กลุ่มเซ็นทรัล จับมือ ซิกน่า เข้าซื้อกิจการห้างสรรพสินค้าโกลบัส ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมขยายอาณาจักรค้าปลีกครอบคลุมยุโรป 5 ประเทศ
กลุ่มเซ็นทรัล ร่วมกับ ซิกน่า เข้าซื้อกิจการ “โกลบัส” (Globus) เชนห้างสรรพสินค้าสุดหรูในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จำนวนทั้งหมด 8 แห่งที่ตั้งอยู่ในสุดยอดโลเคชั่นตามเมืองต่าง ๆ จากบริษัท Migros-Genossenschafts-Bund (MGB) โดยมีสัดส่วนการร่วมทุน 50 : 50 การเข้าซื้อกิจการโกลบัสในครั้งนี้ ถือเป็นการร่วมทุนครั้งใหม่ของกลุ่มเซ็นทรัล และซิกน่า ที่เป็นเจ้าของร่วมในกิจการกลุ่มคาเดเว (KaDeWe Group) ธุรกิจห้างสรรพสินค้าในประเทศเยอรมนี และกำลังพัฒนาโครงการห้างสรรพสินค้าใหม่ร่วมกันในเมืองดึสเซิลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี และกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
นอกจากนี้กลุ่มเซ็นทรัลยังเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเตอีก 9 แห่ง ในประเทศอิตาลี และห้างสรรพสินค้าอิลลุม ในประเทศเดนมาร์ก การร่วมทุนครั้งนี้จึงถือเป็นการขยายอาณาจักรค้าปลีกของกลุ่มเซ็นทรัล ให้ครอบคลุมทวีปยุโรป ถึง 5 ประเทศ ได้แก่ ประเทศเยอรมนี, ออสเตรีย, อิตาลี, เดนมาร์ก และสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมทั้งทำให้กลุ่มเซ็นทรัล และซิกน่า ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำที่ครอบครอง และบริหารงานธุรกิจห้างสรรพสินค้าหรูในยุโรป
นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า “เรามีความยินดีที่จะประกาศอย่างเป็นทางการเรื่องการเข้าซื้อกิจการ ห้างสรรพสินค้าโกลบัส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นการร่วมทุนในสัดส่วน 50:50 ระหว่างกลุ่มเซ็นทรัล และกลุ่มซิกน่า พันธมิตรของเราในการบริหารงานห้างคาเดเว และเวียนนา ข้อตกลงทางธุรกิจในครั้งนี้มีมูลค่าสูงกว่า 1 พันล้านฟรังก์สวิส ซึ่งรวมไปถึงการเข้าซื้ออสังหาริมทรัพย์ชั้นนำต่าง ๆ ของสวิตเซอร์แลนด์ และโรงแรมอีกหนึ่งแห่ง
“ทั้งนี้ตั้งแต่การซื้อกิจการรีนาเชนเต ประเทศอิตาลี เมื่อปี 2011 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัลในยุโรป กระทั่งวันนี้ธุรกิจของเรามีรายได้เติบโตจาก 200 ล้านยูโรและคาดว่าจะก้าวกระโดดแตะ 2 พันล้านยูโรในปีนี้ โดยปัจจุบันกลุ่มเซ็นทรัลบริหารธุรกิจใน 5 ประเทศ 19 เมืองในยุโรป รวมถึงอีก 2 เมือง คือ ดึสเซิลดอร์ฟ และเวียนนา ที่โครงการอยู่ในระหว่างการพัฒนา เรามีห้างสรรพสินค้าที่เป็นแฟลกชิปสโตร์ทั้งหมด 8 แห่ง ทำให้กลุ่มเซ็นทรัลเป็นหนึ่งในผู้นำค้าปลีกระดับลักชัวรี่ที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป”
ส่วนวิททอริโอ ราดิเช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มเซ็นทรัล ยุโรป ในฐานะตัวแทนการร่วมทุนของกลุ่มเซ็นทรัล และซิกน่าในครั้งนี้ กล่าวว่า “โกลบัส ถือเป็นแบรนด์ห้างสรรพสินค้าที่ยอดเยี่ยม และน่าจับตามองอย่างยิ่ง เรายินดีที่ได้ต้อนรับเชนห้างสรรพสินค้านี้มาเป็นสมาชิกใหม่ในพอร์ตธุรกิจของเรา ด้วยชื่อเสียงที่สั่งสม และความแข็งแรงของแบรนด์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั้งในระดับประเทศ และระดับสากล เป็นเครื่องการันตีว่า ‘โกลบัส’ แบรนด์ห้างสรรพสินค้าสัญชาติสวิสนี้ จะมาช่วยเติมเต็มธุรกิจห้างสรรพสินค้ายุโรปของเราให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และเราพร้อมที่จะพัฒนาต่อยอด เสริมแกร่งให้โกลบัส รวมถึงห้างอื่น ๆ ในเครือของเรา สามารถเติบโตและประสบความสำเร็จไปพร้อมกันอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในอนาคต”
