ThaiPublica > คอลัมน์ > บันทึกช่วยจำสำหรับลูก

บันทึกช่วยจำสำหรับลูก

2 กันยายน 2016


วรากรณ์ สามโกเศศ

ข้อเขียนดีๆ มีอยู่มากมายในอินเทอร์เน็ต มีข้อเขียนหนึ่งที่อยากให้ได้อ่านกันอย่างกว้างขวางจึงขอนำมาสื่อสารต่อ

ข้อเขียนนี้แพร่หลายมากในโลกออนไลน์ภาษาจีน เป็นบันทึกที่เหลียงจี้จาง (Michael Leung) นักจัดรายการวิทยุยอดนิยมของฮ่องกงเขียนให้ลูกชาย มีความว่า

“ลูกพ่อ : พ่อเขียนบันทึกช่วยจำนี้ให้ลูกด้วยเหตุผล 3 ข้อ (1) ชีวิตคนเราโชคเคราะห์ไม่แน่นอน ไม่มีใครรู้ว่าจะอยู่ได้นานเพียงใด เรื่องบางเรื่องพูดเร็วสักหน่อยจะดีกว่า (2) พ่อเป็นพ่อของลูก ถ้าพ่อไม่บอก ก็คงไม่มีใครบอก (3) สิ่งที่พ่อบอกในบันทึกนี้ ล้วนเป็นประสบการณ์ที่พ่อได้มาจากความพ่ายแพ้ ดังนั้น จะช่วยให้ลูกเดินทางผิดพลาดน้อยลง

ต่อไปนี้เป็นเรื่องที่ลูกควรจดจำในชีวิต

(1) คนที่ทำไม่ดีกับลูก ลูกอย่าได้ติดใจนัก ในชีวิตของลูกไม่มีใครมีหน้าที่ต้องทำดีกับลูกนอกจากพ่อกับแม่แล้ว ใครดีกับลูก ลูกต้องถนอมรัก รู้คุณ

(2) ไม่มีใครที่ทดแทนไม่ได้ ไม่มีสิ่งใดที่จำต้องครอบครอง หากมองเรื่องนี้ได้ทะลุ ต่อไปถึงแม้ลูกจะสูญเสียทุกอย่างที่รักที่สุดในโลกไป ก็ควรเข้าใจว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรนัก

(3) ชีวิตนั้นสั้น วันนี้อาจจะยังใช้ชีวิตฟุ่มเฟือย พรุ่งนี้จะรู้สึกว่าชีวิตทิ้งลูกไปไกล ดังนั้น ถนอมชีวิตให้ดีได้เร็วเท่าใด วันเวลาที่จะได้ใช้ชีวิตก็จะมีมากเพียงนั้น แทนที่จะหวังอายุยืน จงใช้ชีวิตอย่างทะนุถนอมโดยเร็วจะดีกว่า

(4) ความรักเป็นความรู้สึกอย่างหนึ่ง และความรู้สึกนี้จะเปลี่ยนได้ตามเวลาและสภาพจิตใจ ถ้าคนที่ลูกรักที่สุดจากลูกไป ขอให้อดทนรอคอยสักหน่อย ให้เวลาค่อยๆ ชะล้าง ให้จิตใจค่อยๆ นิ่งลง ความขมขื่นของลูกก็จะค่อยๆ จืดจาง อย่าได้ขยายความงดงามของความรักจนเกินงาม และอย่าได้ขยายความเศร้าของการเสียความรักจนเกินควร

…คนเราสร้างตัวโดยไม่มีอะไรได้ แต่ถ้าไม่มีความรู้อาจไม่มีแม้แต่เหล็กสักท่อนในมือ…

(5) แม้จะมีคนที่ประสบความสำเร็จจำนวนมากไม่ได้รับการศึกษามากนัก แต่ไม่ได้หมายความว่าขี้เกียจเรียนแล้วจะประสบความสำเร็จได้ ความรู้ที่ลูกได้เรียนจะเป็นอาวุธที่ลูกมีติดตัว คนเราสร้างตัวโดยไม่มีอะไรได้ แต่ถ้าไม่มีความรู้อาจไม่มีแม้แต่เหล็กสักท่อนในมือ จงจำให้ดี!

(6) พ่อไม่ขอร้องให้ลูกเลี้ยงดูพ่อในบั้นปลายชีวิต ทำนองเดียวกัน พ่อก็ไม่สามารถเลี้ยงลูกในบั้นปลายชีวิต เมื่อลูกโตจนเลี้ยงตัวเองได้ หน้าที่ของพ่อก็สิ้นสุดลง จากนี้ไปลูกจะนั่งรถเมล์หรือวิ่ง จะกินหูฉลามหรือเส้นหมี่ ลูกต้องรับผิดชอบตัวเอง

(7) ลูกเรียกร้องให้ตัวเองรักษาคำมั่นสัญญาได้ แต่จะเรียกร้องให้คนอื่นรักษาคำมั่นสัญญาไม่ได้ ลูกเรียกร้องให้ตัวเองทำดีต่อคนอื่นได้ แต่ไม่อาจคาดหวังให้คนอื่นดีต่อลูก เราทำต่อคนอื่นอย่างไรไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะทำต่อลูกเช่นเดียวกัน ถ้าลูกมองไม่เห็นเรื่องนี้ ก็รังแต่จะเพิ่มความทุกข์อันไม่จำเป็นให้เท่านั้น

(8) พ่อซื้อล็อตเตอรี่มา 26 ปี ยังคงยากไร้ แม้แต่รางวัลที่สามก็ไม่เคยถูก ขอยืนยันว่าคนเราจะรวยได้ต้องพากเพียรทำงานเท่านั้น “โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี”

(9) ญาติมีบุญมาพบกันได้เพียงครั้งเดียว ไม่ว่าชาตินี้พ่อจะอยู่กับลูกได้นานเพียงใด ลูกต้องถนอมวันเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน ชาติหน้าไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ชอบก็จะไม่ได้พบกันอีก ”

มีคนเคยพูดว่าชีวิตคนหนึ่งนั้นจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับว่าหนึ่งได้พบใคร และสองได้อ่านอะไร สิ่งแรกอาจมีชะตากรรมเป็นตัวร่วมกำหนด แต่สำหรับสิ่งหลังนั้นตัวเราเองเป็นคนกำหนดโดยแท้

หมายเหตุ: ตีพิมพ์ครั้งแรก คอลัมน์ “อาหารสมอง” นสพ.กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันอังคารที่ 30 ส.ค. 2559