ThaiPublica > เกาะกระแส > ธอส. ช่วยลูกค้าจากพิษสงครามการค้า – ภัยแล้ง – COVID-19 ชำระเฉพาะดอกเบี้ย

ธอส. ช่วยลูกค้าจากพิษสงครามการค้า – ภัยแล้ง – COVID-19 ชำระเฉพาะดอกเบี้ย

8 มีนาคม 2020


ที่มาภาพ : https://egyptindependent.com/china-virus-death-toll-nears-1400-six-health-workers-among-victims/

ธอส. ประกาศมาตรการช่วยเหลือลูกค้า ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ และ COVID-19 ให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ย กรอบวงเงินสินเชื่อลูกค้าธนาคาร 20,000 ล้านบาท

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น สงครามการค้า ภัยแล้ง จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ย เพื่อให้ลูกค้ายังคงมีบ้านและมีเงินเหลือไว้ใช้จ่ายในด้านที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ประกอบด้วย

    1.กรณีอยู่ระหว่างการใช้อัตราดอกเบี้ย Promotion ให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน ไม่เกิน 6 เดือน
    2.กรณีพ้นระยะเวลาดอกเบี้ย Promotion หากเป็นลูกค้ารายย่อย / สวัสดิการ ให้ใช้อัตราดอกเบี้ย MRR -1.25% ต่อปี ชำระเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือนไม่เกิน 6 เดือน กรณีเป็นลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อเพื่อซื้อ/ปลูกสร้างแฟลต ให้ใช้อัตราดอกเบี้ย MLR -1.25% ต่อปี ชำระเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือนไม่เกิน 6 เดือน
    3.กรณีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าผู้ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ที่รายได้ได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจากประเทศกลุ่มเสี่ยงให้ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินงวดผ่อนชำระไม่เกิน 4 เดือน คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เหลือ 1.00% ต่อปี และให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจพร้อมไปกับการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบด้านรายได้จากปัญหาต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” ที่ให้ความสำคัญกับการทำให้ลูกค้าประชาชนสามารถผ่อนชำระสินเชื่อบ้านกับธนาคารได้จนถึงวันที่ครบตามวงเงินในสัญญาเงินกู้เพื่อให้ลูกค้าได้มีบ้านเป็นของตนเองอย่างสมบูรณ์ จึงได้จัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย กรอบวงเงินสินเชื่อลูกค้าธนาคาร 20,000 ล้านบาท เพื่อให้ลูกค้ามีเงินทุนและสภาพคล่องเพียงพอในการดำเนินชีวิตประจำวันหรือดำเนินธุรกิจต่อไป และช่วยให้ฐานะการเงินของลูกค้าปรับตัวดีขึ้นจนมีความสามารถในการผ่อนชำระได้ต่อไป

ที่มาภาพ: หนังสือสั่งการข้อสั่งการ ( ภัยแล้ง) การเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปี 2562-2563 ศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธารณภัย http://122.155.1.141/in.directing-7.191/

โดยลูกค้าที่มีสิทธิ์ขอใช้มาตรการต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น สงครามการค้า ภัยแล้ง จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยแสดงหลักฐานหรือเอกสาร หรือข้อมูลอื่นที่เชื่อมโยงผลกระทบที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งครอบคลุมทั้งลูกค้าที่ยังมีสถานะปกติ และลูกค้าที่มีสถานะเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือ NPL แบ่งเป็น 3 กรณี ประกอบด้วย

1.กรณีอยู่ระหว่างการใช้อัตราดอกเบี้ยตาม Promotion (ยื่นคำร้องได้ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2563) ให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน (ยกเว้นลูกค้าโครงการสินเชื่อตามที่ธนาคารกำหนด) และเมื่อผ่อนชำระครบตามเงื่อนไข สามารถกลับไปใช้อัตราดอกเบี้ยตามเงื่อนไขของสัญญาเดิม

2.กรณีพ้นระยะเวลาการใช้อัตราดอกเบี้ยตาม Promotion (ยื่นคำร้องได้ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2563) ให้ผ่อนชำระ ดังนี้

  • ลูกค้ารายย่อย / สวัสดิการ ให้ใช้อัตราดอกเบี้ย MRR -1.25% ต่อปี ให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ย รายเดือน ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน และให้พักชำระดอกเบี้ยค้างเดิมไว้ก่อน (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ธอส. เท่ากับ 6.375 % ต่อปี) เมื่อผ่อนชำระครบตามเงื่อนไขให้กลับไปใช้อัตราดอกเบี้ยตามเงื่อนไขของสัญญาเดิม
  • ลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อเพื่อซื้อ/ปลูกสร้างแฟลต ให้ใช้อัตราดอกเบี้ย MLR -1.25% ต่อปี ให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน และให้พักชำระดอกเบี้ยค้างเดิมไว้ก่อน (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MLR ธอส. เท่ากับ 5.875 % ต่อปี) เมื่อผ่อนชำระครบตามเงื่อนไข สามารถกลับไปใช้อัตราดอกเบี้ยตามเงื่อนไขของสัญญาเดิม

3.กรณีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่รายได้ได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินงวดผ่อนชำระไม่เกิน 4 เดือน คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เหลือ 1.00% ต่อปี และให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน เปิดให้ยื่นคำขอใช้มาตรการได้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563