ThaiPublica > ประเด็นร้อน > COVID-19 พลิกโลก > อินเดียเจอสึนามิโควิด ระบาดรอบสองติดเชื้อทะลุ 2 แสนต่อวัน บริการสาธารณสุขใกล้ล่มสลาย

อินเดียเจอสึนามิโควิด ระบาดรอบสองติดเชื้อทะลุ 2 แสนต่อวัน บริการสาธารณสุขใกล้ล่มสลาย

21 เมษายน 2021


ที่มาภาพ:https://edition.cnn.com/2021/04/21/india/india-covid-hospital-shortage-intl-hnk/index.html

บริการสาธารณสุขและบริการอื่นๆที่จำเป็นใกล้จะล่มสลาย จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบสองที่เริ่มขึ้นในกลางเดือนมีนาคม และแพร่กระจายทั่วประเทศอย่างรุนแรงและรวดเร็ว

พื้นที่สุสานกำลังจะเต็ม โรงพยาบาลเริ่มไม่รับผู้ป่วย และครอบครัวที่สิ้นหวังต่างร้องขอความช่วยเหลือด้านเตียงและยาผ่านโซเชียล มีเดีย
อินเดียรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 295,041 คนและผู้เสียชีวิต 2,023 รายในวันที่ 21 เมษายน เป็นการติดเชื้อและการเสียชีวิตสูงสุดรายวันนับตั้งแต่เริ่มมีการระบาด จากการรวบรวมของ สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น โดยใช้ข้อมูลกระทรวงสาธารณสุข

“ด้วยจำนวนนี้ถือว่าเป็นการติดเชื้อที่มีขนาดใหญ่มาก เทียบได้กับสึนามิ ” จาลิล ปาร์การ์ ที่ปรึกษาด้านโรคปอด ที่โรงพยาบาลลีลาวตี ในมุมไบที่ต้องปรับล้อบบี้เป็นพื้นที่สำหรับการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด

“ตอนนี้สถานการณ์เกินกว่าจะควบคุมได้” รามานัน ลักษมีนารายัน ผู้อำนวยการศูนย์ CDDEP (Center for Disease Dynamics, Economics and Policy) ในนิว เดลีให้ความเห็น

“ไม่มีออกซิเจน เตียงในโรงพยาบาลแทบจะหาไม่ได้ และไม่สามารถทำการตรวจทดสอบหาเชื้อ ต้องคอยนานกว่าสัปดาห์ และระบบทุกระบบที่ล่มสลายได้ในระบบดูแลสุขภาพได้ล่มสลายไปแล้ว”

นายรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี แถลงต่อประชาชนในวันอังคารที่ 20 เมษายน รับรู้สถานการณ์ของประเทศที่ทำสงครามใหญ่กับโควิด -19 และเรียกร้องให้ทุกรัฐ ใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นขั้นสุดท้าย แม้กรุงนิวเดลีได้เข้าสู่การล็อกดาวน์ 24 ชั่วโมงนาน 1 สัปดาห์ไปแล้ว

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา มุขมนตรีนิวเดลี อาร์วินด์ เคจริวาล เตือนว่า หากไม่ควบคุมการสัญจรได้ ทั้งเมืองจะประสบกับโศกนาฏกรรม

“เราไม่อยากเห็นนิวเดลีกลายเป็นเมืองที่คนป่วยล้นโรงพยาบาลจนต้องออกมานอนตามระเบียงและมีคนเสียชีวิตเต็มบนท้องถนน ”

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาเขาได้เตือนว่าโรงพยาบาลบางแห่งในเดลีบางแห่ง “เหลือออกซิเจนที่จะใช้ได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง” ขณะที่ทางการกำลังเร่งปรับศูนย์กีฬา ห้องจัดเลี้ยงโรงแรมและโรงเรียนให้เป็นศูนย์รักษาผู้ป่วยโดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มเตียงเพิ่มอีก 6,000 เตียง ภายในอีกไม่กี่วัน

