ThaiPublica > Native Ad > 45 ปี ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่ง “พัฒนาตลาดทุน เพื่อทุกคน” อย่างยั่งยืน

45 ปี ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่ง “พัฒนาตลาดทุน เพื่อทุกคน” อย่างยั่งยืน

30 เมษายน 2020


คนส่วนใหญ่มักจะใช้ “ดัชนีตลาดหลักทรัพย์” เป็นตัวชี้วัดอาการเศรษฐกิจ เพราะดัชนีจะปรับตัวขึ้นลงอย่างรวดเร็วต่อสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก สะท้อนอารมณ์ความรู้สึกและการคาดการณ์ของ “ผู้ลงทุน” ผ่าน “ดัชนีตลาดหลักทรัพย์” ที่มีทั้งบวกและลบ

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาระบบเศรษฐกิจไทย เป็นกลไกและช่องทางระดมทุนของผู้ประกอบการธุรกิจให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน อีกทั้งเป็นช่องทางการออมและสร้างดอกผลจากการลงทุนของประชาชน ตลอดจนเป็นแหล่งความรู้เรื่องการเงินการลงทุนของผู้ลงทุน เยาวชน และประชาชนทั่วไป เป็นหนึ่งในกลไกการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยที่สำคัญมาตั้งแต่ปี 2518 ปีนี้ถือว่าได้ทำหน้าที่ตลาดทุนของประเทศไทยมาครบ 45 ปี โดยมีพันธกิจและวิสัยทัศน์

ตลาดทุนเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในองค์รวม
ไม่ได้ตอบสนองความต้องการเฉพาะคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
เราจึงมุ่งมั่นสร้างสรรค์ให้ตลาดทุนเกิดประโยชน์ต่อทุกภาคส่วนของสังคม
เราเชื่อมั่นว่าการเติบโตอย่างมีคุณภาพของธุรกิจ จะสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ประเทศ
และผลของมันจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชาติ
นี่คือ…สิ่งที่เรามุ่งหวัง และยึดมั่นในการดำเนินงานพัฒนาตลาดทุน เพื่อทุกคน
To Make the Capital Market ‘Work’ for Everyone

ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

โดย ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้กล่าวว่า ปี 2563 เป็นปีที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ดำเนินงานมาครบ 45 ปี จึงมุ่งเน้นการเติบโตแบบ Growing Together for Inclusive Well-being กล่าวคือ สร้างการเติบโตไปพร้อมกันทั้งตลาดทุน สังคม และประเทศชาติ อย่างมีสมดุล มีคุณภาพและยั่งยืนในระยะยาวเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของคนไทย เพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถก้าวข้ามผ่านช่วงของการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี และความผันผวนในเวทีโลกที่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและสังคม

การเดินทางของตลาดหลักทรัพย์ฯ จากวันแรกถึงวันนี้ ได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่อย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด แต่ด้วยโลกความเป็นจริงของทุนนิยม ต้องยอมรับว่าการเข้าถึง “โอกาส” ย่อมไม่เท่าเทียมกัน ความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้น ทำอย่างไรที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ที่หลายภาคส่วนพยายามร้องหา “ทุนนิยมที่มีหัวใจ”

ท่ามกลางสงครามการค้าโลก วิกฤติโรคระบาด ภาวะโลกร้อน ความเหลื่อมล้ำ และเทคโนโลยีก้าวหน้า เป็นต้น ที่ทุกประเทศต้องเผชิญ ต่างเป็นเหตุให้ต้องปรับคน ปรับกฎเกณฑ์กติการับมือการแข่งขัน วิกฤติที่ซ้ำซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ

“การพัฒนาอย่างยั่งยืน” จึงเป็นกลไกหนึ่งที่ถูกกล่าวถึง และเป็นโจทย์ใหญ่ที่ท้าทายประชาคมโลก เพื่อร่วมจับมือเดินไปสู่เป้าหมายเดียวกัน ตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จึงมีส่วนในการขับเคลื่อนภารกิจนี้ไปด้วยกัน

การให้ความรู้ทางการเงิน

สำหรับตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นตัวกลางสำคัญในการให้บริการในฐานะตลาดทุนของประเทศ ที่ทำให้ทั้งผู้ออม (ผู้ลงทุน) และผู้ระดมทุนได้พบกัน ผ่านช่องทางระดมทุนในรูปแบบต่างๆ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนและการลงทุนอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม ไปพร้อมๆ กับการส่งเสริมภาคธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social, Governance: ESG) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร การดำเนินงานและสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ลงทุน ที่จะนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มต่อตลาดทุนในระยะยาว

ดังจะเห็นได้จากการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศเจตนารมณ์ เข้าร่วม UN Sustainable Stock Exchanges (SSE) initiative ซึ่งเป็นเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ 4 แห่ง ได้แก่ United Nations Conference on Trade and Development (UNCTAD), United Nations Global Compact (UNGC), United Nations Principles for Responsible Investment (UNPRI) และ United Nations Environment Program Finance Initiative (UNEP FI) เพื่อสร้างเครือข่ายผู้เกี่ยวข้องในตลาดทุนทั่วโลกให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนาตลาดหลักทรัพย์และตลาดทุนให้มีความยั่งยืนภายใต้กรอบสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ในปี 2557

