ธัชไท กีรติพงค์ไพบูลย์
ช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสได้เก็บกระเป๋าแล้วลงใต้ แต่ครั้งนี้ไปใต้กว่าที่เคย… เบตง | ยะลา
ผมเชื่อว่าหลายคนคงคุ้นชื่อเบตงกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ “โอเค เบตง” หรืออาหารจานเด็ดอย่าง “ไก่เบตง” แต่เชื่อว่าหลายคนอาจจะได้แค่คุ้นชื่อ แต่ยังไม่ได้คุ้นเคยกับเบตงกันนัก
ผมจะมาเล่าเรื่องเบตง ใต้แดนสยามให้ฟังกันครับ
ความลงตัว | วัฒนธรรม | ความเป็นอยู่
เสน่ห์ของเบตงที่ผมสัมผัสได้คือ ความลงตัวของวัฒนธรรม ทั้งวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ สถาปัตยกรรม ตึกรามบ้านช่อง ไปจนถึงวัฒนธรรมอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร
เบตงยังคงความเป็นพื้นถิ่นได้อย่างน่าสนใจ พ่อค้าแม่ขาย ผู้ประกอบการมีความเข้มแข็ง ธุรกิจ MSMEs ยังคึกคัก ไม่ถูกคุกคามจากทุนนิยมกระแสหลัก เราจะไม่เห็นบริษัทห้างร้านใหญ่ๆ หรือไฮเปอร์มาร์เกตที่นี่ ทำให้เบตงยังคงเสน่ห์แห่งวิถีถิ่นไว้อย่างงดงาม
คนเบตงมีอัธยาศัยดีมาก ต้อนรับนักเดินทางต่างถิ่นแบบเป็นกันเอง ดูแล้วคนเบตงป็นคนที่มีความสุข ซึ่งอาจเป็นเพราะการบริหารจัดการเมืองที่ดี มีสนามกีฬา สนามฟุตบอล ลานกิจกรรมกลางแจ้ง และพื้นที่ออกกำลังกายที่เปิดกว้างให้สำหรับทุกคน
แม้ว่าเมืองเบตงค่อนข้างจะเดินทางลำบาก ประมาณ 4-5 ชั่วโมงจากสนามบินที่ใกล้ที่สุด แต่ก็มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาจากทั่วทุกมุมของประเทศ การเปิดรับวัฒนธรรมที่แตกต่างจึงเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของเบตง
เดินรอบเมือง | เสพงานศิลป์ | กินของอร่อย
เชื่อไหมครับว่า เมืองที่ใครหลายคนไม่กล้าไปเยือน กลับเป็นเมืองที่ใครหลายคนตกหลุมรัก ทั้งงานศิลป์ ทั้งอาหารการกิน ทั้งแหล่งท่องเที่ยว
การเดินลัดเลาะตามตรอกซอกซอย เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งซึ่งคนที่มาเบตงไม่ควรพลาด เพราะทั่วทั้งเมืองได้ถูกแต่งแต้มไปด้วยงานศิลปะริมทาง หรือ street art ให้ได้แวะชื่นชมฝีมือจิตรกรและถ่ายรูปโพสต์ลงโซเชียลกัน
หากแต่การเดินเสพศิลป์ของที่นี่ จะไม่ใช่เพียงแค่การมองภาพวาดบนฝาผนังเท่านั้น แต่ยังสามารถเรียนรู้วัฒนธรรมของพื้นที่ได้ด้วย
การเดินของผมเริ่มจากที่พัก เดินไปเรื่อยๆ แวะซื้อของกินบ้าง ถ่ายรูปบ้าง หลบฝนบ้าง ซึ่งทำให้ได้เจอกับอะไรหลายอย่าง
… เจอคุณลุงที่เรียกเข้าไปดูบ้านที่เต็มไปด้วยรูปภาพ พร้อมที่จะเล่าประวัติเมืองให้ฟังสัก 3 ชั่วโมงเห็นจะได้