“ระบบการรักษาพยาบาลของแตะระดับขีดจำกัดแล้ว ตอนนี้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่กดดัน มันยังไม่ล่มสลาย แต่อยู่ในความลำบาก” นาย
เคจริวาลกล่าวและว่า “ระบบการรักษาพยาบาลทุกระบบมีขีดจำกัด ไม่มีระบบใดที่สามารถรองรับผู้ป่วยได้ไม่จำกัด”

จากการรายงานปัญหาการขาดแคลนทั่วประเทศ ผู้นำในท้องถิ่นและระดับรัฐจึงร้องขอออกซิเจนและยามากขึ้นจากรัฐบาลกลาง

นายกรัฐมนตรีโมดีดูเหมือนจะตอบรับข้อเรียกร้องในวันอังคารโดยประกาศแผนการจัดส่งถังออกซิเจน 100,000 ถังทั่วประเทศ สร้างโรงงานผลิตออกซิเจนแห่งใหม่และโรงพยาบาลที่รักษาผู้ป่วยโควิดโดยเฉพาะ

แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่า การดำเนินการตามแผนนี้อาจจะน้อยเกินไป สายเกินไป เนื่องจากผู้ป่วยที่มีผลตรวจเป็นบวก ต่างเร่งหาทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด และการรวมตัวกันจำนวนมากทำให้กังวลว่าเชื้อไวรัสจะมีการแพร่กระจายออกไปอีก

ที่มาภาพ:https://edition.cnn.com/2021/04/21/india/india-covid-hospital-shortage-intl-hnk/index.html

ขอความช่วยเหลือผ่านออนไลน์

โดยที่ทางเลือกจากทางการมีน้อย บางครอบครัวจึงหันไปใช้โซเชียลมีเดียเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยอนิล ทิวารี ชาวเมืองมุมไบวัย 34 ปีซึ่งสูญเสียพ่อของเขาจากโรคโควิด -19 เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และเมื่อแม่วัย 58 ปีของเขามีผลการทดสอบเป็นในสัปดาห์ที่แล้ว ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แต่ต้องการเตียงผู้ป่วยหนัก (ICU)

“ผมร้องไห้วิ่งไปทั่วเพื่อหาเตียง ICU ให้แม่” ทิวาทวีตเมื่อวันจันทร์ “โปรดช่วยแม่ของผม ผมรักแม่มากกว่าอะไรทั้งหมด”

หลังจากใช้ความพยายามมาหลายวันรวมถึงการโทรแจ้งเจ้าหน้าที่เทศบาลเพื่อให้มีชื่อในบัญชีสำรอง ในที่สุดแม่ของทิวารีก็ได้รับการรักษาตัวในห้อง ICU แต่ทิวารี เปิดเผยว่าในวันอังคาร ตอนนี้แม่ต้องการออกซิเจนซึ่งทางโรงพยาบาลขาดแคลน

แม่ของทิวารียังสามารถเดินได้ แต่มีปัญหาในการหายใจ

ครอบครัวอื่นที่มีความวิตกกังวลได้หันไปหาโซเชียลมีเดียเพื่อร้องขอยาต้านไวรัส เรมเดซีเวียร์

ความต้องการยาและส่วนผสมสารออกฤทธิ์ทางเภสัชกรรมเพิ่มสูงขึ้น ในการระบาดระลอกที่สอง ส่งผลให้รัฐบาลสั่งห้ามการส่งออกยาชั่วคราวเพื่อเพิ่มอุปทานในตลาดภายในประเทศ

รัฐบาลอินเดียได้อนุมัติยาสำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉินในโรงพยาบาล แม้องค์การอนามัยโลก (WHO)ระบุว่า ไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่ายาดังกล่าวช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตจาก โควิด-19 หรือต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ

อภิจิต กุมาร นักศึกษาวิทยาลัยอายุ 20 ปีได้หันมาใช้ทวิตเตอร์เพื่อหาเงินมาจ่ายค่าฉีดยา เรมเดซิเวียร์ ให้กับลุงวัย 51 ปี โดยกุมารกล่าวว่า ลุงของเขาเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในไรปูร์ทางตอนกลางของรัฐ ฉัตตีสครห์ ของอินเดียตั้งแต่วันที่ 9 เมษายนหลังจากตรวจพบเชื้อโควิดเป็นบวก

