ThaiPublica > คอลัมน์ > จงดูแล “คู่ชีวิต” ที่เเท้จริง

จงดูแล “คู่ชีวิต” ที่เเท้จริง

13 ตุลาคม 2019


วรากรณ์ สามโกเศศ

บ่อยครั้งที่เราละเลยการดูแลร่างกายของเราดังนั้นจึงกินดื่มและใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานจนสิ้นเปลืองชีวิต เมื่อมีคนมาเตือนให้ไม่ลืมดูแลร่างกายของเราเพราะมีเหตุผลอันสำคัญยิ่งจึงเป็นเรื่องที่ควรนำมาเล่าสู่กันฟัง

Sri Sri Ravishankar กูรูชั้นนำของอินเดียผู้โด่งดังในโลกตะวันตกคนหนึ่งประพันธ์ข้อเขียนสั้น ๆ ที่มีชื่อว่า “Who is your life partner?” ไว้อย่างน่าฟัง ศิษย์มักเรียกเขาว่า “Sri Sri” (ศรี ศรี) ซึ่งไม่ใช่ชื่อตัว หากเป็นคำนำหน้าเพื่อให้เกียรติคล้ายกับ “กูรู” (guru) หรือ “ครู” ซึ่งเป็นภาษาสันสกฤต

“กูรู” ดูจะมีความหมายลึกซึ้งกว่า “ครู” โดยหมายถึงผู้ที่ขจัดความมืดและนำสู่แสงสว่างในบ้านเราคำว่า “ครู” มีความขลัง มีความศักดิ์สิทธิ์มากกว่า “อาจารย์” เเละเราใช้กันมาเนิ่นนาน เราไม่เคย “ไหว้อาจารย์” “ตอบแทนพระคุณอาจารย์” ไม่รู้จัก”วันอาจารย์” เรามีแต่ “ไหว้ครู” “ตอบแทนพระคุณครู” “วันครู”

ชื่อจริงของ Sri Sri คือ Ravi Shankar โดย Ravi ก็คือ “รวี” ซึ่งหมายถึงพระอาทิตย์ (เกิดวันอาทิตย์) ส่วน Shankar นั้นตั้งชื่อตามนักบุญของฮินดูในศตวรรษที่ 8 ซึ่งเกิดวันเดียวกัน

ท่าน Sri Sri เรียนจบปริญญาตรีด้านวิทยาศาสตร์จาก St Joseph’s College ของ Bangalore University หลังจากเรียนจบก็ติดตาม “กูรู” Maharishi Mahesh Yogi ผู้มีชื่อเสียงในการพัฒนาวิธีนั่งสมาธิ เป็นผู้นำองค์กรนานาชาติระดับโลกและเผยแพร่คำสอนในด้านการสร้างสันติภาพและความสงบ หลังจากติดตามเดินทางไปทั่วโลกอยู่หลายปีก็เริ่มงานของการเป็น”กูรู”เอง ด้วยการบรรยายและเปิดหลักสูตรสร้างประสบการณ์แสวงหาความสงบในชีวิตตั้งแต่ปี 1980

ท่าน Sri Sri ปัจจุบันอายุ 63 ปี เป็นผู้ก่อตั้งองค์กรการกุศลที่มีอาสาสมัครให้บริการสังคม ชื่อว่า The International Association for Human Values ปรัชญาของท่านก็คือจิตวิญญาณ (spirituality) สร้างคุณค่าให้มนุษย์ชาติ เช่น ความรัก และความเห็นอกเห็นใจอย่างมีเมตตา สิ่งเหล่านี้ข้ามการนับถือศาสนาหรือวัฒนธรรม ความผูกพันของมนุษย์ผ่านจิตวิญญาณเป็นสิ่งสำคัญกว่าเรื่องเชื้อชาติ สัญชาติ เพศศาสนาอาชีพ ฯลฯ

มีหนังสือหลายเล่มที่ท่าน Sri Sri เขียนซึ่งเป็นที่รู้จักกันกว้างขวางในโลกตะวันตก เช่น Celebrating Silence/An Intimate Note to the Sincere Seeker ฯลฯ ข้อเขียนสั้น ๆ ของท่าน Sri Sri ที่ผู้เขียนถอดความมาต่อไปนี้กล่าวถึงความจริงที่เรามักลืมไปจนเกิดความเสียหายที่เราไม่สามารถหมุนวันเวลากลับคืนมาได้

ใครเป็นคู่ชีวิตที่แท้จริงของคุณ? แม่? พ่อ? ภรรยา? ลูกชาย? สามี? ลูกสาว? เพื่อน? ไม่ใช่สักคน คู่ชีวิตที่แท้จริงก็คือร่างกายของคุณ

เมื่อร่างกายของคุณไม่ตอบสนองก็ไม่มีใครอยู่กับคุณ คุณกับร่างกายของคุณอยู่ด้วยกันตั้งแต่เกิดจนตาย คุณทำอะไรกับร่างกายของคุณเป็นความรับผิดชอบของคุณเอง และมันจะมีผลย้อนกลับมาถึงตัวคุณเสมอ