… เจอคุณป้าที่ขายโรตีกับลูกสาว ที่เล่าว่าทำมา 200 ชิ้นต่อวัน ทอดโรตีจนชำนาญ ตบโรตีจนชินมือ หมดเกลี้ยงทุกวัน
… เจอคุณน้าที่ร้านอาหาร ที่แม้ว่าร้านจะยุ่งแค่ไหน ลูกค้าเต็มร้านยังไง แต่ก็อารมณ์ดีคุยเล่นได้ จนทำให้คนนั่งรอลืมหิวไปเลย
… เจอคุณพี่ขายขนมรางไข่ ขนมที่ไม่ค่อยเจอที่อื่น ไม่เพียงแต่รสชาติจะดีเท่านั้น แต่เทคนิคการทำขนมก็ไม่ธรรมดา
บางครั้ง การเดินก็ทำให้เรารู้จักวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของพื้นที่ได้มากขึ้น และทำให้เราได้เจอของกินอร่อยๆ ในคราวเดียวกัน
ธรรมชาติอยู่แค่เอื้อม | ทะเลหมอก ยอดเขา น้ำตก
สารภาพตรงๆ ครับ ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าเบตงจะสวยขนาดนี้
ในฐานะนักเดินทาง (ซึ่งผมมักบอกว่าตัวเองเป็นนักเดินทางที่ไม่ใช่นักท่องเที่ยว เพราะเราอยากรู้จักกับสถานที่ที่เราไปให้ดี ไม่ใช่แค่ไปแตะแผ่นดินนั้นเท่านั้น) ผมต้องยกนิ้วให้เบตงแห่งนี้เลยครับ
เบตงทำให้ผมประหลาดใจ เพราะไม่คิดว่าจะมีสถานที่แบบนี้อยู่ในเมืองใต้แดนสยาม
ด้วยความที่เบตงเป็นเมืองที่มีภูเขาและเทือกเขาล้อมรอบ จึงทำให้อากาศไม่ร้อนเท่ากับเมืองอื่นๆ และยังมีความพิเศษที่มีหมอกปกคลุม จนเป็นเอกลักษณ์แห่งดินแดนทะเลหมอกภาคใต้ของไทย
นอกจากนี้ เบตงยังติดกับชายแดนมาเลเซีย ทำให้อีกไฮไลต์หนึ่งของการมาที่นี่คือ การดูพระอาทิตย์ตกสองแผ่นดินที่กาแป๊ะฮูลู-กูนุงปะลง แนะนำให้ไปช่วงเย็นๆ เพราะจะได้เห็นเทือกเขาเรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆ มีทัศนียภาพของทะเลหมอกบางๆ กับแสงอาทิตย์ที่ค่อยๆ หมดไป เรียกได้ว่าทุกอย่างลงตัวกันไปหมด
สกายวอล์กอัยเยอร์เวง | เป็นสถานที่ในการชมทะเลหมอกเบตงที่นักท่องเที่ยวนิยมมากที่สุด เนื่องจากเดินทางสะดวก เข้าถึงได้ไม่ยาก และมีภูมิทัศน์ที่สวยงาม โดยนักท่องเที่ยวจะต้องจอดรถไว้ที่จุดจอดรถ แล้วนั่งรถสองแถวขึ้นไปชั้นแรก และนั่งมอเตอร์ไซค์ต่อไปยังยอดเขา เพื่อเข้าสู่สกายวอล์ก (ทั้งนี้ ก็เพื่อจัดระเบียบการสัญจร และกระจายรายได้ให้กับคนในพื้นที่)
ทัศนียภาพทะเลหมอกที่อัยเยอร์เวงนี้ สวยงามและแปลกตามากครับ หากใครรักในการถ่ายภาพ ผมแนะนำที่นี่ครับ
ยอดเขาฆูนุงซีลีปัต | เป็นสถานที่ที่ผมเรียกว่า UnseenThailand จริงๆ ครับ หากต้องการจะขึ้นยอดเขา จะต้องนั่งรถ 4WD จากตีนเขาขึ้นไปประมาณ 30 นาทีแล้วเดินเท้าต่อไปที่ยอดเขาอีกประมาณ 15 นาที เมื่อขึ้นไปถึงก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น เราจะรอจนกว่าฟ้าจะเปิด และเราก็จะเห็นทะเลหมอกเบตงในมุมที่เราไม่เคยเห็นครับ