“ยาฉีดมีราคาแพงมาก” กุมารกล่าว “พวกเขาบอกว่ามีค่าใช้จ่าย 12,000- 15,000 รูปี (ประมาณ 160-200 เหรียญสหรัฐ) ลุงได้รับการฉีด 2 ครั้งแล้ว แต่เขาต้องฉีดเข็มที่ 3 และเราไม่สามารถจ่ายได้ … ลุงของผมทำงานเป็นช่างประปา”

ผู้ผลิตรายใหญ่ เรมเดซิเวียร์ 7 ราย ได้ลดราคาลงเหลือ 899 -3,490 รูปี (ประมาณ 12-47เหรียญสหรัฐฯ) เป็นผลจาก “การแทรกแซงของรัฐบาล” ตามบันทึกข้อตกลงกับรัฐบาลเมื่อวันที่ 17 เมษายน

แต่หลายรัฐยอมรับว่าความต้องการที่อยู่สูงและปริมาณที่อยู่ในระดับต่ำได้ทำให้เกิดตลาดมืดของยาเรมเดซิเวียร์และยาที่คล้ายกัน

ปาร์การ์ ผู้เชี่ยวชาญโรคปอดในมุมไบกล่าวว่า แม้แต่แพทย์และพยาบาลหลายคนก็พากันลนลานหาเตียงว่างเปิดและทางเลือกในการรักษาสำหรับบุคคลอันที่รัก

“ ทุกคนป่วย” เขากล่าว “สถานการณ์ที่เราไม่มีเตียงสำหรับเพื่อนร่วมงานของเราเอง สำหรับพ่อแม่ของเราสำหรับครอบครัวขยายของเราเองได้เกิดขึ้นแล้ว”

ที่มาภาพ:https://edition.cnn.com/2021/04/21/india/india-covid-hospital-shortage-intl-hnk/index.html

ความชะล่าใจและการชุมนุมในที่สาธารณะ

การระบาดระลอกที่สองซึ่งแซงหน้าการระบาดรอบแรกทั้งจำนวนผู้ป่วยรายใหม่และอัตราการติดเชื้ออย่างมาก เป็น “สถานการณ์ที่เกิดจากความชะล่าใจ” ลักษมีนารายัน จาก CDDEP ให้ความเห็น

หลังจากการระบาดรอบแรกสิ้นสุดลงในหน้าหนาว รัฐบาลและสาธารณชนได้วางใจเกินไป จากการติดเชื้อที่ลดงและความรู้สึกว่าปลอดภัยที่ประเมินพลาด

ในต้นเดือนมีนาคม ไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่จำนวนผู้ติดเชื้อจะพุ่งขึ้นอีกครั้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศว่า การระบาดใหญ่ควบคุมได้แล้ว

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การประกาศชัยชนะทำให้ประชาชนขาดความระมัดระวังในการปฏิบัติตัว ทั้งในด้านการรักษาระยะห่างทางกายภาพ การสวมหน้ากาก และแม้ว่ามีการเตือนถึงความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ แต่ยังมีการชุมนุมของคนจำนวนมาก การแข่งขันกีฬา มีการจัดงานแต่งงานแบบเอิกเกริก รวมทั้งมีการเปิดโรงภาพยนตร์อีกครั้ง

การชุมนุมของคนหมู่มากที่มีขนาดใหญ่สุด คือในช่วงเทศกาลภุมภเมลา เทศกาลสำคัญของชาวฮินดู และเป็นกิจกรรมแสวงบุญที่ใหญ่ที่สุดในโลก ชาวอินเดียหลายล้านคนเดินทางจากทั่วประเทศไปยังเมืองหฤทวาร เมืองโบราณในรัฐอุตตราขัณฑ์ เพื่อร่วมพิธีเฉลิมฉลองและสวดมนตร์ พร้อมลงอาบน้ำในในแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์