ยิ่งคุณดูแลร่างกายของคุณดีเท่าใด ร่างกายของคุณก็จะยิ่งดูแลคุณดีขึ้นเพียงนั้น

คุณกินอะไร คุณทำอะไรที่ทำให้ร่างกายอยู่ในสภาพที่ฟิต คุณจัดการกับความเครียดอย่างไร คุณให้การพักผ่อนแก่มันมากเพียงใด ทั้งหมดนี้เป็นตัวตัดสินว่าร่างกายของคุณจะตอบสนองอย่างไร

จงจำไว้ว่าร่างกายของคุณเป็นที่อยู่ถาวรแห่งเดียวเท่านั้นที่คุณจะอยู่อาศัย

ร่างกายของคุณคือทรัพย์สิน หนี้สิน ซึ่งจะไม่มีใครมาร่วมแชร์ได้เลย

ร่างกายของคุณคือความรับผิดชอบของตัวคุณเองเพราะคุณคือคู่ชีวิตที่แท้จริงของมัน

จงมีร่างกายในสภาพที่ฟิต ดูแลตัวคุณเอง เงินมาแล้วก็ไป ญาติและมิตรไม่ใช่สิ่งที่ถาวร

จงจำไว้ว่าไม่มีใครสามารถช่วยร่างกายของคุณได้นอกจากตัวคุณเอง

ควบคุมลมหายใจ—เพื่อปอด
นั่งสมาธิ—เพื่อใจ
โยคะ—เพื่อร่างกาย
การเดิน—เพื่อหัวใจ
อาหารที่ดี—เพื่อลำไส้
ความคิดที่ดี—เพื่อจิตวิญญาณ
กรรมดี—เพื่อโลก

ข้อเขียนนี้เตือนให้นึกถึงวลีที่ว่า “ตัวฉันเท่านั้นที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของฉันได้ ไม่มีใครสามารถทำแทนฉันได้” ดังนั้นความมุ่งมั่นของตัวเราเองเท่านั้นที่จะทำให้เราสามารถดูแล “คู่ชีวิต” ของเราได้

ลองดูสถิติที่มาจากตารางประกันชีวิตของคนอเมริกันต่อไปนี้เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับความยาวของเวลาที่จะอยู่กับ “คู่ชีวิต” ของเรา (คนไทยที่ดูแลสุขภาพตนเองดีพอควร ไม่น่าจะมีสถิติที่แตกต่างจากนี้มากนัก)

ถ้าวันนี้คุณมีอายุ 50 ปี คุณมีความเป็นไปได้ 0.92 (หรือ 92%) ที่จะมีอายุถึง 60 ปี หรือพูดอีกอย่างหนึ่งว่าคนอายุ 50 ปี ในวันนี้จำนวน 100 คน มีความเป็นไปได้ที่จะรอดไปถึงอายุ 60 ปี 92 คน (อีก 8 คน ลาจากไปก่อน)

เมื่อถึงอายุ 60 ปี ก็มีความเป็นไปได้ 86% ที่จะอยู่ถึงอายุ 70 ปี (14 คน จากไปก่อนถึงอายุ 70 ปี) และอายุ 70 ปี เป็นจุดสำคัญที่เริ่มมีความแตกต่างระหว่างหญิงและชาย

สำหรับชายความเป็นไปได้ที่จะมีอายุถึง 80 ปี คือ 67% (จากอายุ 70 ปี มีชายจำนวนเพียง 2 ใน 3 ที่จะมีอายุถึง 80 ปี) ส่วนหญิงนั้นความเป็นไปได้ที่จะถึง 80 คือ 75% (หญิงอายุ 70 ปี มีโอกาสถึง 80 ปี เป็นจำนวน 3 ใน 4)

อายุ 80 ปี เป็นต้นไป ผู้ชายมีโอกาสถึง 90 ปีเพียง 20% (หรือ 1 ใน 5 พูดอีกอย่างว่าชายวัย 80 ปี 100 คน จะถึงอายุ 90 ปี 20 คน) สำหรับหญิงสถิติงดงามกว่าเพราะหญิงอายุ 80 ปี มีโอกาสถึง 90 ปี ถึง 33% หรือ 1 ใน 3 หญิงโดยทั่วไปในเกือบทุกสังคมมักมีอายุยืนกว่าชายเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้องการให้เธอได้มีความสุขสงบในบั้นปลายของชีวิต

ถ้าดูภาพอีกลักษณะ ถ้าวันนี้อายุ 50 ปี มีโอกาสมีอายุถึง 70 ปี ประมาณ 78% และมีความเป็นไปได้ถึงอายุ 80 ปีประมาณ 52%
ตัวเลขเหล่านี้จะไม่เป็นจริงสำหรับตัวท่าน มันจะดีกว่านี้ถ้าท่านดูแล “คู่ชีวิต” ของท่านอย่างระมัดระวังตั้งแต่บัดนี้

หมายเหตุ : ตีพิมพ์ครั้งแรก คอลัมน์ “อาหารสมอง” นสพ.กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันอังคารที่ 24 ก.ย. 2562