
นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ แถลงเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2563 ว่า จะลาออกตำแหน่งเนื่องจากอาการของโรคลำไส้เรื้อรังที่ลุกลามเป็นระยะนับเป็นการสิ้นสุดระยะเวลาเกือบ 8 ปีในฐานะผู้นำที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดของญี่ปุ่น ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา โดยที่ความมุ่งหวังทางการเมืองหลายอย่างยังไม่เกิดขึ้น
นายอาเบะซึ่งเพิ่งสร้างสถิติการอยู่ในอำนาจต่อเนื่องเป็นเวลา 2,799 วัน ติดต่อกันเมื่อ 4 วันที่แล้ว ก่อนที่จะลาออกจากตำแหน่ง โดยที่ไม่บรรลุเป้าหมายระยะยาวที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีหลักการสันติภาพของญี่ปุ่นหรือร่วมในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียว ซึ่งจะมีขึ้นในฤดูร้อนหน้าในฐานะผู้นำประเทศ
“ด้วยเหตุที่ผมไม่อยู่ในสภาพที่จะตอบสนองต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากประชาชนได้อย่างมั่นใจอีกต่อไป ผมจึงตัดสินใจว่าผมไม่ควรอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป”
นายอาเบะในวัย 65 ปีกล่าวในการแถลงข่าวผ่านโทรทัศน์ทั่วประเทศ
การประกาศอย่างกะทันหัน ที่นับเป็นการเริ่มต้นการแข่งขันสำหรับผู้สืบทอดของเขา มีขึ้นท่ามกลางการสนับสนุนที่ลดลงต่อคณะรัฐมนตรีจากประชาชนเนื่องจากประชาชนจำนวนมากมองว่ารัฐบาลของนายอาเบะจัดการกับปัญหาที่เกิดจากการแพร่กระจายของไวรัสได้ไม่ดี
พรรคเสรีประชาธิปไตย( Liberal Democratic Party)นำโดยนายอาเบะกำลังพิจารณาที่จะจัดการเลือกตั้งผู้นำในวันที่ 15 กันยายนหรือช่วงเวลานั้น สมาชิกอาวุโสของพรรคระบุ
นายอาเบะกล่าวว่า เขาสามารถรักษาอาการป่วยลำไส้ใหญ่อักเสบซึ่งนำไปสู่การลาออกครั้งแรกในฐานะนายกรัฐมนตรีในปี 2550 ไม่ให้กำเริบได้ตลอดระยะการดำรงตำแหน่งส่วนใหญ่ แต่เริ่มรู้สึกอ่อนเพลียตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมและได้รับการวินิจฉัยว่ามีอาการกำเริบในต้นเดือนนี้
นายอาเบะกล่าวอีกว่า เขาคิดว่าช่วงนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมในการก้าวลงจากตำแหน่งสูงสุดเนื่องจากเชื่อว่าจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่กำลังลดลง และเขาสามารถหามาตรการใหม่ๆ เพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคได้ รวมถึงมีแผนที่จะจัดหาวัคซีนให้เพียงพอสำหรับประชาชนทุกคนและขยายขีดความสามารถในการทดสอบเป็น 200,000 รายต่อวัน
“ผมต้องขอโทษประชาชนจากส่วนลึกของหัวใจ ที่ต้องออกจากตำแหน่ง ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ในขณะที่นโยบายหลายอย่างยังคงดำเนินไปได้ครึ่งทาง”
นายอาเบะกล่าวว่า จะทำหน้าที่ไปจนกว่าพรรครัฐบาลจะคัดเลือกผู้สืบทอดได้และเขาวางแผนที่จะทำงานทางการเมืองต่อไป โดยจะลงสมัครรับเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า
เมื่อถามว่าคิดว่าใครควรจะมารับตำแหน่งต่อ นายอาเบะไม่ได้ให้ความเห็น
สำหรับผู้สมัครที่มีแนวโน้มได้รับการคัดเลือก ได้แก่ นายฟูมิโอะ คิชิดะ ผู้คุมนโยบายของพรรค LDP และอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ นายโยชิฮิเดะ ซูกะ ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านทักษะการประสานงานเบื้องหลัง และเป็นหัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนับตั้งแต่นายอาเบะกลับมามีอำนาจในปลายปี 2555 และนายชิเกรุ อิชิบะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่มักวิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรี
แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายทาโร อาโซ ซึ่งควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีกล่าวในระหว่างการประชุมเมื่อคืนวันศุกร์ของกลุ่มการเมืองของเขาว่า ไม่ได้มีเป้าหมายที่จะเป็นประธานพรรค LDP คนต่อไป ผู้เข้าร่วมการประชุมรายหนึ่งเปิดเผย
พรรค LDP จะตัดสินใจในวันอังคารหน้าว่า จะจัดการเลือกตั้งผู้นำอย่างไร โดยมีสมาชิกรัฐสภาและตัวแทนระดับท้องถิ่นมีแนวโน้มที่จะลงคะแนน แทนที่จะเป็นสมาชิกพรรคทั้งหมด แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้เปิดเผย
การตัดสินใจลาออกของนายอาเบะทำให้หลายคนประหลาดใจ รวมถึงผู้ช่วยคนสนิทของเขาด้วย “ผมรู้สึกตกใจ” โทโมมิ อินาดะ หนึ่งในผู้ช่วยกล่าวที่ที่ทำการของพรรค LDP โดยตั้งข้อสังเกตว่า การประกาศนั้นกระทันหันและไม่คาดคิด
ตลาดการเงินตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อข่าวนี้ โดยดัชนีนิกเคอิของญี่ปุ่นตกลงกว่า 2% จากวันพฤหัสบดี ในขณะที่เงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
นายอาเบะเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 2 ครั้งในเดือนนี้ห่างกันเพียง 1 สัปดาห์ ซึ่งผู้ช่วยของเขาระบุว่า เป็นการตรวจสุขภาพหลังจากที่มีรายงาน นายอาเบะอาเจียนเป็นเลือดที่สำนักนายกรัฐมนตรีเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม
คำถามเกี่ยวกับสุขภาพของนายอาเบะเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวหลังจากที่เขาลาออกโดยไม่คาดคิด เนื่องจากอาการป่วยแย่ลงในปี 2550 ซึ่งเป็นเวลาเพียง 1 ปีหลังจากเป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดของประเทศในยุคหลังสงครามเมื่ออายุ 52 ปี
หลังจากกลับมารับตำแหน่งอีกครั้ง นายอาเบะกล่าวว่า เขาเอาชนะโรคลำไส้ได้จากยาตัวใหม่ เมื่อวันจันทร์(24 สิงหาคม)ที่ผ่านมา นายอาเบะได้เป็นนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดของญี่ปุ่นตามจำนวนวันที่ดำรงตำแหน่งติดต่อกัน ซึ่งทำลายสถิติก่อนหน้านี้ของพี่ชายของปู่ของเขา เอซากุ ซาโต ในช่วงปี 2444-2528
มาตรการของรัฐบาลอาเบะในการจัดการกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ถูกวิพากษ์วิจารณ์ เช่น เรื่องการแจกจ่ายหน้ากากอนามัยผ้าแบบซักได้ที่ช้าเกินไปและกลายเป็นว่าน้อยเกินไปสำหรับประชาชนจำนวนมาก

หน้ากากดังกล่าวกลายเป็นที่รู้จักในชื่อ “Abenomask” ซึ่งแปลว่า “หน้ากากของอาเบะ” ในภาษาญี่ปุ่น และเป็นการเล่นสำนวนกับนโยบายเศรษฐกิจแบบ “Abenomics” ที่ให้ธนาคารกลางญี่ปุ่นผ่อนคลายทางการเงินอย่างจริงจัง มีการใช้จ่ายทางการคลัง และผ่อนคลายกฎระเบียบต่างๆเพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ
รัฐบาลยังถูกวิจารณ์ จากการที่ล้มเลิกแผนการแจกเงิน 300,000 เยน (2,830 ดอลลาร์) ให้กับครัวเรือนที่ประสบปัญหาทางการเงินในช่วงการแพร่ระบาดและตัดสินใจให้เงิน 100,000 เยน แก่ประชาชนแต่ละคน รวมถึงความยุ่งยากในการยื่นขอผ่านออนไลน์
