ThaiPublica > สู่อาเซียน > “นายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน” แห่งมาเลเซียยื่นลาออก 16 ส.ค.นี้

“นายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน” แห่งมาเลเซียยื่นลาออก 16 ส.ค.นี้

15 สิงหาคม 2021


นายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยัสซีนของมาเลเซีย ที่มาภาพ: https://www.facebook.com/ts.muhyiddin/photos/pcb.4060989433979585/4060988457313016/

นายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยัสซีนของมาเลเซีย จะยื่นใบลาออกต่อ สมเด็จพระราชาธิบดี สุลต่าน อับดุลเลาะห์ อาห์หมัด ชาห์ ในวันจันทร์ ที่16 สิงหาคม แต่ยังย้ำว่ากลุ่มพันธมิตรแห่งชาติหรือ Perikatan Nasional (PN) ของเขายังคงเป็นกลุ่มที่ครองเสียงข้างมากในรัฐสภา

สื่อท้องถิ่นหลายฉบับอ้างคำพูดของ นายเรดซวน ยูโซฟ รัฐมนตรีในสำนักนายกรัฐมนตรี (แผนกพิเศษ) ว่านายกรัฐมนตรีได้แจ้งการตัดสินใจของเขา ในการพบปะกับสมาชิกสภานิติบัญญัติจากพรรคสหประชาชนมาเลย์ Parti Pribumi Bersatu Malaysia ในกรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อเช้าวันอาทิตย์

“เราเพิ่งเสร็จสิ้นการประชุม พรุ่งนี้มีประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีจะมุ่งหน้าไปยังพระราชวังอิสตานาเนการา (Istana Negara Palace) เพื่อยื่นใบลาออก” นายยูโซฟกล่าวกับเว็บไซต์ข่าว Malaysiakini

อย่างไรก็ตาม นายยูโซฟกล่าว่า “ขึ้นอยู่กับพระมหากษัตริย์ที่จะมีพระราชวินิจฉัยในการตัดสินพระทัย” เนื่องจาก “เรามีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 100 คน”

แม้ตัวเลขนี้ยังต่ำกว่า 111 คนที่จำเป็นสำหรับเสียงข้างมากในรัฐสภา แต่ก็ยังมากกว่ากลุ่มพันธมิตรฝ่ายค้านปากาตัน ฮาราปัน (Pakatan Harapan:PH) ที่นำโดยผู้นำฝ่ายค้าน อันวาร์ อิบราฮิม และมีจำนวน 88 คน

นายยูโซฟ ยังบอกกับผู้สื่อข่าวว่า “เราจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ และขึ้นอยู่กับสมเด็จพระราชาธิบดี ที่จะให้แน่ใจว่าประเทศมีความเป็นผู้นำที่ให้ความสำคัญกับประชาชน”

จากการตรวจสอบโดย The Straits Times กับผู้นำกลุ่ม Bersatu ที่ยืนยันว่านายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดินเตรียมที่จะลาออก แต่จะยังถวายคำแนะนำสมเด็จพระราชาธิบดี ในการเข้าเฝ้าว่ามี “ทางเลือกหลายทาง”

“มูห์ยิดดินจะเสนอทางเลือกต่างๆ รวมถึงการลาออก ยุบสภา และรัฐบาลเสียงข้างน้อย” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าว

อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งจะต้องจัดขึ้นภายใน 60 วัน หากรัฐสภาถูกยุบ และมาเลเซียกำลังอยู่ภายใต้การระบาดของไวรัสโควิด -19 ที่ร้ายแรงที่สุด และเป็นที่เข้าใจกันว่าหากนายมูห์ยิดดินลาออก รองนายกรัฐมนตรีอิสมาอิล ซาบรี ยาคอบ จะถูกเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ จนกว่าสมเด็จพระราชาธิบดีจะทรงมีพระราชวินิฉัยว่าผู้นำทางการเมืองคนใดสามารถครองเสียงข้างมากในรัฐสภาได้

