ThaiPublica > เกาะกระแส > ภาพยนตร์ Silent Night: A Song for the World ชีวประวัติเพลงศาสนาที่โด่งดังที่สุด

ภาพยนตร์ Silent Night: A Song for the World ชีวประวัติเพลงศาสนาที่โด่งดังที่สุด

20 ธันวาคม 2020


รายงานโดย ปรีดี บุญซื่อ

ภาพยนตร์ Silent Night: A Song for the World (2020) เพิ่งออกฉายเมื่อวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา ก่อนหน้าจะถึงเทศกาลคริสต์มาส ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการร่วมกันสร้าง ระหว่างเยอรมันกับออสเตรีย เป็นเรื่องราวชีวประวัติของเพลง Silent Night และชีวิตของโจเซฟ โมห์ร (Joseph Mohr 1792-1848) นักบวชหนุ่มโรมันคาทอลิก ชาวออสเตรีย ผู้ประพันธ์เนื้อเพลง Silent Night ที่กล่าวกันว่า เป็นเพลงคริสต์ศาสนา ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

ต้นกำเนิดเพลง Silent Night

เพลงศาสนาคริสต์ Silent Night ที่มีอายุกว่า 200 ปีมาแล้ว มีต้นกำเนิดจากหมู่บ้านแห่งหนึ่งในออสเตรีย ต่อมาในศตวรรษที่ 19 กลายเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก เนื้อเพลงประพันธ์โดย “โจเซฟ โมห์ร” บาทหลวงหนุ่ม ซึ่งในปี 1818 เขียนบทกวีเป็นภาษาเยอรมันว่า Stille Nacht สมัยที่เป็นนักบวชอยู่เมืองในหุบเขาชื่อ Lungau

แต่เนื่องจากสุขภาพไม่ดี โจเซฟ โมห์ร จึงย้ายมาอยู่เมืองโอเบอร์นดอร์ฟ (Obermdorf) ในแคว้นซัลซ์บวร์ก (Salzburg) ในวันก่อนคริสต์มาสปี 1818 ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น โจเซฟ โมห์ร ออกเดินระยะทาง 3 กิโลเมตร ไปหาเพื่อนที่เมืองอาร์นสดอร์ฟ (Arnsdolf) ชื่อฟรานซ์ กรูเบอร์ (Franz Gruber) ซึ่งเป็นครูโรงเรียนและนักดนตรี โดยนำบทกวีที่ได้แต่งเมื่อ 2 ปีมาแล้ว ติดตัวไปด้วย เขาจะขอให้เพื่อนแต่งทำลองเพลงศาสนา สำหรับงานพิธีสวด Mass ที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า

ที่มาภาพ : https://www.silentnight-movie.com/single-post/2018/04/26/and-thus-a-song-was-born

แต่เรื่องเล่าที่อาจตื่นเต้นกว่าความเป็นจริงของเพลง Silent Night มีอยู่ว่า บาทหลวงโจเซฟ โมห์ร ต้องการแต่งเพลงศาสนาใหม่เพลงหนึ่ง เนื่องจากเครื่องดนตรีของโบสถ์เกิดเสียขึ้นมา อาจทำให้งานพิธีสวด Mass ในวันก่อนคริสตมาสปี 1818 กลายเป็นค่ำคืนแห่งความเงียบ ในที่สุด โจเซฟ โมห์รและฟรานซ์ กรูเนอร์ ก็แต่งเพลง Silent Night ขึ้นมาได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง และกลายเป็นเพลงศาสนาที่สมบูรณ์ ทั้งทำนองเพลงและเนื้อเพลง

เพลง Silent Night ถูกร้องเป็นครั้งแรกที่โบสถ์เมืองโอเบิร์นดอร์ฟ เป็นการร้องร่วมกันของ ฟรานซ์ กรูเบอร์และโจเซฟ โมห์ร ที่ยังเล่นกีต้าร์ประกอบเพลงด้วย จุดนี้ทำให้เกิดความเข้าใจทั่วไปว่า การใช้เครื่องดนตรีประกอบเพลงจากกีต้าร์ เพื่อมาทดแทนเครื่องเล่นดนตรีของโบสถ์ที่เสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม แต่นักประวัติศาสตร์เชื่อว่า กีต้าร์เป็นเครื่องดนตรีประกอบตั้งแต่แรกของเพลง Silent Night

เพลง Silent Night เริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เมื่อปี 1831 ครอบครัวชาวนาและพ่อค้าในเยอรมัน ไปออกร้านขายของในงานตลาดนัดคริสต์มาสที่เมืองไลป์ซิก (Leipzig) และนำเพลงนี้ไปร้อง หลังจากนั้น ก็มีการนำเพลง Silent Night ไปร้องทั่วไปในยุโรป เมืองซัลซ์บวร์กเองก็มีเทศกาลตลาดนัดคริสต์มาส ที่คนมาหาซื้อของขวัญ ที่อายุยาวนานกว่า 500 ปีมาแล้ว

