ThaiPublica > ประเด็นร้อน > เชื่อมโลกให้ไทยแล่น > สกพอ.คุมเข้มการใช้ที่ดิน 3 จังหวัด รองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ

สกพอ.คุมเข้มการใช้ที่ดิน 3 จังหวัด รองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ

22 ธันวาคม 2020


นางสาวทัศนีย์ เกียรติภัทราภรณ์ รองเลขาธิการสายงานพัฒนาพื้นที่และชุมชน สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.)

“ทัศนีย์ เกียรติภัทราภรณ์” รองเลขาธิการ อีอีซี คุมเข้มการใช้ประโยชน์ที่ดิน 4 กลุ่ม 11 ประเภท รองรับเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก

แผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน และแผนผังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือเรียกสั้นๆ “แผนผังอีอีซี” ประกาศบังคับใช้เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2562 โดยมีการกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินไว้ 4 กลุ่ม คือ พื้นที่พัฒนาเมืองและชุมชน พื้นที่พัฒนาอุตสาหกรรม พื้นที่พัฒนาเกษตรกรรม (สีเขียวอ่อน) และพื้นที่อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง

นางสาวทัศนีย์ เกียรติภัทราภรณ์ รองเลขาธิการสายงานเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กล่าวว่า แผนผังอีอีซี พื้นที่รวม 8.29 ล้านไร่ ได้มีการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินจากเดิมไป 8.29% แบ่งเป็น เปลี่ยนพื้นที่การพัฒนาเมือง 3.7% พื้นที่อุตสาหกรรม 1.9% และพื้นที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม 2.93%

นอกจากนั้น แผนผังอีอีซี ได้วางแผนรองรับการพัฒนาจนถึงปี 2580 ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีประชากรเพิ่มขึ้น 2 ล้านคน รวมเป็น 6 ล้านคนในพื้นที่อีอีซี

ที่ผ่านมา ก่อนที่แผนผังอีอีซี จะประกาศบังคับใช้ สกพอ.ร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมืองได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นประชาชนกว่า 4,000 คน ซึ่งครอบคลุมทุกกลุ่มทั้งส่วนราชการ เอกชน ประชาชน สื่อมวลชนในพื้นที่

“ในการรับฟังความเห็น เราไม่ได้เพียงนำแผนผังไปติดบอร์ดให้ประชาชนรับทราบว่า ‘แผนผังอีอีซี’ หน้าตาเป็นอย่างไร แต่เราประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด อปท. อบจ. ว่าในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าบ้านมีความคิดเห็นอย่างไร แล้วเราก็นำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะมาปรับแก้หลังจากนั้น ก็ประชุมร่วมกับสื่อมวลชนในพื้นที่ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกอำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน พี่น้องประชาชนรวมทั้งสิ้น 40 เวที จำนวนผู้เข้าร่วมรับฟัง 4,000 คน นอกจากนั้น เราสื่อสารเรื่องดังกล่าว ผ่านช่องทางอื่นๆ อีกจำนวนมาก เพราะเราคาดหวังว่าจะมีการกระจายข่าวสาร และการรับรู้สู่ประชาชนอย่างทั่วถึง ทั้งนี้ขอย้ำว่า ทุกความเห็นของผู้เข้าร่วมประชุม เรานำมาพิจารณาประกอบการจัดทำแผนผังอีอีซี เสมอ”

[pdf-embedder url=”https://thaipublica.org/wp-content/uploads/2020/12/ผังเมือง-EEC.pdf” title=”ผังเมือง EEC”]

แผนผังอีอีซี ของเรานอกจากเป็นการวางเพื่อรองรับการพัฒนาใน 20 ปีแล้ว นอกจากนั้นเรามีจุดเด่น คือพื้นที่บริเวณแม่น้ำ อ่างเก็บน้ำที่สำคัญ เรากันพื้นที่เป็นพื้นที่อนุรักษ์ โดย 200 เมตรแรก ต้องอนุรักษ์อย่างเดียว หลังจากนั้นระยะ 201 ถึง 500 เมตร ถัดมาสามารถพัฒนาได้ทุกอย่าง ยกเว้นโรงงานอุตสาหกรรมตามประเภทต้องห้าม นอกจากนั้นถ้าเป็นพื้นที่ป่าต้องเว้นไว้ 1 กิโลเมตร ห้ามสร้างโรงงาน

“เมื่อก่อนไม่มีการกำหนดขอบเขตชัดเจน แบบนี้ ทำให้เกิดปัญหา เช่น ที่แม่น้ำบางประกงไม่มีการกันพื้นที่ไว้ 500 เมตร ทำให้เกิดการสร้างหมู่บ้านติดแม่น้ำ หรือบางพื้นที่กลายเป็นบ่อฝังกลบขยะจากนอกพื้นที่ ทำให้ชุมชนโดยรอบ ประสบปัญหาการรบกวนจากกลิ่น หรือ มีแมลงวันเป็นจำนวนมาก รบกวนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านถึงขนาดต้องกางมุ้งคุยกัน ตอนกลางวัน”

