ThaiPublica > เกาะกระแส > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ : “เปิดตัว ‘สถาบันทิศทางไทย’ ขับเคลื่อนประเทศไร้ความขัดแย้ง” และ “อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชาถูกการบินไทยปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่องที่ปารีส”

ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ : “เปิดตัว ‘สถาบันทิศทางไทย’ ขับเคลื่อนประเทศไร้ความขัดแย้ง” และ “อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชาถูกการบินไทยปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่องที่ปารีส”

9 พฤศจิกายน 2019


ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 2-8 พ.ย. 2562

  • เปิดตัว “สถาบันทิศทางไทย” ขับเคลื่อนประเทศไร้ความขัดแย้ง
  • สรรพากรโต้ ยังไม่สรุปลดภาษีบุคคลทำรัฐสูญ 7 หมื่นล้าน
  • ไฟเขียวแท็กซี่สนามบินเก็บค่าขนกระเป๋า 26 นิ้ว เริ่มคิดที่ใบที่ 3 ใบละ 20 บาท
  • มงคลกิตติ์เสนอยกเลิกเพลงชาติไทย ใช้ “ความฝันอันสูงสุด” แทนชั่วคราว
  • อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชาถูกการบินไทยปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่องที่ปารีส

เปิดตัว “สถาบันทิศทางไทย” ขับเคลื่อนประเทศไร้ความขัดแย้ง

เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2562 ภายในงาน “FIRST MOVE ทิศทางไทย” ซึ่งเป็นการเปิดตัวสถาบันทิศทางไทยอย่างเป็นทางการโดยมีการกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ทิศทางการพัฒนาประเทศไทยภายใต้การเปลี่ยนแปลงของโลก” จาก “ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา” ในฐานะนายกสภาสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ รวมทั้งยังมีการแสดงแห่งความเป็นไทย ขับเสภาร่วมสมัย เท่าทันโลก ตระหนักรู้ ก้าวสู่ทิศทางไทยใหม่ โดย “เก่ง ธชย ประทุมวรรณ” ด้วย

ดร.จิรายุ กล่าวช่วงหนึ่งว่า การพัฒนาประเทศไทย สำหรับตนค่อนข้างยินดีกับสถาบันทิศทางไทย ซึ่งปัจจุบันการบริหารการปกครองของไทยใช้เอกลักษณ์ของรัฐไทย คือการปกครองที่มีบทบาทของสถาบันพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ เป็นการปกครองที่มีลักษณะแบ่งออกเป็น 3 ด้าน คือ การบริหารภายใต้รัฐบาล พัฒนาประเทศ อาศัยการออกกฎหมาย ส่วนที่ 2 รัฐสภา และส่วนที่สาม การให้เกิดความยุติธรรมผ่านศาล เราต้องยึดมั่น สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่สูงสุดแต่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ตนเห็นว่าแล้วสอดคล้องกับสถาบันทิศทางไทย

“ผมได้มีโอกาสในอดีตที่ได้ลงมา วิเคราะห์และมีข้อสรุปที่ตรงกับสถาบันทิศทางไทยที่พูดไป ถ้าเราแก้ปัญหาในแนวทางที่ถูกต้อง ให้พลเมืองเรารวมตัวกันที่จะเดินหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้อง เรามีศักยภาพที่จะทำอะไรดีๆ ให้กับประเทศเราได้แน่นอน คือ ประเทศไทยได้ก้าวหน้ามาเยอะ อย่างเช่น ผมได้เคยศึกษาถึงธนาคารโลก มี 13 ประเทศในโลกและไทยเป็นหนึ่งใน 13 ประเทศที่ได้ก้าวหน้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งธนาคารโลกศึกษามา 13 ประเทศมีความเจริญก้าวหน้ามองในแง่ความเติบโตของจีดีพี เว้นปี 2540 แต่เราก็มีปัญหาใหญ่ที่ยังอยู่กับเรา คือ 1. ปัญหาความเหลื่อมล้ำ 2. ปัญหาสิ่งแวดล้อม 3. ปัญหาความเสื่อมทางจริยธรรมของคน อันนี้ผมคิดว่าตรงกับสิ่งที่สถาบันทิศทางไทยที่ต้องการ นี่คือจิตใต้สำนึกและแรงบันดาลใจในการมาแก้ปัญหาของประเทศในปัจจุบันเพื่อเดินไปสู่อนาคตอย่างยั่งยืนและมั่นคง”

