ThaiPublica > Native Ad > เคแบงก์ จับมือ ลู อินเตอร์เนชันแนล ควง โรโบเวลธ์ ส่ง ‘FinVest’ ติดปีกนักลงทุน ซื้อขายกองทุนทั่วโลก

เคแบงก์ จับมือ ลู อินเตอร์เนชันแนล ควง โรโบเวลธ์ ส่ง ‘FinVest’ ติดปีกนักลงทุน ซื้อขายกองทุนทั่วโลก

2 ธันวาคม 2020


เลือกซื้อเสื้อผ้า… ง่ายมาก ไม่ต้องถามใคร
เลือกซื้อกองทุน… ยาก ขอผ่าน ขอถามผู้รู้ก่อน

  • สถานการณ์แบบนี้อาจจะเคยเกิดขึ้นกับหลายคนที่คิดว่าการซื้อกองทุนรวมด้วยตัวเองนั้นยาก
  • หลายคนต้องถามคนที่มีความรู้เรื่องการลงทุน หรือคนที่เชื่อใจ เชื่อใจใครก็ถามคนนั้น ทั้งๆ ที่การให้คำปรึกษาการลงทุน การมีข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนเป็นเรื่องสำคัญ
  • หลายคนเลือกที่จะไปสาขาธนาคารเพื่อที่จะซื้อกองทุน ทั้งๆ ที่ใช้โมบายแบงกิง หรือใช้แอปอื่นๆ ซื้อสินค้าและบริการ รวมทั้งท่องโลกดิจิทัลได้อย่างเชี่ยวชาญ
  • หลายคนต้องการที่จะลงทุนในต่างประเทศ ผ่านกองทุนรวม แต่ไม่มีข้อมูลมากพอ แถมการจะซื้อกองทุนต่างประเทศเองตรงๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำได้ถ้าเงินไม่หนาพอ
  • ธนาคารกสิกรไทย ลู อินเตอร์เนชันแนล และ บลน.โรโบเวลธ์ จึงได้ผนึกความแข็งแกร่งระดับโลกเปิดตัว ‘FinVest’ (ฟินเวสต์) แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการลงทุน แอปฯ ที่ตอบโจทย์นักลงทุนทุกระดับ ให้สามารถลงทุนได้ด้วยตัวเอง เพียงโหลดแอป FinVest ครั้งเดียวพร้อมเปิดบัญชี สามารถซื้อขายกองทุนรวมจากบลจ. ชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศได้โดยตรง มีกองทุนให้เลือกหลากหลายและเป็นกลางไม่จำกัดอยู่เพียง บลจ.ใด บลจ. หนึ่ง เพิ่มทางเลือกการลงทุนและโอกาสสร้างผลตอบแทนทั่วโลก

    FinVest ติดปีกการลงทุนทั่วโลก

    นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย

    นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ที่ผ่านมานักลงทุนทั่วไปไม่สามารถซื้อกองทุนในต่างประเทศได้โดยตรง เนื่องจากต้องลงทุนด้วยมูลค่าการสั่งซื้อแต่ละครั้งสูง 300,000-500,000 ดอลลาร์ ส่วนการลงทุนในกองทุนรวม FIF ก็ต้องรอให้มีการเปิดกองทุนใหม่ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ซึ่งต้องใช้เวลาระยะหนึ่งในการรวมรวบเงินลงทุนจากนักลงทุนทั่วไปให้ได้ตามที่กำหนด ก่อนที่จะนำไปลงทุนในกองทุนรวมในต่างประเทศต่อไป ซึ่งบางครั้งสถานการณ์การลงทุนก็เปลี่ยนแปลงไป ราคากองทุนในต่างประเทศที่นักลงทุนคาดหวังจะลงทุนก็ปรับเปลี่ยนไป นอกจากนี้การลงทุนในกองทุนรวมบางครั้ง ไม่มีผลิตภัณฑ์บางประเทศที่นักลงทุนต้องการจะลงทุน

    “การพัฒนา แพลตฟอร์ม FinVest ในรูปแบบดิจิทัล เป็นการเสริมศักยภาพการลงทุนให้กับนักลงทุนรายย่อยในประเทศไทย สามารถลงทุน ในกองทุนรวมได้ทั่วโลกผ่าน FinVest ได้โดยตรง”

    โดยเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลร่วมกันระหว่าง ธนาคารกสิกรไทยที่เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลแบงกิง ร่วมกับลู อินเตอร์เนชันแนล (Lu International) ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งอยูภายใต้บริษัท ลูแฟกซ์ โฮลดิง (Lufax Holding) ในเครือผิงอันกรุ๊ป (Ping An Group) บริษัทยักษ์ใหญ่ใน ประเทศจีน ซึ่งมีทีมงานพัฒนาด้านเทคโนโลยีการลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญระดับโลก โดยมี บลน.โรโบเวลธ์ จำกัด บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้าน wealth tech เป็นผู้ดูแลการให้บริการแพลตฟอร์ม FinVest เพื่อให้เข้ากับตลาดทุนไทย ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์)

    “ความร่วมมือดังกล่าวยังตอกย้ำบทบาทการเป็นผู้ให้บริการทางการเงิน (banking service) เต็มรูปแบบ โดยนำความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลแบงกิงของธนาคารฯ ผสานกับความเชี่ยวชาญของพันธมิตรระดับโลก และผู้เชี่ยวชาญด้านฟินเทค เพื่อทำให้บริการของธนาคารเข้าไปอยู่ในทุกที่ที่ลูกค้าใช้ชีวิตอยู่”

    ในปี 2563 ตลาดการเงินในประเทศไทยมีมูลค่า 44 ล้านล้านบาท มีการลงทุนในกองทุนรวมอยู่ 4.8 ล้านล้านบาท หรือราว 10%

    ยกระดับการลงทุนรูปแบบดิจิทัลไทยสู่แถวหน้าภูมิภาค

    มร. คิท วอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลูอินเตอร์เนชันแนล (สิงคโปร์) กล่าวว่า ลู อินเตอร์เนชันแนล บริษัทในเครือผิง
    อันกรุ๊ป ซึ่งเป็นกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน มีจุดแข็งในการบริหารจัดการด้านการลงทุน และมีทีมงานพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่มีความเชี่ยวชาญระดับโลก เล็งเห็นว่า ประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญที่มีความก้าวหน้าด้านการสร้างการเติบโตในการลงทุน และเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วที่สุด ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

    ความร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทยและโรโบเวลธ์ในการพัฒนาและให้บริการแพลตฟอร์มการลงทุน ‘FinVest’ จะช่วยตอบสนองความต้องการของนักลงทุน ในยุคปัจจุบัน ที่ให้ความสำคัญกับการนำดิจิทัลเทคโนโลยีมาใช้เป็นเครื่องมือในการลงทุนด้วยตัวเอง ลู อินเตอร์เนชันแนล เชื่อมั่นว่า การนำเสนอแพลตฟอร์ม ‘FinVest’ สู่ตลาดไทย จะช่วยยกระดับการลงทุนในรูปแบบดิจิทัลของไทย ไปสู่แถวหน้าของภูมิภาค

    แอปแรกชี้เป้าลงทุนอย่างเป็นกลาง

    นายชลเดช เขมะรัตนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน (บลน.) โรโบเวลธ์ จํากัด

    นายชลเดช เขมะรัตนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อ ขายหน่วยลงทุน (บลน.) โรโบเวลธ์ จํากัด กล่าวว่า FinVest คือ แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการลงทุน ภายใต้แนวคิด ‘ติดปีกการลงทุนให้คุณ’ ทำให้นักลงทุนไทยเข้าถึงการลงทุนได้ “ง่าย” เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน FinVest จะได้รับข้อมูลที่มีเนื้อหาเข้าใจง่าย คมชัด และ “ชี้เป้า” การลงทุนอย่างเป็นกลาง

    แนวคิดการพัฒนา FinVest เพื่อตอบสนองผู้ลงทุนทุกคนทุกกลุ่ม มาจากการศึกษา 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ หนึ่ง ผู้ลงทุนในกองทุนรวมมีอายุน้อยลงเรื่อยๆ เดิมเป็นกลุ่มคนวัย 41-55 ปี แต่ปัจจุบันเป็นกลุ่มคนอายุ 22-30 ปี นอกจากนี้ชอบทำรายการลงทุนบนช่องทางดิจิทัล จากเดิมที่ต้องไปสาขาธนาคาร และเปลี่ยนจากการลงทุนในกองทุนรวม Money Market, Fixed income มามีความสนใจในผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับตราสารทุน ทั้งในและต่างประเทศมากขึ้น

