ThaiPublica > สู่อาเซียน > กสิกรไทยเปิดสาขาเวียดนาม เดินหน้า Regional Digital Bank แห่ง AEC+3

กสิกรไทยเปิดสาขาเวียดนาม เดินหน้า Regional Digital Bank แห่ง AEC+3

5 สิงหาคม 2022


นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย
นายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย

กสิกรไทยประกาศใช้ 1 แสนล้านบาทเดินหน้าลงทุนดิจิทัลและลงทุนในภูมิภาค เพิ่มกลยุทธ์รุกธุรกิจธนาคารยุคใหม่แห่งภูมิภาค AEC+3 ใช้ 3 กลยุทธ์ เทคโนโลยีให้บริการออนไลน์ให้บริการท้องถิ่นพร้อมทุ่มงบกว่า 2,700 ล้านบาทเสริมเครือข่ายบริการในภูมิภาค เปิดสาขาเวียดนามตั้งเป้าในปี 2566 สาขากวาดยอดสินเชื่อ 20,000 ล้านบาท และลูกค้าบุคคล 1.2 ล้านราย

วันที่ 4 สิงหาคม 2565 ธนาคารกสิกรไทยได้เปิดให้บริการธนาคารกสิกรไทย สาขาโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนามอย่างเป็นทางการ ตามยุทธศาสตร์การเป็นผู้ให้บริการ Regional Digital Banking ในภูมิภาค AEC+3 โดยนางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนยุคหลังโควิด 19 มีแนวโน้มฟื้นตัวเป็นบวก และยังโดดเด่นกับตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ ที่มีสัดส่วนประชากรวัยหนุ่มสาวจำนวนมากจึงช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการขยายตัวของดิจิทัลไลฟ์สไตล์ที่จะผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ธนาคารจึงเดินหน้าขยายบริการในภูมิภาคเพื่อเชื่อมต่อโอกาสให้แก่ธุรกิจไทย และส่งมอบบริการให้แก่ลูกค้ารายย่อยและผู้ประกอบการในประเทศท้องถิ่น เพื่อให้สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินและสินเชื่อได้สะดวกและครอบคลุมความต้องการในทุกพื้นที่

ทิศทางการลงทุนของธนาคารกสิกรคือการให้บริการลูกค้าทุกคน แต่ที่ผ่านมา กสิกรจะเก่งและเชี่ยวชาญในการให้บริการกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี หรือ ลูกค้าขนาดกลางขนาดย่อม ส่วนในกลุ่มลูกค้าบุคคล ในผลิตภัณฑ์สินเชื่อก็จะเชี่ยวชาญในกลุ่มมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้ประจำเป็นเงินเดือน ซึ่งอาจจะกลายเป็นข้อจำกัดต่อการเติบโตได้

นอกจากนี้ยังมองโจทย์การขยายบริการไปยังประเภทในภูมิภาค โดยเฉพาะเวียดนาม จีน ลาว กัมพูชา อินโดนีเชีย เนื่องจากหลังโควิด 19 มีแนวโน้มฟื้นตัวเป็นบวก

“ เราจะใช้งบประมาณ 1 แสนล้านใน 3-5 ปี โดยจะการลงทุนด้านไอที หรือการบริการดิจิทัล และบางส่วนใช้ในการลงทุน โดยอาจจะอยู่ในลักษณะการร่วมทุนกับผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในภูมิภาค”

ทุ่มทุน 2,700 ล้านบาท เสริมแกร่งธนาคารแห่งภูมิภาค AEC+3

นางสาวขัตติยา กล่าวว่า สำหรับแผนธุรกิจธนาคารในภูมิภาค 3 ปีต่อจากนี้ ธนาคารจะเน้นการพัฒนาด้านเทคโนโลยี เสริมทัพทีมงาน การลงทุนในสตาร์ทอัพ และเข้าซื้อกิจการ ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ โดยใช้งบลงทุนประมาณ 2,700 ล้านบาท เพื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจที่ผสานด้วยดีเอ็นเอแห่งชาเลนเจอร์แบงก์ ส่งมอบบริการบนดิจิทัลสู่ผู้ใช้งานในท้องถิ่นได้อย่างคล่องตัวสูง ซึ่งจะทำให้ธนาคารกสิกรไทยเป็นธนาคารยุคใหม่แห่งภูมิภาค AEC+3

การขยายธุรกิจในตลาดภูมิภาค AEC+3 ด้วยยุทธศาสตร์ Asset-Light Digital Banking Strategy ที่มุ่งเน้นรูปแบบการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ โดยลงทุนและร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพในท้องถิ่น ทำให้ธนาคารมีความรุดหน้าด้านเครือข่ายและเทคโนโลยีบริการที่ตรงใจผู้ใช้งานได้มากขึ้น

โดยมีกลยุทธ์การทำธุรกิจใน 3 แนวทาง ได้แก่ (1) รุกขยายสินเชื่อให้กับลูกค้าธุรกิจ (Aggressive Play) ทั้งลูกค้าที่เข้าไปลงทุนและลูกค้าท้องถิ่น (2) ขยายฐานลูกค้าผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรของธนาคาร (Mass Acquisition Play) โดยเน้นการให้บริการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางดิจิทัล และต่อยอดไปสู่การเชื่อมต่อการทำธุรกรรมในระดับภูมิภาค ด้วยการเป็น Regional Payment Platform (3)