การสำรวจความคิดเห็นของ Kyodo News ในเดือนสิงหาคมพบว่า 58.4% ไม่พอใจกับการจัดการของรัฐบาลในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส ความพึงพอใจต่อคณะรัฐมนตรีของนายอาเบะซึ่งอยู่ที่ 62% ในช่วงเริ่มเทอมที่สองตกลงมาที่ 36.0% ในเดือนสิงหาคม
ในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม นายอาเบะกล่าวว่า การต้องออกจากตำแหน่งงาน ในขณะที่ยังคงพยายามนำพาเศรษฐกิจญี่ปุ่นให้พ้นจากภาวะเงินฝืด การลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพกับรัสเซียและแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เป็นสิ่งที่เสียใจอย่างมาก
นอกจากนี้นายอาเบะ ยังกล่าวอีกว่า เขาเจ็บปวดกับความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาการลักพาตัวชาวญี่ปุ่นโดยเกาหลีเหนือในช่วงปี 2513 และ 2523
ในช่วงแรกนายอาเบะดูเหมือนจะกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศด้วย Abenomics โดยการตั้งเป้าหมายเงินเฟ้อไว้ที่ 2% และใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินครั้งใหญ่ ซึ่งส่งผลดีต่อดัชนีหุ้นและการจ้างงานของญี่ปุ่น
ผลกระทบทางเศรษฐกิจในเชิงบวกช่วยให้นายอาเบะพ้นจากเรื่องการเงินและเรื่องอื้อฉาว การเล่นพรรคเล่นพวกที่ล้อมรอบตัวเขาและสมาชิกคณะรัฐมนตรีของเขา รวมถึงการขายที่ดินของรัฐอย่างมีเงื่อนงำให้กับผู้ดำเนินการโรงเรียนที่เชื่อมโยงกับอากิเอะ ภรรยาของเขา
แต่ผลของนโยบายของนายอาเบะ แทบจะหมดไปจากการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่ทำให้การดำเนินการของกิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก
นายอาเบะขึ้นภาษีการบริโภค 2 ครั้งเป็น 8% ในเดือนเมษายน 2558 และถึง 10% เปอร์เซ็นต์ในเดือนตุลาคม 2562 แต่ญี่ปุ่นก็ยังห่างไกลจากฐานะทางการคลังที่แข็งแกร่ง
นายอาเบะมักถูกมองว่าเป็นพวกหัวโบราณที่ต้องการยกระดับชื่อเสียงของญี่ปุ่นในต่างแดน
ในปี 2557 นายอาเบะได้ดำเนินการตีความใหม่ของรัฐธรรมนูญแห่งสันติภาพ(ให้ความสำคัญกับสันติภาพ) เพื่อให้สามารถใช้การป้องกันตนเองโดยรวม ปกป้องพันธมิตรได้ แม้จะไม่มีการโจมตีญี่ปุ่นโดยตรง และขยายบทบาทของกองกำลังป้องกันภายใต้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ในปี 2559
ในเวทีการทูต นายอาเบะเป็นบุคคลที่คุ้นเคยในการประชุมระหว่างประเทศและเจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นกล่าวว่า นายอาเบะสามารถพูดคุยกับผู้นำต่างประเทศได้อย่างตรงไปตรงมา โดยเฉพาะประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯซึ่งกลายเป็นเพื่อนเล่นกอล์ฟของเขา
แต่ปัญหาการลักพาตัวยังคงไม่ได้รับการแก้ไข แม้นายอาเบะจะกล่าวว่าเป็น “ลำดับความสำคัญสูงสุด” สำหรับการบริหารงานของเขาและยังไม่ได้กำหนดวันสำหรับประชุมสุดยอดกับผู้นำเกาหลีเหนือคิม จองอึน แม้นายอาเบะจะไม่เห็นด้วยก็ตาม
ประธานาธิบดีทรัมป์ยกประเด็นนี้ขึ้น เมื่อจัดการประชุมสุดยอดครั้งที่สองกับคิม ที่กรุงฮานอยเมืองหลวงของเวียดนามในเดือนกุมภาพันธ์ 2562ตามคำร้องขอของนายอาเบะ
การเจรจาเพื่อลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพหลังสงครามกับรัสเซียก็ประสบปัญหาเช่นกัน ความสัมพันธ์ระหว่างโตเกียว – มอสโกยังคงมีอุปสรรคจากแนวอาณาเขตที่ใช้กันมาหลายสิบปีเหนือเกาะที่รัสเซียถือครองนอกเกาะฮอกไกโด

การแถลงข่าวประกาศการลาออกของของนายอาเบะ