ขณะที่นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม กรรมการสถาบันทิศทางไทย กล่าวช่วงหนึ่งว่า วันนี้ไม่อยากเห็นประเทศไทยนำไปสู่การปะทะ หลังๆ ได้พูดคุยกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ บ่อยขึ้น คุยเพื่อที่จะแลกเปลี่ยนทำความเข้าใจกันว่าบ้านเมืองควรจะเป็นไปในทิศทางไหน นี่ก็เป็นแรงบันดาลใจอันหนึ่ง

สถาบันทิศทางไทยเราเน้นย้ำว่า เราสร้างปัญญาที่เป็นสัมมาทิฐิ ปัญญาที่เป็นสัมมาทิฐิ คือปัญญาที่จุดประกายความคิด ฉะนั้นการมาอบรมที่นี่ก็คือ แค่คุณถูกจุดประกายแล้วกลับไปค้นคว้าต่อเองไม่ใช่การชี้นำ ประเด็นทั้งหมดข้อมูลเพียงสั้นๆ แล้วจะมีลิงก์ เพราะฉะนั้นในค้นกูเกิลมีลิงก์ค้นไปเรื่อยๆ หลักคิดนี้ถ้าเราสร้างผู้นำทางสังคมที่มีสติปัญญา ที่มีสัมมาทิฐิ รู้จักใช้สื่อให้แพร่กระจายออกไป คือการเคลื่อนตัวของสังคมขนาดใหญ่

สำหรับผู้ร่วมก่อตั้งสถาบันทิศทางไทย และคณาจารย์สถาบันทิศทางไทยโดยมีรายชื่อดังนี้ 1. สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม 2. ดร.สุวินัย ภรณวลัย 3. นายชูชาติ ศรีแสง 4. พลเอก สมเจตน์ บุญถนอม 5. นายเดช พุ่มคชา 6. นายฉาย บุญนาค 7. นายธงชัย สุวรรณวิหค 8. นายสาวิทย์ แก้วหวาน 9. นายธนุ สุขบำเพิง 10. ดร.แสงเทียน อยู่เถา 11. กิ่งการะเกด ชื่นฤทัยในธรรม 12. ฑีญา เผ่าสวัสดิ์ 13. ดร.วีรพจน์ ลือประสิทธิ์กุล 14. ดร.นักรบ ระวังการณ์ 15. ดร.เวทิน ชาติกุล 16. นายฉัตรชัย ภู่โคกหวาย 17. ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ 18. นายหาญศักดิ์ หาญสมวงศ์ 19. ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ 20. ดร.กัมปนาท ภักดีกุล 21. นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี 22. ดร.เสรี วงศ์มณฑา 23. ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น 24. พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ 25. นพ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล

อย่างไรก็ตาม ในงานเปิดตัววันนี้มีคนในหลายแวดวงเข้าร่วมอย่างคึกคัก เช่น นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม, นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย, นายบุญชัย เบญจรงคกุล, พล.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว สมาชิกวุฒิสภา, นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา, นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต, นายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์, นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย อดีตรองประธาน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่ 1 และ หฤทัย ม่วงบุญศรี หรือ อุ๊ นักร้องชื่อดัง

สรรพากรโต้ ยังไม่สรุปลดภาษีบุคคล ทำรัฐสูญ 7 หมื่นล้าน

ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร

วันที่ 6 พ.ย. 2562 เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่า จากกรณีข่าว “คลังหวั่นลดภาษีบุคคลธรรมดา 10% ตามนโยบายหาเสียงพรรคพลังประชารัฐ ทำรัฐสูญเสียรายได้ 7 หมื่นล้านบาท” ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการศึกษา และยังไม่ได้มีข้อสรุปตามข่าวแต่อย่างใด