หลังจากแผนผังอีอีซีประกาศบังคับใช้แล้ว ตาม มาตรา 32 พรบ.อีอีซี ได้กำหนดให้กรมโยธาธิการและผังเมืองจะต้องไปจัดทำผังเมืองรวมให้สอดคล้องกับแผนผังอีอีซี ซึ่งคาดจะแล้วเสร็จครบทุกอำเภอ ประมาณ ปี 2567 โดยจำแนกเป็น จังหวัดฉะเชิงเทรา 11 อำเภอ จังหวัดชลบุรี 11 อำเภอ และ จังหวัด ระยอง 8 อำเภอ หากดำเนินการครบถ้วนทุกอำเภอแล้ว ถือว่าแผนผังอีอีซี หมดอายุไป

“มาตรา 32 : แผนผังที่จัดทำขึ้นตามมาตรา 30 เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายฯ และคณะรัฐมนตรีอนุมัติแล้ว ให้ผังเมืองตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง ในส่วนที่ใช้บังคับในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกอยู่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแผนผังนั้นเป็นอันยกเลิกไป และให้กรมโยธาธิการและผังเมืองดำเนินการจัดทำผังเมืองขึ้นใหม่ให้สอดคล้องกับแผนผังดังกล่าว ในระหว่างที่ยังจัดทำผังเมืองไม่แล้วเสร็จ ให้ถือว่าแผนผังที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ เป็นผังเมืองรวมตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมืองสำหรับแต่ละจังหวัดที่อยู่ในเขตพัฒนาพิเศษ ภาคตะวันออก”

สำหรับกระบวนการดำเนินการและจัดทำผังเมืองรวมตาม พ.ร.บ.การผังเมืองฯ ปี 2562 จะใช้เวลา 72-82 สัปดาห์ มีดังนี้

    1. สำรวจ กำหนดเขตผัง วิเคราะห์และจัดทำร่างผังเมืองรวม 18 สัปดาห์
    2. ประชุมเพื่อพิจารณาร่างผังเมืองรวม 2 สัปดาห์
    3. ประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน 12 สัปดาห์
    4. ประชุมคณะกรรมการผังเมือง 6 สัปดาห์
    5. ปิดประกาศพร้อมข้อกำหนด 90 วัน 18 สัปดาห์
    6. รวบรวม ตรวจสอบ พิจารณาคำร้อง และแจ้งผลการพิจารณาคำร้อง 2-12 สัปดาห์
    7. จัดทำเอกสารประกอบการยกร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย 2 สัปดาห์
    8. นำเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ และประกาศในราชกิจจานุเบกษา 12 สัปดาห์

กรณีที่จะดำเนินการได้เร็วที่สุดอยู่ที่ 72 สัปดาห์ แต่หากมีการรับเรื่องร้องเรียน (ขั้นตอนที่ 6) จะทำให้กระบวนการล่าช้า โดยใช้เวลามากที่สุดถึง 82 สัปดาห์ ณ เดือนพฤจิกายน 2563 กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ดำเนินการจัดทำผังเมืองรวมระดับอำเภอ เพียง 3 ผังเมืองรวม คือชลบุรี 1 ผังเมือง และฉะเชิงเทรา 2 ผังเมือง ที่อยู่ในขั้นตอนที่ 3 (ประชุมรับฟังความคิดเห็น) ที่เหลืออยู่ในขั้นตอน 1 และ 2

อย่างไรก็ตาม นางสาวทัศนีย์ ย้ำว่า “การพิจารณาเปลี่ยนสีตามแผนผังอีอีซี เป็นไปตามหลักวิชาการผังเมือง”

“ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การกำกับ ติดตาม ดูแล ให้การใช้ประโยชน์ที่ดินให้เป็นไปตามแผนผังอีอีซี ที่ได้ประกาศใช้ไป ซึ่ง สกพอ.รวมกับหลายภาคส่วนช่วยกัน เช่น กลุ่มพลังสตรี และบัณฑิตอาษา ที่จะคอยเป็นหูเป็นตาให้กับภาครัฐ”

สำหรับกระแสข่าวที่จะมีการปรับเปลี่ยนแผนผังอีอีซีเรื่องถนนในอีอีซีนั้น นางสาวทัศนีย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา สกพอ.ก็ดำเนินการไปตามผังเมืองรวมเดิม แต่เมื่อมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม สกพอ.พร้อมนำข้อเสนอแนะของทุกฝ่ายมาปรับปรุง เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์สูงสุด และมีผลกระทบกับประชาชนและคนในพื้นที่ให้น้อยที่สุด

อ่าน ข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน-การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใน EEC เพิ่มเติม