    การศึกษายังพบว่า แม้ผู้ลงทุนส่วนใหญ่ยังไปสาขาธนาคารเพื่อซื้อกองทุน แต่ผู้ลงทุนที่ซื้อกองทุนผ่านสองช่องทางทั้งสาขาธนาคารและผ่านโมบายแบงกิงก็เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

    สอง ยังพบว่าการลงทุนในรูปแบบ Open Architecture มีแนวโน้มเติบโตขึ้นทุกปี การนำเสนอกองทุนรวมให้เลือกมากมาย ไม่จำกัดเฉพาะกองทุนรวมของเครือธนาคารใดธนาคารหนึ่ง ทำให้ช่องการทางการขายแบบนี้มีส่วนแบ่งตลาดล่าสุด 17%

    สาม ประเทศไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมสูงวัยสมบูรณ์ โดยมีประชากรที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปในสัดส่วน 10% และมีอายุเฉลี่ยสูงกว่าทั่วโลก แต่ประชากรส่วนใหญ่ยังไม่มีแผนการลงทุน และมีความมั่งคั่งเฉลี่ยเพียง 114,000 บาท ต่ำกว่าระดับเฉลี่ยของโลก อีกทั้งในจำนวนประชากร 70 ล้านคนของประเทศ มีผู้ลงทุนโดยตรงในตลาดหลักทรัพย์ หรือลงทุนผ่านกองทุนรวม น้อยกว่า 5%

    ผลการศึกษายังพบสาเหตุที่คนไทยไม่ลงทุน 4 ข้อด้วยกัน คือ ความเสี่ยง ความยาก ต้องใช้เวลาและคิดว่าการลงทุนเป็นเรื่องของคนรวย

    คนทั่วไปมักกังวลเรื่องความเสี่ยง คิดว่าการลงทุนเป็นเรื่องยาก ทำให้ต้องใช้เวลามาก กว่าจะหาข้อมูลกองทุนรวมได้ กว่าจะซื้อ กว่าจะดูทุกวัน กว่าจะปรับพอร์ต และมีความเข้าใจผิดว่า การลงทุนเป็นเรื่องของคนรวยเท่านั้น คิดว่ารวยไม่พอที่จะลงทุน จึงไม่ได้ลงทุน

    การให้บริการบนแพลตฟอร์ม ‘FinVest’ จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้นักลงทุนเข้าถึงช่องทางลงทุนที่มีประสิทธิภาพได้ โดยการได้รับข้อมูลวิเคราะห์การลงทุนในรูปแบบที่กระชับและเข้าใจง่าย นำไปสู่ผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนที่เหมาะสมกับสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา ที่ได้ผ่านการคัดเลือกโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญร่วมกันระหว่างกสิกรไทยกับโรโบเวลธ์ใน Product Screening Committee

    “FinVest เลือกกองทุนรวมมาให้แล้วจาก 15 บลจ. ชั้นนำในไทยซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 90% ของอุตสาหกรรม รวมกับ บลจ. ทั่วโลก กระจายความเสี่ยงมาให้ และหากมองว่าการลงทุนเป็นเรื่องยาก ก็มีข้อมูลซึ่งสั้นกระชับได้ใจความ อ่านนิดหน่อย ดูคลิปสั้นๆ ก็จะรู้ว่าลงทุนกองอะไรดี”

    “เพื่อแก้ข้อกังวลเรื่องใช้เวลาเยอะ FinVest จึงเป็น one stop service เปืดบัญชีครั้งเดียวลงได้ทุก บลจ. ที่มีอยู่ ที่สำคัญที่สุด เราไม่ได้เอาการลงทุนเป็นชีวิตคนรวยอย่างเดียว เราเอาการลงทุนเป็นชีวิตทุกคน ดังนั้น การฝากเงินครั้งแรก 1,000 บาท หลังจากนั้นจะลงทุนเท่าไรก็ได้ตามเงื่อนไขขั้นต่ำของแต่ละกองทุน”