ในรายงานข่าว The Straits Times ระบุว่า เข้าใจดีว่าคนในพรรค Umno ที่เพิกเฉยต่อคำแนะนำของอาห์หมัด ซาฮิด ฮามิดี ประธานพรรคให้ถอนตัวจาก กลุ่ม Perikatan Nasional ต้องการให้ตัวแทนจากพรรคพวกตนขึ้นแทนนายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน

นายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดินไม่สามารถดึงการสนับสนุนรัฐบาลของเขาขึ้นมาได้ หลังจากที่ข้อเสนอของเขาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาในการให้ยกอำนาจแก่ฝ่ายคู่แข่งเพื่อแลกกับการสนับสนุนถูกปฏิเสธทันที

นอกจากสมาชิกสภา Umno จำนวน 15 คนในกลุ่มของซาฮิดแล้ว ยังมีอีก 17 คนในพรรคฝ่ายค้านอื่น ที่ส่วนใหญ่ยังคงภักดีต่ออดีตนายกรัฐมนตรีมหาธีร์ โมฮัมหมัด

หากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 38 คนของ Umno ชุมนุมอยู่เบื้องหลังตัวแทนคนใหม่พร้อมกับพรรคการเมืองอื่นๆ กลุ่ม Perikatan Nasional ก็จะได้มีสถานะเป็นเสียงส่วนใหญ่ โดยมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 115 คนในสภานิติบัญญัติที่มีจำนวนทั้งหมด 222 ที่นั่ง ซึ่งปัจจุบันว่าง 2 ที่นั่ง

(ซ้าย)รองนายกรัฐมนตรีอิสมาอิล ซาบรี ยาคอบ (ขวา) เต็งกู ราซาเลห์ ฮัมซาห์ ที่มาภาพ : https://www.straitstimes.com/asia/se-asia/top-bersatu-leaders-seen-arriving-for-meeting-amid-malaysias-political-crisis

ในขณะที่รองนายกรัฐมนตรีอิสมาอิลในฐานะรองประธาน Umno ถือว่าเป็นบุคคลที่อาวุโสที่สุดสำหรับตำแหน่งนี้ แต่เต็งกู ราซาลีห์ ฮัมซาห์ สมาชิกในสภานิติบัญญัติที่ดำรงตำแหน่งมานานที่สุดของมาเลเซีย ถูกมองว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสุดเพราะเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง

แหล่งข่าวจากหลายพรรคการเมืองเปิดเผยว่า เจ้าชายกลันตัน หรือที่รู้จักในชื่อกู่หลี่ ไม่เพียงเป็นที่โปรดปรานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากหลายฝ่ายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงราชวงศ์ของมาเลเซียด้วย

สมเด็จพระราชาธิบดีทรงมีบทบาทสำคัญในการแก้ไขวิกฤติทางการเมืองครั้งล่าสุดนี้ เนื่องจากพระองค์มีอำนาจหน้าตามรัฐธรรมนูญให้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีที่สามารถเรียกความเชื่อมั่นของรัฐสภาได้

ในขณะเดียวกัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประมาณ 120 คนที่อยู่ไม่ได้ร่วมในรัฐบาลยังไม่ได้รวมตัวกัน

ในขณะที่นายอันวาร์ ได้รับการสนับสนุนสำหรับตำแหน่งสูงสุดนี้ โดยกลุ่มพันธมิตร Pakatan Harapan ของเขา ฝ่ายนิติบัญญัติส่วนใหญ่ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกกลุ่ม PH มีทั้งไม่เห็นด้วยกับการให้อันวาร์เป็นผู้นำ หรือทำตามมติของ Umno เมื่อต้นปีนี้ที่จะไม่ร่วมมือกับเขาหรือพรรค Democratic Action Party ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่สุด ในกลุ่ม Pakatan Harapan