สิ่งที่ดึงความสนใจของผมไปไม่น้อยไปกว่าทะเลหมอก ก็คือป่าฆูนุงที่ถูกปกคลุมไปด้วยหมอก โดยการที่เราได้เดินอยู่ในป่าแห่งหมอกทำให้ความรู้สึกว่าธรรมชาติอยู่ใกล้แค่เอื้อมจริงๆ
น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.9 | เป็นน้ำตกที่อยู่ใกล้ทางขึ้นสกายวอล์กอัยเยอร์เวง ถนนทางเข้าน้ำตกค่อนข้างแคบและลาดชัน จึงควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้าพื้นที่ โดยน้ำตกเฉลิมพระเกียรติฯ ยังมีความสดใหม่ของธรรมชาติอยู่ค่อนข้างมาก ถ้าใครไม่ใช่สายท่องธรรมชาติก็อย่าลืมระมัดระวังเป็นพิเศษ
สนามบินเบตง | รันเวย์แห่งความหวัง
พอมีข่าวว่าสนามบินเบตงจะเริ่มใช้งานอย่างเต็มรูปแบบในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้านี้ ทุกฝ่ายก็เริ่มตื่นตัวกันแล้ว
คนในพื้นที่เริ่มมีความหวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวมากขึ้น การขนส่งสินค้าจะง่ายขึ้น ต้นทุนจะลดลง เศรษฐกิจก็จะโตขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนนักท่องเที่ยว ก็เริ่มตื่นเต้นกับการจะได้ไปแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ การเดินทางที่ลงจากเครื่องบินแล้วนั่งรถไปชมทะเลหมอกต่อได้เลย และการได้ไปทานอาหารเบตงแท้ๆ ทั้งไก่เบตง ไก่เก้าชั่ง ปลานิลสายน้ำไหล ผักน้ำ แกงส้มใต้ ก็ทำให้นักท่องเที่ยวเริ่มวางแผนเที่ยวตั้งแต่สายการบินยังไม่ออกตารางไฟลต์เดินทาง
สนามบินเบตงจึงเป็นสนามบินแห่งความหวัง ทั้งหวังจะให้เศรษฐกิจดีขึ้น และหวังจะให้คนเข้ามารู้จักเบตงในมุมดีๆ มากขึ้น
สถาปัตยกรรมของสนามบินเบตงก็น่าสนใจมาก เนื่องจากใช้ไม้ไผ่ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ถิ่นมาเป็นวัสดุตกแต่งหลัก ออกแบบและก่อสร้างมาได้อย่างทันยุคสมัย แม้ว่าจะรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ยังไม่ได้ เพราะไม่สามารถสร้างทางรันเวย์ที่ยาวได้ เนื่องจากเป็นเขตพรมแดนระหว่างประเทศ แต่การที่สนามบินมีขนาดกะทัดรัดและมีความเป็นแนวบูทีก ก็ช่วยเสริมภาพลักษณ์และกลิ่นอายทางวัฒนธรรมของเบตงให้ชัดได้มากขึ้น
นี่คือเรื่องราวส่วนหนึ่งของเมืองใต้แดนสยาม ที่ใครหลายคนอาจยังลังเลที่จะเดินทาง แต่ผมแนะนำเลยครับว่า ถ้าได้ลองมาสัมผัสแล้วจะรู้ว่า เบตง ที่ลงตัว นั้นเป็นอย่างไร