    จุดเด่นของ FinVest แอป คือ มี Featured fund “ชี้เป้า” การลงทุนอย่างเป็นกลาง นอกจากนี้จะเป็นแอปแรกที่จะมีกองทุนรวมทั้งในและต่างประเทศ ผ่านความร่วมมือ Fund Connect ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและ TSD ทำให้นักลงทุนสามารถแลกเงินตราต่างประเทศผ่านแอป เพื่อลงทุนในกองทุนต่างประเทศเช่น แบล็คร็อค ชโรเดอร์ มอร์แกนสแตนเล่ย์ ยูบีเอส ที่กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ แต่คาดว่าเปิดให้ลงทุนผ่านกองทุนรวมในต่างประเทศได้ต้นปีหน้า”

    โดนใจนักลงทุน beginner ง่าย ใช้เวลาน้อยลง

    นาตาลี เจียรวนนท์ นักลงทุน กล่าวว่า โดยส่วนตัวเป็นนักลงทุนขั้นเริ่มต้น หรือ beginner จึงเห็นว่า FinVest ตอบโจทย์การลงทุน เพราะไม่มีเวลาที่จะศึกษาหาข้อมูลเชิงลึก แต่ FinVest ช่วยให้สามารถลงทุนได้ง่ายมาก เพราะมีคนที่ทำหน้าที่คัดกรองข้อมูลการลงทุนมาให้แล้ว รวมทั้งลดขั้นตอนในการเปิดบัญชีจากเดิมที่ต้องเดินทางไปสาขาธนาคารและต้องใช้เอกสารมากมาย

    พิเศษช่วงเปิดตัว เมื่อดาวน์โหลด และเปิดบัญชีลงทุนสำเร็จรับเงินเข้าบัญชี FinVest 200 บาท (17 พ.ย. 63 – 31 ธ.ค. 63) ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ ‘FinVest’ เพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3mfcO4G FinVest Facebook Fan Page: @finvestapp Line id: @finvest หรือโทร 02-026-6222

    ขั้นตอนง่ายๆ ในการสมัครและใช้งานแอปพลิเคชัน FinVest

    1 ดาวน์โหลดและสมัครแอปพลิเคชัน FinVest

  • ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน FinVest จาก App Store หรือ Play Store หรือ Huawei App Gallery
  • กรอกเบอร์มือถือ กำหนดรหัสผ่านและใส่รหัส OTP กดยอมรับเงื่อนไข ก็สามารถลงทะเบียนใช้งานแอปพลิเคชันได้ทันที
  • 2 เปิดบัญชีเพื่อซื้อขายหน่วยลงทุน

  • กดเลือกเปิดบัญชี
  • ตรวจสอบคุณสมบัติและกรอกข้อมูลยืนยันตัวตน
  • ถ่ายรูปบัตรประชาชนและถ่ายรูปของคุณคู่กับบัตรประชาชน เซ็นลายเซ็นและกรอกรหัส OTP เลือกธนาคารที่รับเงินสำหรับการลงทุน เสร็จสิ้นการเปิดบัญชี และลูกค้าสามารถซื้อขายกองทุนได้ภายใน 3 วันทำการ
  • ลูกค้าเลือกผูกบัญชีกับธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย หรือธนาคารไทยพาณิชย์
  • ช่วงต้นปี 2564 ลูกค้า K PLUS ดาวน์โหลดแอป FinVest โดยจะให้กรอกข้อมูลบางส่วน และยืนยันตัวตนด้วยการถ่ายรูปบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมกับเซลฟี่ถ่ายรูปตนเอง
  • ลูกค้า Odini(odini) ดาวน์โหลดแอป FinVest กรอกข้อมูลบางส่วน สามารถใช้งานได้ทันที
  • 3 ทำแบบประเมินความเสี่ยง

  • เมื่อสมัครใช้งานเรียบร้อยแล้ว
  • กดเลือกประเมินความเสี่ยงในการลงทุน โดยตอบคำถามประเมินความเสี่ยงจำนวน 12 ข้อ
  • ต้องทำแบบประเมินความเสี่ยงให้เรียบร้อย จึงทำให้การเปิดพอร์ตเสร็จสมบูรณ์
  • 4 ฟีเจอร์หลักของแอปพลิเคชัน FinVest

  • อัปเดตข่าวสารการลงทุนผ่านบทความและข้อมูลชี้เป้าการลงทุน
  • ซื้อกองทุน
  • ขายกองทุน
  • ดูพอร์ตการลงทุน ยอดเงินคงเหลือ และเติมเงิน ถอนเงินได้ผ่านวอลเลต (wallet)