เทศกาลกุมภเมลาเริ่มขึ้นในวันที่ 1 เมษายนและสิ้นสุดในปลายเดือน ในปีนี้ได้มีการจัดทำคู่มือปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดไว้ด้วย โดยกำหนดให้ผู้เข้าร่วมต้องลงทะเบียนออนไลน์และผู้ที่จะเข้าร่วมการอาบน้ำต้องมีผลตรวจไวรัสโควิด-19 เป็นลบ รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่นับพันรายทำหนาที่ตรวจสอบและคัดกรอง แต่ผู้เชี่ยวชาญวิตกว่า มาตรการนี้จะไม่เพียงพอต่อการควบคุมความเสี่ยง เพราะมีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก และหลายล้านคนคาดว่าจะเข้าร่วมในวันที่จัดว่าเป็นวันที่มีฤกษ์ดี

“เทศกาลกุมภเมลา อาจจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดการแพร่กระจายของเชื้อในวงกว้างมากที่สุด เพราะมีคนจำนวนมหาศาลเข้าร่วมการลงอาบน้ำในแม่น้ำคงคาอันศักดิ์สิทธิ์ ” ลักษมีนารายัน จาก CDDEP ให้ความเห็น

นายกรัฐมนตรีโมดีซึ่งมีฐานเสียงจากชาวฮินดูไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิดจากเทศกาลกุมภเมลาหลายสัปดาห์ แต่ในสัปดาห์นี้ได้เรียกร้องให้ผู้แสวงบุญหลีกเลี่ยงการชุมนุมในแม่น้ำหฤทวาร

“เทศกาลกุมภเมลา ควรจะทำในเชิงสัญลักษณ์ เพราะยังมีวิกฤติโควิด ” นายกรัฐมนตรีโมดีทวิตเมื่อวันเสาร์

อย่างไรก็ตามข้อความของนายกรัฐมนตรีโมดีไม่มีผลมากนัก เพราะนายกรัฐมนตรีโมดียังคงเดินหน้าหาเสียงก่อนการเลือกตั้งรัฐสภาและสภาท้องถิ่นใน 4 รัฐและหนึ่งเขตปกครอง ซึ่งมีการปราศรัยกับคนจำนวนมากที่แน่นขนัดและเบียดเสียด

ในรัฐเบงกอลตะวันตก พื้นที่เลือกตั้งหนึ่งที่มีความสำคัญ ผู้คนจำนวนหลายหมื่นคนได้ออกมาฟังการหาเสียงของพรรคภารตียชนตาของนายกรัฐมนตรีโมดี และพรรคตรีนามูลคองเกรส ที่ครองพื้นที่อยู่

การหาเสียงของนายกรัฐมนตรีโมดี ถูกวิจารณ์จากนักการเมืองหลายราย รวมทั้งอดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลังซึ่งให้ความเห็นว่า เป็นการไม่คำนึงถึวิกฤติโควิด

พรรคคองเกรสแห่งชาติอินเดีย ได้ระงับการหาเสียงในรัฐเบงกอลตะวันตก เป็นผลจากการระบาดรอบสอง

ขณะเดียวกันยังไม่มีคำสั่งห้ามให้หยุดกิจกรรมของเทศกาลกุมภเมลา หรือมีการออกกฎเกณฑ์ใดๆ รัฐอุตตราขัณฑ์ได้ออกมาตรการเข้มงวดทั้งการใช้เคอร์ฟิวและห้ามการรวมตัว แต่ไม่บังคับใช้กับกิจกรรมแสวงบุญกุมภเมลา

เมืองหฤทวารมีการติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น กว่า 6,500 รายนับตั้งแต่เริ่มเทศกาลกุมภเมลา กลุ่มย่อยทางศาสนาจำนวนหนึ่งได้เรียกร้องให้คนที่มาจากรัฐอื่นเดินทางกลับ และปฏิบัติตัวตามแนวทางที่กำหนด บางรัฐกำหนดให้ผู้ที่เดินทางกลับจากการเข้าร่วมกิจกรรมกุมภเมลาต้องตรวจหาเชื้อและกักตัว

แต่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เกรงว่า เป็นมาตรการที่สายเกินไป

ลักษมีนารายัน จาก CDDEP ให้ความเห็น”เทศกาลจัดขึ้นมา 2 สัปดาห์แล้ว และตอนนี้ผู้คนกระจายไปทั่ว และอาจจะติดเชื้อกลับไปบ้าน ซึ่งจุดนี้ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่น่ากลัวมาก ”