นอกจากนี้ การปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต้องทำด้วยความรอบคอบ และต้องทำควบคู่กับการปรับโครงสร้างภาษีทั้งระบบเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศตามนโยบายรัฐบาล ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงได้ตั้งคณะทำงานศึกษาแนวทางปฏิรูปโครงสร้างภาษีอากร ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากกรมสรรพากร กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เพื่อดูแลการปรับโครงสร้างภาษีทั้งระบบ

ทั้งนี้ กรมสรรพากรอยู่ระหว่างศึกษาในรายละเอียดการปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในภาพรวม โดยคำนึงถึงการสร้างความเป็นธรรม หลักความเป็นกลางของระบบภาษี และกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ เพื่อนำเสนอคณะทำงานศึกษาแนวทางปฏิรูปโครงสร้างภาษีอากรและกระทรวงการคลังโดยเร็วต่อไป

ไฟเขียวแท็กซี่สนามบินเก็บค่าขนกระเป๋า 26 นิ้ว เริ่มคิดที่ใบที่ 3 ใบละ 20 บาท

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข (ขวา) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ(ซ้าย)

เว็บไซต์ข่าวสดรายงานว่า วันที่ 7 พ.ย. 2562 นายพัลลภ ฉายินธุ ประธานคณะกรรมการประสานงานรถยนต์นั่งสาธารณะ (แท็กซี่) ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับตัวแทนกระทรวงคมนาคม เพื่อทวงถามการปรับขึ้นค่าโดยสาร การขอปรับค่าบริการขนส่งสัมภาระ และขอขยายเวลาอายุการใช้งานรถแท็กซี่จาก 9 เป็น 12 ปี ว่า กระทรวงคมนาคมได้รับข้อเสนอเรื่องการขอปรับขึ้นค่าขนส่งสัมภาระ ขนาด 26 นิ้วขึ้นไป โดย 2 ชิ้นแรกฟรี ส่วนชิ้นที่ 3 เป็นต้นไปจะเก็บค่าบริการได้ชิ้นละ 20 บาท โดยกระทรวงแจ้งว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม จะลงนามอนุมัติให้เริ่มมีการจัดเก็บค่าขนสัมภาระได้ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย. 2562 เป็นต้นไป

ส่วน ข้อเรียกร้องเรื่องการขอปรับขึ้นค่าโดยสาร และค่าบริการเรียกรถแท็กซี่ในสนาม รถแท็กซี่ธรรมดาจาก 50 บาทเป็น 70 บาทต่อเที่ยว และรถแท็กซี่ขนาดใหญ่ จาก 70 บาทเป็น 90 บาทต่อเที่ยวนั้น กระทรวงคมนาคได้ขอความร่วมมือให้แท็กซี่ชะลอการปรับขึ้นออกไปก่อน โดยจะพิจารณาให้อีกครั้งเมื่อเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น

ส่วนประเด็นการขอขยายอายุแท็กซี่จาก 9 ปีเป็น 12 ปี ซึ่งเป็นมาตรการเยียวยากรณีที่กระทรวงคมนาคมจะแก้กฎหมายให้แท็กซี่ป้ายดำเป็นแท็กซี่ที่ถูกกฎหมายนั้น กรมการขนส่งทางบกรอการตอบกลับจากขั้นตอนของสำนักงานคณะกรรมกฤษฎีกา คาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนไม่เกินวันที่ 29 พ.ย. 2562 โดยนายศักดิ์สยามให้สัญญากับแท็กซี่ว่าหากภายในวันดังกล่าวกรมการขนส่งทางบกยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนมาให้แท็กซี่ จะสั่งย้ายอธิบดีและบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกคน

มงคลกิตติ์เสนอยกเลิกเพลงชาติไทย ใช้ “ความฝันอันสูงสุด” แทนชั่วคราว

เฟซบุ๊กแฟนเพจบีบีซีไทยรายงานว่า ในที่ประชุมสภาวันที่ 6 พ.ย. 2562 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศิวิไลย์ เสนอยกเลิกเพลงชาติไทยที่แต่งในสมัยคณะราษฎร เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์

นายมงคลกิตติ์กล่าวว่าข้อเสนอของเขามีที่มาจากความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

“ผมมีความสงสัยว่าเพลงชาติไทยในปัจจุบัน ตั้งแต่สมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม 2475 ได้แต่งเพลงนี้ขึ้นมา มิได้เอ่ยถึงพระมหากษัตริย์…ซึ่งในเนื้อหาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์เลย”

“ในเนื้อหาของเพลงชาติตั้งแต่ 2475 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ไม่มีเนื้อหาเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์เลย ไม่เหมือนกับประเทศอังกฤษที่มีเนื้อหาเพลงเกี่ยวข้องกับควีนของเขา…เพราะฉะนั้นแล้วเพลงชาติปัจจุบันใช้มาประมาณ 80 กว่าปีแล้ว บทเพลงดังกล่าวไม่มีเนื้อหาใจความที่เคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะคนแต่งในสมัยนั้นคือพวกคณะราษฎรเดิม จึงขอเสนอยกเลิกเพลงชาติไทยในปัจจุบันที่แต่งในสมัยคณะราษฎรและปรับปรุงแก้ไขใหม่ให้เป็นปัจจุบัน และในช่วงที่ยังไม่มีเพลงชาติไทยปัจจุบัน ผมจึงขอเสนอให้ใช้เพลงความฝันอันสูงสุด ซึ่งเป็นบทพระราชนิพนธ์ของในหลวง ร.9 ไปพลางก่อน” นายมงคลกิตติ์เสนอ

อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชาถูกการบินไทยปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่องที่ปารีส

เว็บไซต์ข่าวสดรายงานโดยอ้างสำนักข่าวเอเอฟพีว่า นายสม รังสี อดีตผู้นำพรรคฝ่ายค้านกัมพูชา ถูกสายการบินไทย ปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่องบินจากท่าอากาศยานชาร์ล เดอ โกล กรุงปารีส มายังกรุงเทพฯ ประเทศไทย เพื่อผ่านไปยังประเทศกัมพูชาตามแผนการกลับบ้านเกิด

“ผมรู้สึกตกใจอย่างยิ่ง เพราะว่าประชาชนต้องการผมในประเทศกัมพูชา” นายสม รังสี กล่าว ภายหลังได้รับการปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่องบินของการบินไทย

“ผมจะไม่ยอมแพ้ …เวลาของฮุนเซนใกล้หมดลงแล้ว ประชาธิปไตยจะถูกสถาปนาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ มันคือความมุ่งมั่นของเรา มันคือความมั่นใจของเรา” อดีตผู้นำพรรคฝ่ายค้านกล่าว และว่าตนจะพยายามหาไฟลท์อื่นไปประเทศไทยให้ได้ในวันนี้

เว็บไซต์บีบีซีไทยรายงานว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ตามมติของอาเซียนที่จะไม่ยุ่งกิจการภายในซึ่งกันและกัน และไม่ยอมให้ผู้ต่อต้านรัฐบาลมาใช้พื้นที่ไทยในการเคลื่อนไหว ซึ่งเขาได้สั่งการเรื่องนี้ไปแล้วว่าไม่ให้นักการเมืองกัมพูชาผู้นี้เข้ามาในไทย

เมื่อถามว่าได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังนายสม รังสี โดยตรงหรือไม่ว่าทางการไทยไม่อนุญาตให้เขาเข้าประเทศ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “จะไปแจ้งเขาทำไม ไม่จำเป็นต้องถึงเขา ผมก็คุยรัฐบาลต่อรัฐบาล เขาไม่ได้เป็นรัฐบาลจะคุยกับใครได้”