ThaiPublica > เกาะกระแส > บอร์ด ปตท. อนุมัติด่วน 3,000 ล้านเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเฉพาะกิจ ช่วยรัฐอุดหนุนแล้วกว่า 14,800 ล้าน

บอร์ด ปตท. อนุมัติด่วน 3,000 ล้านเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเฉพาะกิจ ช่วยรัฐอุดหนุนแล้วกว่า 14,800 ล้าน

12 กรกฎาคม 2022


นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

บอร์ด ปตท. อนุมัติด่วน 3,000 ล้านบาทเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเฉพาะกิจเร่งแบ่งเบาค่าครองชีพประชาชนอย่างต่อเนื่องจากวิกฤติพลังงานรวมกว่า 14,800 ล้านบาท

ตามที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2565 มีมติเห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบประชาชนและภาคธุรกิจ ทั้งมาตรการใหม่และการขยายมาตรการเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือนมิถุนายนนี้ ดังนี้

    (1) ตรึงราคาขายปลีกก๊าซ NGV 15.59 บาทต่อกิโลกกรัม ส่วนโครงการเอ็นจีวีเพื่อลมหายใจเดียวกัน สำหรับ ‘แท็กซี่’ 13.62 บาทต่อกิโลกรัม เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ 16 มิ.ย- 15 ก.ย.2565
    (2) กำหนดกรอบราคาขายปลีก LPG ที่ประมาณ 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ตั้งแต่ ก.ค.-ก.ย.2565
    (3) ขยายเวลาให้ส่วนลด LPG ร้านค้า หาบเร่แผงลอย ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่เกิน 100 บาทต่อรายต่อเดือน ถึงก.ย.นี้
    (4) อุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลร้อยละ 50 ส่วนที่ราคาขายสูงกว่า 35 บาทต่อลิตร ถึงก.ย.นี้
    (5) คงค่าการตลาดน้ำมันดีเซลไม่เกิน 1.40 บาทต่อลิตร
    (6) ขอความร่วมมือโรงกลั่นน้ำมัน นำส่งกำไรจากค่าการกลั่นส่วนหนึ่งเข้ากองทุนน้ำมัน เพื่อไปลดภาระค่าน้ำมันให้ประชาชนทั้งดีเซลและเบนซินในช่วง 3 เดือน

“มาตรการขอความร่วมมือกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันและโรงแยกก๊าซธรรมชาตินำส่งกำไรส่วนหนึ่งจากค่าการกลั่นน้ำมันดีเซลและเบนซินเข้ากองทุนน้ำมันในช่วงวิกฤติน้ำมันแพง โดยเงินในส่วนของน้ำมันดีเซล นำไปบริหารราคาขายปลีกให้ไม่เกิน 35 บาท/ลิตร เงินในส่วนของน้ำมันเบนซิน นำไปลดราคาขายปลีก 1 บาท/ลิตร กระทรวงพลังงานรายงานว่า กำลังอยู่ระหว่างการหารือกับกลุ่มโรงกลั่นถึงแนวทางในการดำเนินกาส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือ ปตท. นำส่งกำไรส่วนหนึ่งของโรงแยกก๊าซธรรมชาติเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งคาดว่าจัดเก็บได้ 500-1,000 ล้านบาท/เดือน”

  • รัฐอนุมัติมาตรการเร่งด่วนช่วยประชาชน-ธุรกิจ จากราคาพลังงานแพง
  • จากมติ ครม.ดังกล่าว วันนี้ (12 กรกฎาคม 2565) นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ที่ผ่านมาคณะกรรมการ ปตท.มีมติอนุมัติสนับสนุนเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นกรณีพิเศษเพื่อช่วยเหลือประชาชนเป็นการเร่งด่วนจากสถานการณ์วิกฤติเป็นจำนวนเงินเดือนละ 1,000 ล้านบาท ระยะเวลา 3 เดือน รวมทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาทสนับสนุนภาครัฐในการแบ่งเบาภาระค่าพลังงานของประชาชนรวมทั้งเพื่อรักษาเสถียรภาพด้านพลังงานของประเทศ

    ทั้งนี้จากสถานการณ์วิกฤติด้านพลังงานตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา ปตท.ได้ช่วยแบ่งเบาภาระต้นทุนค่าครองชีพด้านพลังงานให้แก่ประชาชนไปแล้วกว่า 14,800 ล้านบาทปตท.ในฐานะบริษัทมหาชนและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจตระหนักถึงผลกระทบจากวิกฤตการณ์ด้านพลังงานส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจและภาคประชาชนของประเทศในวงกว้าง จึงได้ช่วยเหลือประชาชนทุกภาคส่วนโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง อาทิ ให้ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม (LPG)แก่ผู้มีรายได้น้อยที่เป็นร้านค้าหาบเร่ แผงลอยอาหาร ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การตรึงราคาขายปลีกช่วยเหลือกลุ่มผู้ใช้รถ NGV ส่วนบุคคล และผู้ประกอบอาชีพขับขี่รถแท็กซี่ทั้งในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ตรึงราคาขายปลีกน้ำมันหน้าสถานีบริการจัดหาน้ำมันดิบเพื่อเพิ่มปริมาณสำรองตลอดจนช่วยบรรเทาภาระต้นทุนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในการผลิตไฟฟ้า นอกจากนี้ ปตท.ยังได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายทางการแพทย์เพื่อช่วยเหลือสังคมจากวิกฤตโควิดในโครงการลมหายใจเดียวกันกว่า 1,046 ล้านบาท

    “ปตท.พร้อมเป็นกำลังสำคัญและเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการทำงานของทุกภาคส่วน รวมถึงการดูแลสังคมและชุมชน เพื่อให้คนไทยฝ่าวิกฤตินี้ไปด้วยกันได้โดยเร็ว” นายอรรถพลกล่าว