ยิ่งประเทศไทยโดย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมลงนามรับรองวาระการพัฒนาใหม่ของโลกที่เรียกว่าเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) พ.ศ. 2559-2573 ในเดือนกันยายน 2558 ทำให้ไทยเป็น 1 ใน 193 ประเทศที่เข้าร่วมเป้าหมาย SDGs

บนความเคลื่อนไหวดังกล่าว ตลาดทุนทั่วโลกได้ถูกใช้เป็นแกนหลักเพื่อขับเคลื่อนตลาดทุนสู่เป้าหมายที่ยั่งยืน โดยมีตลาดหลักทรัพย์ เป็นแกนกลางที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียจำนวนมากตั้งแต่ผู้ลงทุน ผู้กำหนดนโยบาย ตลอดจนผู้กำกับดูแลฯ

รวมทั้งความร่วมมือในภูมิภาค ในปี 2558 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมมือกับ SSE initiative จัดการประชุมสำหรับผู้นำระดับสูงของตลาดทุนในภูมิภาคอาเซียน “United Nations Sustainable Stock Exchanges Regional Dialogue: South East Asia 2015” เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนาแนวทางการพัฒนาตลาดหลักทรัพย์อย่างยั่งยืน รวมถึงการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาบริษัทจดทะเบียนในภูมิภาคอาเซียนให้มีการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคม ภายใต้กรอบบรรษัทภิบาล การประชุมดังกล่าวถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการพัฒนาตลาดหลักทรัพย์ฯ ไปสู่ความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม

ดร.ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ประธานกรรมการ ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อม นายสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานบรรณาธิการ วารสารการเงินธนาคาร แสดงความยินดีกับบริษัทและผู้บริหารที่ได้รับรางวัล SET Awards 2019

และเพื่อให้การพัฒนาอย่างยั่งยืนในมิติต่างๆ มีความพร้อมในรูปธรรมอย่างแท้จริง ปี 2562 ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เปิดตัวเว็บไซต์ www.setsustainability.com และ ช่องทางไลน์ @setsustainability เพื่อเป็นช่องทางติดตามความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาความยั่งยืนของธุรกิจและผู้เกี่ยวข้องในตลาดทุน สำหรับบริษัทจดทะเบียนและผู้ที่สนใจ พร้อมกันนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มุ่งยกระดับคุณภาพการรายงานความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียน เพื่อเป็นเครื่องมือสำหรับพัฒนาธุรกิจและสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ลงทุน โดยร่วมมือกับสำนักงาน ก.ล.ต. ปรับปรุงเกณฑ์การเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนตามแบบแสดงข้อมูลประจำปี, รายงานประจำปี และพัฒนาคู่มือการรายงานความยั่งยืน

นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้จัดทำรายชื่อหุ้นยั่งยืน (Thailand Sustainability Investment: THSI ) โดยคัดเลือกจากการส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนเข้าร่วมประเมินผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ซึ่งในปี 2562 ผ่านเกณฑ์สู่รายชื่อหุ้นยั่งยืน 98 บริษัท โดยรายชื่อหุ้นยั่งยืนนี้ยังใช้เป็นเกณฑ์คำนวณดัชนี SETTHSI ด้วย

ไม่เพียงเท่านี้ ในปี 2562 บริษัทจดทะเบียนของไทยได้รับการคัดเลือกเข้าสู่ดัชนีความยั่งยืนระดับสากล Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) 20 บริษัท สูงสุดในภูมิภาคอาเซียน และมี 7 บริษัทได้คะแนนสูงสุดเป็นที่ 1 ของโลก

ตลาดหลักทรัพย์ฯ สนับสนุนการเติบโตกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise)

ขณะเดียวกันการพัฒนาและดูแลสังคม ด้วยตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นแหล่งความรู้ทางการเงินการลงทุนของประเทศที่มุ่งให้คนไทยเข้าถึงอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมเพื่อสุขภาพการเงินที่ดี รวมทั้งการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อสร้างผลลัพธ์ทางสังคม โดยสนับสนุนการเติบโตกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise) ในการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมให้เติบโตอย่างสมดุล ด้วยแพลตฟอร์ม SET Social Impact ด้วยแนวคิด “การร้อยเรียงห่วงโซ่คุณค่า สร้างผลลัพธ์ทางสังคมที่ทวีคูณ” ไปพร้อมกับการสร้างเครือข่ายพัฒนาสังคมผ่านมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการกินดีอยู่ของคนไทยโดยรวม

ในด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม การมุ่งสู่ Zero Carbon Organization ด้วยการจัดการก๊าซเรือนกระจก, การจัดการพลังงาน, การจัดการน้ำ,การจัดการขยะ และการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น Eco Event อาทิ โครงการ Care the Bare โครงการ Care the Whale เป็นต้น

ด้วยเป้าหมายที่ต้องขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องตามกรอบ SDGs ที่ทุกภาคส่วนต้องไปสู่เป้าหมายในปี 2573 ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาตลาดทุนให้เป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน รวมทั้งผลักดันผู้เกี่ยวข้องให้ร่วมมือกันขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง อันจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

นี่คือ 45 ปีของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกับการพัฒนาตลาดทุนอย่างยั่งยืน เพื่อทุกคน