซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างที่สำคัญในการรับมือกับหนี้เสียที่เพิ่มขึ้นมากในระบบสถาบันการเงินผ่านการปรับโครงสร้างหนี้   นอกจากนี้ SAM ยังมีบทบาทที่เด่นชัดอีกบทบาทหนึ่งคือ การเป็นหน่วยงานกลางในการดำเนินการ “โครงการคลินิกแก้หนี้” ซึ่งริเริ่มโดย ธปท. เพื่อส่งเสริมการปรับโครงสร้างหนี้โดยสมัครใจสำหรับลูกค้ารายย่อยที่เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันอีกด้วย