ที่มาภาพ : https://www.silentnight-movie.com/single-post/2018/08/20/a-songs-journey

เพลงศาสนาที่ที่นิยมมากสุดในโลก

ภาพยนตร์ Silent Night เป็นชีวประวัติของเพลง Silent Night ที่บรรยายว่า โจเซฟ โมห์ร แต่งเนื้อเพลงนี้ เพื่อสะท้อนสิ่งที่เป็นความหวัง ในปี 1816 ออสเตรียประสบปัญหาภัยพิบัติต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายหลังจากสงครามนโปเลียน (1803-1815) เมืองซัลซ์บวร์กเหลือคนอาศัยอยู่แค่ 8 พันคน ความยากลำบากจากภัยแล้ง ทำคนมีชีวิตอยู่อย่างไร้ศรัทธาทางศาสนา

โจเซฟ โมห์ร เองตัดสินใจอพยพ และใช้เวลาเดินทาง 3 วันไปอยู่ที่หมู่บ้านเล็กๆชื่อ Wagrain ช่วงนี้เป็นช่วงที่เปลี่ยนชีวิตของโจเซฟ โมห์ร ให้กลายเป็นคนที่ทุ่มเทช่วยเหลือคนยากจน คืนวันหนึ่งในฤดูหนาว เขาออกมามองที่ท้องฟ้า ความทุกข์ยากของคนทั่วไป ทำให้ทุกอย่างเงียบสงบไปหมด แต่สำหรับโจเซฟ โมห์ร สิ่งนี้คือความเงียบที่ศักดิ์สิทธิ์ (sacred silent)

เขาเริ่มประพันธ์ข้อความ ที่กลายมาเป็นบทกวีของความเงียบที่ศักดิ์สิทธิ์ เวลาต่อมา กลายเป็นเพลงศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในภาษาเยอรมัน

ฉากหนึ่งในภาพยนตร์ที่สร้างความประทับใจมากที่สุดตอนหนึ่ง เมื่อนักร้องสาวอิสราเอลชื่อ Lina Makhoul เชื้อสายอาหรับ ร้องเพลง Silent Night ในภาษาอารบิก เธอบอกว่าเพลง Silent Night เชื่อมโยงคนทั่วโลกเข้าด้วยกัน

นักร้องสาวอิสราเอลชื่อ Lina Makhoul ที่มาภาพ : https://www.silentnight-movie.com

เมื่อเธออายุ 5 ขวบ โรงเรียนพาไปนครเยรูซาเลมและเมืองเบธเลเฮม การได้ไปเยือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ทำให้รู้สึกได้ถึงจิตวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ เธอเองได้ยินเพลง Silent Night ในภาษาอารบิก ครั้งแรกเมื่ออายุ 3 ขวบ หลายคนในโลกคงไม่เคยรู้ว่า มีเพลง Silent Night ที่ร้องเป็นภาษาอารบิก

เว็บไซต์ stillenacht.com เขียนถึงชีวิตช่วงสุดท้ายของ โจเซฟ โมห์ร ว่า เขากลายเป็นนักบวชที่เต็มไปด้วยจิตใจที่เมตตาเสียสละ และทุ่มเทให้กับงานทางด้านสวัสดิการสังคม โดยการสร้างโรงเรียนแห่งแรกขึ้นในหมู่บ้าน Wagrain ตั้งกองทุนช่วยเหลือเด็กยากจนให้ได้รับการศึกษา และสร้างบ้านพักแก่คนยากจนและคนแก่

ชีวิตของโจเซฟ โมห์ร เองเกิดมาอย่างยากจน และก็ตายไปอย่างยากจนเช่นกัน เพราะมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้แก่คนยากไร้ เมื่อเสียชีวิตในปี 1848 ทรัพย์สินอย่างเดียวที่เขาทิ้งไว้คือกีต้าร์

นักบวชของคนยากจนคนนี้ ไม่มีโอกาสได้เห็นความสำเร็จของเพลง Silent Night ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสในแต่ละปี จะมีคนทั่วโลกร้องเพลง Silent Night ถึง 2 พันล้านคน และปี 2011 องค์การยูเนสโก้ยกย่องให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลก

เอกสารประกอบ
Silent Night: A Song for the World (2020), Moonlake Entertainment.
Silent Night: The Stories Behind 40 Beloved Christmas Songs, 2013, Barbour Publishing, Inc.