ด้านฟาบรีซ ซัมบรุนเนน (Fabrice Zumbrunnen) ประธานกรรมการบริหาร Migros กล่าวว่า “ผมมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของกลุ่มเซ็นทรัล และซิกน่า ที่มีประสบการณ์การบริหารห้างสรรพสินค้าหรูหลายแห่งในยุโรป เช่นเดียวกับการร่วมทุนในครั้งนี้ที่ทั้งสองบริษัทมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะนำความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ด้านการบริหารห้างสรรพสินค้าหรูหลากหลายแห่ง มาสร้างอนาคตที่แข็งแกร่ง และดีกว่าเดิมให้กับโกลบัส”
กลุ่มเซ็นทรัล และซิกน่า ในฐานะเจ้าของใหม่ มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโกลบัส ให้เป็นกลุ่มห้างสรรพสินค้าหรูชั้นนำในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยจะเร่งปรับภาพลักษณ์ และจุดขายของห้างให้มีความทันสมัย พร้อมต่อยอดการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ประจำชาติ อันเป็นจุดเด่นของห้างโกลบัส
วิททอริโอ ราดิเช กล่าวเพิ่มเติมว่า ความรู้ และประสบการณ์จากการบริหารงานห้างสรรพสินค้ากลุ่มคาเดเว, รีนาเชนเต และอิลลุม เป็นสิ่งสำคัญ และเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาห้างโกลบัส การร่วมทุนในครั้งนี้จะเป็นการนำโมเดลธุรกิจที่ประสบความสำเร็จของทั้งสองบริษัทมาต่อยอดให้โกลบัสขึ้นแท่นห้างสรรพสินค้าระดับแนวหน้าที่จะส่งมอบประสบการณ์ชั้นเลิศในแบบฉบับสวิต ให้กับคนท้องถิ่น และนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยเราพร้อมอย่างยิ่งที่จะลงทุนอย่างต่อเนื่องในห้างสรรพสินค้าโกลบัส เพื่อที่จะสร้างอนาคตที่ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนในระยะยาวให้กับโกลบัส
ความเป็นแบรนด์สวิสที่แข็งแรง คือ รากฐานที่แข็งแกร่งของโกลบัส
สิ่งที่ถือเป็นรากฐาน จุดแข็งที่จะต่อยอด และเพิ่มคุณค่าให้กับธุรกิจของโกลบัสในอนาคต นั่นคือ การเป็นแบรนด์สวิสดั้งเดิมที่มีชื่อเสียง และได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในกลุ่มลูกค้าชาวสวิส การมีพนักงานที่มากประสบการณ์และความมุ่งมั่นในการทำงาน การมีลอยัลตี้โปรแกรมในรูปแบบบัตรสมาชิก รวมถึงการจำหน่ายสินค้าที่ครบครัน และหลากหลายประเภท เช่น อาหารสำเร็จรูป, สินค้าเกี่ยวกับบ้าน และความสวยความงาม ตลอดถึงการตั้งอยู่ในโลเคชั่นที่โดดเด่นและเหนือกว่า
“แม้ปัจจุบันธุรกิจค้าปลีกจะเป็นตลาดที่ท้าทาย และแข่งขันสูง แต่การผนึกกำลังศักยภาพทางการเงินที่แข็งแกร่งของกลุ่มเซ็นทรัล และซิกน่า จะเป็นสิ่งรับประกันความมั่นคง และความสามารถในการพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่องให้โกลบัส ก้าวสู่การเป็นห้างสรรพสินค้าที่ครองตำแหน่งผู้นำ และครองใจลูกค้าทุกคน” วิททอริโอ ราดิเช กล่าวปิดท้าย
สำหรับทีมผู้บริหารมืออาชีพ วิททอริโอ ราดิเช จะเป็นแม่ทัพและผู้นำที่จะวางกลยุทธ์การเติบโตให้กับโกลบัส พร้อมทีมงานที่มากประสบการณ์จากกลุ่มซิกน่า และบริษัทในเครือ ในขณะที่โทมัส เฮอร์เบิร์ต (Thomas Herbert) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนปัจจุบันของโกลบัส จะเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหาร และฟรานโก สวาสเตโน (Franco Savastano) รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนปัจจุบัน จะขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ
โดยวิททอริโอ ราดิเช กล่าวว่า “การทำงานร่วมกันอย่างมืออาชีพ คือสิ่งที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับทั้งกลุ่มเซ็นทรัล ซิกน่า โกลบัส รวมถึงกลุ่มผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย เรามีความพร้อมและยินดีอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมงานกับทีมงานชาวสวิส เพื่อขับเคลื่อนโกลบัสให้เติบโตไปด้วยกัน”
แม้การเซ็นสัญญาร่วมทุนจะเสร็จสิ้นไปแล้วแต่การครอบครองกิจการอย่างเป็นทางการจะเกิดขึ้นหลังจากได้รับการอนุมัติจากองค์กรควบคุมการแข่งขันทางการค้าในยุโรป (European competition authorities) โดยมีกำหนดที่จะได้รับการอนุมัติในช่วงกลางปี 2020 นี้