นายอาเบะกล่าวว่า:
ลำดับเหตุการณ์สำคัญของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ
-
20 ก.ย. 2549 – นายอาเบะเป็นประธานพรรคเสรีประชาธิปไตยหลังการเลือกตั้งผู้นำ
26 ก.ย. – นายอาเบะได้รับการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนที่ 90 ของญี่ปุ่น
29 กรกฎาคม 2550 – นายอาเบะรับผิดชอบความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับของพรรค LDP ในการเลือกตั้งสมาชิกสภา
12 ก.ย. – นายอาเบะประกาศเจตนารมณ์ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
26 ก.ย. 2555 – นายอาเบะกลับสู่ตำแหน่งประธานพรรค LDP หลังการเลือกตั้งผู้นำ
16 ธ.ค. – พรรค LDP ครองเสียงข้างมากในการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร
26 ธ.ค. – นายอาเบะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่สองหลังจากพรรค LDP และนิวโคเมโตะซึ่งเป็นพรรคพันธมิตรรวมกันชนะในสภาล่าง
21 กรกฎาคม 2529 – พรรคร่วมได้เสียงข้างมากในสภาสูง ยุติการแบ่งแยกของสภาไดเอ็ต
26 ธ.ค. – นายอาเบะเยี่ยมชมศาลเจ้ายาสุกุนิที่เชื่อมโยงกับสงครามในโตเกียว โดยเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกที่ทำเช่นนั้นในรอบ 7 ปีและได้รับการวิจารณ์จากจีนและเกาหลีใต้
1 เมษายน 2557 – ขึ้นภาษีการบริโภคของญี่ปุ่นจาก 5% เป็น 8%
1 กรกฎาคม – คณะรัฐมนตรีอนุมัติการตีความรัฐธรรมนูญที่ขัดแย้งกันใหม่ที่ให้ญี่ปุ่นเข้าช่วยเหลือพันธมิตรภายใต้การโจมตีด้วยอาวุธ ในการป้องกันตนเองร่วมกัน
14 ธ.ค. – รัฐบาลผสมยังคงครองเสียงข้างมาก 2 ใน 3 ในการเลือกตั้งสภาล่าง
8 ก.ย. 2558 – นายอาเบะได้รับการเลือกตั้งอีกครั้ง แต่ไม่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานพรรค LDP
19 ก.ย. – ญี่ปุ่นออกกฎหมายด้านความมั่นคงเพื่อขยายขอบเขตการปฏิบัติการของกองกำลังป้องกันตนเองในต่างประเทศ
10 กรกฎาคม 2559 – รัฐบาลผสมได้รับเสียงข้างมาก 2 ใน 3 ในการเลือกตั้งสภาสูง
22 ต.ค. 2560 – รัฐบาลผสมยังคงครองเสียงข้างมาก 2 ใน 3 ในการเลือกตั้งสภาล่าง
20 ก.ย. 2561 – นายอาเบะได้รับตำแหน่งผู้นำพรรค LDP เป็นสมัยที่สามติดต่อกัน
21 กรกฎาคม 2562 – พรรคร่วมรัฐบาลได้ที่นั่งส่วนใหญ่ในการเลือกตั้งสภาสูง แต่ขาดที่นั่ง 2 ใน 3 ที่จำเป็นในการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับสันติภาพ
1 ต.ค. – อัตราภาษีการบริโภคของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็น 10% จาก 8% หลังจากเลื่อนออกไปสองครั้ง
24 มีนาคม 2563 – นายอาเบะและคณะกรรมการโอลิมปิกสากลตกลงที่จะเลื่อนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียวออกไปหนึ่งปีเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
7 เมษายน – นายอาเบะประกาศภาวะฉุกเฉิน 7 จังหวัดที่มีการแพร่ระบาด
17 ส.ค. – นายอาเบะเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลในโตเกียว ซึ่งผู้ช่วยระบุว่าเป็น “การตรวจสุขภาพตามปกติ”
24 ส.ค. – นายอาเบะกลับไปที่โรงพยาบาลโตเกียวเพื่อตรวจสุขภาพเพิ่มเติมและทำสถิติเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดของญี่ปุ่นในช่วงที่ดำรงตำแหน่งติดต่อกันนับตามจำนวนวัน
28 ส.ค. – นายอาเบะประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
เรื่องและภาพจาก kyodonews