พัฒนาการให้บริการทางการเงินในรูปแบบใหม่ (Disruptive Play) โดยเฉพาะการให้สินเชื่อดิจิทัล โดยใช้ Alternative Data ซึ่งทำให้ธนาคารเข้าถึงกลุ่มลูกค้า Underbanked ซึ่งเป็นฐานลูกค้าขนาดใหญ่ใน AEC+3 ได้มากขึ้นใน และสามารถต่อยอดเป็นธุรกิจ Banking-as-a-Service (Baas) ได้

กสิกรไทยตั้งเป้าใช้ 3 กลยุทธ์ลุยตลาดเวียดนาม

นายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า การตั้งสาขาในเวียดนาม ถือเป็นความท้าทายเพราะการได้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มองเห็นโอกาส เนื่องจากเวียดนามมีแนวโน้มเติบโตรวดเร็วที่สุดในอาเซียน และมีโอกาสเติบโตอีกมากจากคนเวียดนามวัยหนุ่มสาวในประเทศ

โดยจะเห็นได้จากที่ผ่านมาเวียดนามแทบไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด19 มีสัดส่วนหนี้สาธารณะต่ำกว่า 60% ของ GDP และยังมีแนวโน้มเติบโตในระยะข้างหน้าขณะที่ประเทศทั่วโลกมีอัตราการเติบโตติดลบ

คาดว่าภายในปี 2573 เวียดนามจะเป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ที่มีรายได้ปานกลางค่อนข้างสูงและเป็นประเทศพัฒนาแล้วภายในปี 2588

นอกจากนี้เวียดนามยังมีนโยบายส่งเสริมเป้าหมายในการเป็น “ศูนย์กลางด้านเทคโนโลยี” แห่งใหม่ของเอเชีย มีประชากรกว่า 100 ล้านคน มีอายุเฉลี่ยค่อนข้างน้อย ส่วนมากอยู่ในวัยทำงานมีอัตราการเติบโตของการอุปโภคบริโภคที่ 7% ใน 3 ปีข้างหน้า และยังเปิดกว้างในการใช้จ่ายทางดิจิทัล โดยพบว่าชาวเวียดนามมากกว่า 50% ซื้อสินค้าออนไลน์

ลุยตลาดเวียดนามด้วยดิจิทัล โปรดักส์ โซลูชัน

นายพิพิธ กล่าวอีกว่า ธนาคารกสิกรไทยจะเป็นธนาคารต่างชาติแห่งแรกที่นำ “ดิจิทัล โปรดักส์ โซลูชัน” เต็มรูปแบบ ให้บริการลูกค้าทุกเซกเมนต์ ทั้งกลุ่มธุรกิจท้องถิ่นและต่างชาติที่เข้าไปลงทุนในเวียดนาม โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจเทรดดิ้ง ธุรกิจบริการ ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน ธุรกิจอุตสาหกรรม และลูกค้าบุคคลและธุรกิจขนาดเล็ก โดยผ่านผลิตภัณฑ์เงินฝากสินเชื่อบุคคลและระบบการรับชำระเงิน นำศักยภาพด้านเทคโนโลยีของธนาคารในฐานะผู้นำด้านดิจิทัลแบงกิ้งและโมบายแบงกิ้งของไทย ไปต่อยอดการพัฒนาบริการให้แก่ลูกค้าในเวียดนาม ทั้งการใช้ K PLUS Vietnam เป็นแกนหลักในการสร้าง Digital Lifestyle Ecosystem ให้แก่ลูกค้าบุคคล เพื่อให้ครอบคลุมลูกค้าได้ทั่วประเทศ และการออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อดิจิทัล โดยเริ่มจาก KBank Biz Loan ที่ให้สินเชื่อแก่ร้านค้าขนาดเล็ก โดยเน้นการเข้าถึงลูกค้าผ่านทางพันธมิตรและแพลตฟอร์มท้องถิ่นผ่านการลงทุนของ KASIKORN VISION ซึ่งเป็นบริษัททำหน้าที่ด้านการลงทุนของธนาคาร และการตั้ง KBTG Vietnam เพื่อรองรับการพัฒนาเทคโนโลยีในการให้บริการทั้งในเวียดนามและในภูมิภาค

นายพิพิธ กล่าวด้วยว่า ธนาคารกสิกรไทยได้เดินหน้าเข้าสู่ตลาดของเวียดนาม พร้อมบริการดิจิทัลที่เชื่อมต่อเข้าถึงลูกค้าผ่านช่องทางธนาคารและแพลตฟอร์มพันธมิตรครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำถึงยุทธศาสตร์ของธนาคารในการก้าวเป็นธนาคารยุคใหม่แห่งภูมิภาค AEC+3 อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยวิธีการแบบชาเลนเจอร์แบงก์ ที่เน้นความคล่องตัวสูงและเข้าถึงผู้บริโภคด้วยเทคโนโลยี สะดวก รวดเร็ว โดยปีหน้ามีป้าหมายลูกค้าบุคคลเวียดนาม 1.2 ล้านราย และปล่อยสินเชื่อ 2หมื่นล้านบาท

ธนาคารกสิกรไทยมีเครือข่ายการให้บริการในต่างประเทศในกลุ่มประเทศ AEC+3 และประเทศอื่น ๆ รวมทั้งสิ้น 16 แห่ง โดยมีสาขานครโฮจิมินห์เป็นสาขาล่าสุด มีสถาบันทางการเงินที่เป็นพันธมิตรกว่า 84 แห่งทั่วโลก เครือข่ายสตาร์ทอัพในภูมิภาคที่ธนาคารลงทุนและพันธมิตรรวมมากกว่า 20 ราย และมีฐานลูกค้าในภูมิภาคกว่า 1.85 ล้านคน